สังคมและวิถีไทยที่ไปได้ดี กับเทคโนโลยี 2018

เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งที่มีบทบาทและความสำคัญมากๆในการกำหนดความเปลี่ยนแปลงต่างๆของมนุษย์ แต่บทบาทของเทคโนโลยีนั้นอาจเป็นเพียงสิ่งที่มาสนับสนุนหรือช่วยส่งเสริม (Enabler)ให้กับความต้องการของคนเรา มนุษย์ต่างหากที่จะเป็นผู้กำหนดว่าเทคโนโลยีแบบไหนที่จะคงอยู่ได้และกำหนดอายุของเทคโนโลยีนั้นว่าเทคโนโลยีแบบไหนที่อาจเกิดขึ้นมาแล้วเงียบหายไป เมื่อครั้งที่ Google Glass เปิดตัวใหม่ๆ ในเมืองไทยได้สร้างความฮือฮาและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แต่เทคโนโลยีนี้อาจไม่สามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งหรือเข้าถึงวิถีชีวิตของคนไทยได้อย่างกลมกลืน เพราะถูกมองว่าไม่สะดวกสบายอย่างที่คิด และไม่เข้ากับวิถีชีวิตประจำวัน ในฉบับนี้จึงอยากจะกล่าวถึงวิถีแบบไทยๆ และเทคโนโลยีที่เรามองว่าจะช่วยตอบโจทย์คนไทยได้ดี

1.ความง่าย

สำหรับคนไทย ความง่ายเป็นสิ่งที่สำคัญ เราไม่ชอบอะไรที่ใช้ยากเข้าใจยาก วีถีแบบนี้เป็น signature อย่างหนึ่งของเราก็ว่าได้ เรามีคำพูดที่ว่า ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก เพราะฉะนั้นเทคโนโลยีอะไรก็แล้วแต่ที่มาทำให้ชีวิตง่ายขึ้นก็จะดูเป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อคนไทยแบบเราๆ

JD.Com หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดตัวร้านที่กรุงปักกิ่ง ได้มีการเปิดตัวร้านค้าแบบไม่มีพนักงานให้บริการอีกแห่งที่กรุงจาร์การต้าเป็นร้านที่สองเมื่อเดือนสิงหาคม 2561 และยังมีโครงการที่จะเปิดตัวร้านค้าที่ให้บริการแบบนี้ในประเทศไทยในปีหน้า ร้านค้านี้เป็นร้านที่นำระบบ artificial intelligence มาใช้โดยใช้ระบบ AI สร้างความง่ายและมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ซื้อสินค้า เมื่อคุณต้องการสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งในร้าน คุณเพียงแต่หยิบสินค้าแล้วเดินออกไปจากร้านได้เลย ไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลารอคิวนานๆ หรือติดต่อพนักงานเพื่อจ่ายเงินให้ยุ่งยาก ร้านนี้ขายทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค รวมไปจนถึงเครื่องประดับและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เราสามารถลองเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ๆ แล้วเดินออกมาจากร้านได้ทันทีเมื่อคุณพอใจ เทคโนโลยีที่ร้านนำมาใช้คือให้ลูกค้าสแกนบาร์โค้ดที่ด้านหน้าร้านตอนแรกก่อนเข้ามาซื้อสินค้าในร้าน ความง่ายดายที่มอบให้แก่ผู้บริโภคนั้นมาจากเทคโนโลยีที่ซับซ้อนมารวมตัวกัน เช่น RFID (Radio Frequency Identification), Facial recognition , Tracking activity device, Image recognition, Movement recognition และ ระบบการจ่ายเงินแบบพิเศษ

เทคโนโลยีเหล่านี้ นอกจากจะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ยังเป็นแหล่งข้อมูล consumer insights ทีดีมากๆให้กับเจ้าของร้านค้านั้นๆอีกด้วย เพราะร้านค้าหรือบริษัทผู้ให้บริการจะสามารถรับรู้พฤติกรรมการซื้อสินค้าของ ลูกค้าและช่วยในการนำมาทำ personalized advertisements/ promotion เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเฉพาะได้ดีและตรงจุดอีกด้วย 

