สิงห์ เอสเตทจับมือพันธมิตร ทำโครงการปลูกป่า 10 ปีปลูกให้มาก เร็วและดูแลง่าย

สิงห์ เอสเตทจับมือพันธมิตร ทำโครงการปลูกป่า 10 ปีปลูกให้มาก เร็วและดูแลง่าย

ตั้งเป้าปลูกป่าให้ได้ 1 ล้าน ตร.ม. ปลูกให้มาก เร็วและดูแลง่าย เรื่องนี้"สิงห์ เอสเตท"มีพันธมิตรช่วยเรื่องนวัตกรรมการปลูก ตั้งเป้าโครงการ10 ปี โดยมีระบบติดตาม ตรวจวัด และประเมินผลให้เกิดประโยชน์สูงสุด

สิงห์ เอสเตท และพันธมิตร สยามคูโบต้า ไทยคม และชุมชนในพื้นที่บริเวณสิงห์ปาร์ค จ.เชียงราย ทำโครงการ “ปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว” ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือภาวะโลกร้อนในปี 2030

โดยตั้งเป้าปลูกป่าให้ได้พื้นที่อย่างน้อย 1 ล้านตารางเมตร หรือกว่า 625 ไร่ ในพื้นที่ป่าต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อรักษาความสมดุลด้านความหลากหลายทางชีวภาพ และสร้างจิตสำนึกกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนเมืองสู่สังคม low carbon

ฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)กล่าวถึงที่มาโครงการปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว เป็นการสร้างป่าในระยะยาว นอกจากนี้ยังได้เทคโนโลยีในการติดตามการเจริญเติบโตของต้นไม้ และปริมาณการดูดซับคาร์บอน จากทางไทยคม ส่วนสยามคูโบต้า ช่วยด้านนวัตกรรมในการปลูกป่าจำนวนมากได้เร็วขึ้น รวมถึงหน่วยงานราชการจากทางจังหวัดเชียงราย และชุมชนในพื้นที่ 

"เราตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากที่สุด อย่างน้อยคือต้องเพิ่มให้ได้เท่ากับพื้นที่ก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท หรือไม่น้อยกว่า 1 ล้าน ตร.ม. ในระยะเวลา 10 ปี ”

สิงห์ เอสเตทจับมือพันธมิตร ทำโครงการปลูกป่า 10 ปีปลูกให้มาก เร็วและดูแลง่าย

 

ศิริธร ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายภาพลักษณ์องค์กร และการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)เล่าเพิ่มว่า คอนเซปท์ของโครงการนี้คือ การดูแลป่าทำได้ง่าย…ใช้แค่ปลายนิ้ว ช่วยกันลดการปล่อยคาร์บอนในชีวิตประจำวัน

"จากแคมเปญออนไลน์เมื่อเดือนที่ผ่านมากับ Environman เราได้ไอเดียลดการปล่อยคาร์บอน หรือการปลูกป่าด้วยปลายนิ้วของผู้ร่วมแคมเปญมามากกว่า 500 ไอเดีย ซึ่งทุกไอเดียที่ส่งเข้ามาร่วมกิจกรรมจะถูกนำไปต่อยอดสร้างกระแสสังคม Low carbon ต่อไป หรือ ‘Enriching Community’

พร้อมทั้งต่อยอดการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ‘Life on Land Biodiversity’ ด้วยการตั้งเป้าโครงการดูแลป่า และเพิ่มพื้นที่ดูดซับคาร์บอนในพื้นที่ทั้ง 3 ป่า ทั้งป่าต้นน้ำ ป่ากลางน้ำหรือป่าในเมือง และป่าปลายน้ำหรือป่าโกงกาง" 

สิงห์ เอสเตทจับมือพันธมิตร ทำโครงการปลูกป่า 10 ปีปลูกให้มาก เร็วและดูแลง่าย

พิษณุ มิลินทานุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขาย การตลาดและบริการ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัดกล่าวว่า จะมาช่วยผลักดันให้เกิดการทำเกษตรปลอดการเผา หรือ Zero Burn ตลอดจนสร้างรายได้จากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรให้แก่เกษตรกรทั่วประเทศ

และยังมีแผนขยายผลสู่โครงการเกษตรลดโลกร้อน รองรับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการเกษตรให้เป็นศูนย์ Net Zero Emission ภายในปี 2050

ทั้งนี้โครงการปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว โดยสิงห์ เอสเตท ตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่สีเขียวและปลูกป่าให้ได้อย่างน้อย 1 ล้าน ตร.ม. โดยเริ่มที่ป่าต้นน้ำในบริเวณไร่สิงห์ปาร์ค จ.เชียงราย จำนวน 625 ไร่

และจะขยายต่อสู่ป่ากลางน้ำหรือป่าในเมือง โดยคาดว่าจะเป็นพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ต่อด้วยพื้นที่ป่าปลายน้ำ หรือป่าโกงกาง ที่เกาะพีพี ตั้งเป้าโครงการระยะยาว 10 ปี ที่จะมีการติดตาม ตรวจวัด และประเมินผล เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงที่สุด