เคพีเอ็มจีประเทศไทย พร้อมสนับสนุน SMEs และ สตาร์ทอัพไทย
เคพีเอ็มจี ประเทศไทย ลงนามข้อตกลง กับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในการพัฒนาระบบการเรียนรู้ออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ และพัฒนาแพลตฟอร์มที่ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน
SMEs และสตาร์ทอัพเป็นส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยคิดเป็นหนึ่งในสามของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ทั้งหมด ผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อเศรษฐกิจของไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะต่อธุรกิจ SMEs และสตาร์อัพ โดยที่มากกว่า 60% รายงานว่ารายได้ลดน้อยลงเป็นผลโดยตรงจากการแพร่ระบาดครั้งนี้
เจริญ ผู้สัมฤทธิ์เลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคพีเอ็มจี ประเทศไทย เมียนมาร์ และลาว กล่าวว่า “ที่เคพีเอ็มจี เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า SMEs และสตาร์ทอัพเป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย เพราะฉะนั้นเราจำเป็นที่จะต้องสนับสนุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจเหล่านี้ ด้วยความตั้งใจนี้ ทำให้ทีมเคพีเอ็มจี ไพรเวท เอ็นเตอร์ไพรซ์ ของเคพีเอ็มจี ประเทศไทย นำโดยคุณศศิธร พงศ์อดิศักดิ์ มีความยึดมั่นที่จะสนับสนุนธุรกิจ SMEs และสตาร์ทอัพของไทย
นอกจากนี้ทางเคพีเอ็มจี ประเทศไทยยังได้ลงนาม MoU กับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อสร้างพื้นฐานความรู้ และให้เครื่องมือต่อยอดแก่ธุรกิจเหล่านี้ให้ยืนหยัด เติบโตและขยายตัวได้ในปัจจุบัน”
เคพีเอ็มจี ประเทศไทยได้ร่วมลงนามในข้อตกลงในการพัฒนาระบบการเรียนรู้ออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจที่ต้องการจะสร้างและขยายกิจการ นอกจากระบบสื่อการเรียนรู้ออนไลน์นี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยังมีการสร้างแพลตฟอร์ม LiVE Exchange ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับธุรกิจ SMEs และสตาร์ทอัพในการเข้าถึงเงินทุนในตลาดทุน เคพีเอ็มจี ประเทศไทย เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ธุรกิจในประเทศไทย
ปัจจุบันการแข่งขันทางธุรกิจสูงกว่าเดิม และมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จ หรือความล้มเหลวของธุรกิจ เคพีเอ็มจี ประเทศไทยมีศักยภาพ ความเชี่ยวชาญ และความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยโดยเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ธุรกิจ SMEs และสตาร์ทอัพ ก้าวไปข้างหน้าสู่แต่ละห้วงการเติบโตของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการก่อตั้งธุรกิจ การเติบโตของกิจการ การเปลี่ยนผ่าน และการสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กร แพลตฟอร์มการเรียนรู้ครั้งนี้จะช่วยให้ธุรกิจไทยมีความพร้อมและเครื่องมือสำหรับความสำเร็จ
ศศิธร พงศ์อดิศักดิ์ กรรมการบริหาร และหัวหน้าฝ่ายไพรเวท เอ็นเตอร์ไพรซ์ เคพีเอ็มจี ประเทศไทย กล่าวว่า “ทุกองค์กรจะมีการเติบโตตามวงจรธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นสตาร์ทอัพ หรือองค์กรขนาดใหญ่ แต่ละช่วงของธุรกิจจะมาพร้อมโอกาส และความท้าทายคนละแบบ สิ่งที่สำคัญคือ SMEs และสตาร์ทอัพจะต้องทราบถึงโอกาสและความท้าทายเหล่านี้ พร้อมตัดสินใจทางกลยุทธ์ที่จะทำให้ธุรกิจก้าวหน้าต่อไปได้ การให้ความรู้และความสามารถกับ SMEs และสตาร์ทอัพ ไม่ว่าในแง่ของกลยุททธ์ทางธุรกิจ การวางแผน หรือการบริหารองค์กร จะทำให้ธุรกิจเหล่านี้ขยายตัวและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันได้
เคพีเอ็มจี เข้าใจว่าการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการเจริญเติบโตและขยายกิจการ เพราะฉะนั้น ทีมไพรเวท เอ็นเตอร์ไพรซ์ ของเคพีเอ็มจี ประเทศไทยพร้อมที่จะยืนเคียงข้างและเดินไปข้างหน้ากับธุรกิจไทย”
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวงจรทางธุรกิจและกลยุทธ์ต่างๆ สำหรับธุรกิจเอกชน และ SMEs