2.การประหยัดเวลา

เรามักได้ยินคนไทยพูดเสมอว่า เวลาเป็นเงินเป็นทอง คำพูดนี้สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมของคนไทยว่าให้ความสำคัญกับเวลาเป็นอย่างมาก จึงเปรียบว่าเวลานั้นเป็นของมีค่ากันเลยทีเดียว ดังนั้นความเร็วควบคู่กับประสิทธิภาพ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับสังคมไทย

Visa pay Wave เป็นรูปแบบการจ่ายเงินที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เทคโนโลยีนี้ช่วยประหยัดเวลาในการรูดบัตรแบบเดิมๆกับเครื่องรูดบัตร แต่ช่วยลดขั้นตอนเป็นเพียงแค่โบกบัตรเครดิตของเราเบาๆ เหนือเครื่องแสกน ในเวลาสั้นๆก็สามารถใช้ชำระเงินได้แล้ว เป็นการชำระเงินได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที

 3.ความสุขสนุกสนาน

เนื้อเพลงในท่วงทำนองที่ว่า  สุขกันเถอะเรา เศร้าไปทำไม  ช่วยสะท้อนให้เห็นว่า คนไทยรักสนุก มีความสุข มีมุมมองชีวิตในแง่บวก แม้เวลาที่ชาติไทยของเรามีวิกฤตคนไทยก็สามารถที่จะสามารถก้าวข้ามวิกฤติต่างๆไปได้และสามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและมีความสุขเสมอ ทั้งนี้อาจมีส่วนจากอิทธิพลของศาสนา และวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมา แต่คนไทยเรามักจะเบื่ออะไรได้ง่ายๆหากสิ่งนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรือสามารถสร้างความตื่นเต้นสนุกสนานได้อีกต่อไป ดังนั้นความสนุกสนานบันเทิงในบ้านเราต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงไปตามจริตที่เปลี่ยนไปของคนไทยด้วย เกมส์โชว์เป็นรายการที่อยู่คู่กับเรามานาน เพราะคนไทยชอบใช้ความคิดแฝง ไปด้วยความสนุกและหลากหลาย

ในปัจจุบันเกมส์โชว์เลือดใหม่ที่กำลังเป็นที่สนใจคือ Interactive Game Show หรือเกมส์ที่มีการโต้ตอบเชื่อมโยงกับผู้เล่นเป็นจำนวนมาก นั่นคือ Ten Ten ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อระหว่าง Technology และ Entertainment LINE ประเทศไทยได้จับมือกับกับพิธีกรดัง Woody ในการทำเกมส์โชว์ให้คนทั้งประเทศสามารถเข้าร่วมได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่นมือถือ โดยให้ตอบคำถาม 10 คำถามให้ได้ภายในเวลา 10 นาที เป็นปรากฎการณ์ที่เอาความบันเทิงและของรางวัลมาเป็นจุดสนใจผ่าน Social media สามารถให้คนเข้าร่วมเล่นเกมส์นี้ได้เป็นจำนวนมาก

 4.หน้าตาในสังคม/ ภาพลักษณ์

ภาพลักษณ์เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญสำหรับคนไทย เรามีคำพูดที่ว่า ต้องรักษาหน้าตาของเราหรือครอบครัว การใช้ชีวิตหรือเลือกสินค้าและบริการต่างๆของคนไทยจึงมีเรื่องของความใส่ใจในภาพลักษณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ในอดีตเราอาจจะเสริมภาพลักษณ์ด้วยของแบรนด์เนม หรือของมีค่าต่างๆ เช่นแหวนเพชร แหวนทองแต่ในปัจจุบัน สินค้าที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ๆถูกหยิบมาใช้ในการเสริมภาพลักษณ์มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Smart ring แหวนที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่นๆได้ ใช้ unlock มือถือหรือประตู สามารถใช้เปิดแอพ หรือเปิดบลูทูช และยังสามารถบอกข้อมูลของสุขภาพเช่นการเต้นของหัวใจเป็นต้น

เทคโนโลยีที่จะเกิดและอยู่อย่างยั่งยืนในประเทศไทยคือ เทคโนโลยีที่เข้ากับวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของเรา นอกจากนี้เรื่องของความเสถียร ประสิทธิภาพ และการเข้าถึงได้ง่ายก็เป็นปัจจัยที่สำคัญค่ะ