อินเดียก็แค่ปากซอย (3)

อินเดียก็แค่ปากซอย (3)

อินเดียเป็นดั่งช้างที่ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ และสร้างความสัมพันธ์ แต่เมื่อช้างเริ่มเคลือนที่ โอการที่เกิดขึ้นจะยิ่งใหญ่เกินกว่าที่คุณคาดหวัง

จากรายงาน World Investment Report ปี 2563 ของ UNCTAD ให้ข้อมูลว่า FDI ที่ไหลเข้าภูมิภาคเอเชียใต้เมื่อปี 2562 เติบโตขึ้นในอัตราร้อยละ 10 ในช่วงปี 2561-2562 จำนวน FDI สูงสุดที่ 6.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นการลงทุนในอินเดียเป็นส่วนสำคัญ เนื่องจากอินเดียผ่อนคลายกฎระเบียบการลงทุนในด้านการค้าปลีก การประกัน และกระบวนการผลิตถ่านหิน

การลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology : ICT) และภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง การลงทุนในสาขา ICT ของอินเดียได้พัฒนาจากจุดเริ่มต้นของการลงทุนของบริษัทต่างชาติสู่การเติบโตของบริษัทท้องถิ่นของอินเดียที่ประสบความสำเร็จในการสร้างระบบนิเวศ

ดิจิทัล (Digital Ecosystem) ในอินเดียปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจ E-Commerce เพิ่มมากขึ้น การลงทุนในบริษัทอินเตอร์เน็ทในอินเดียมีมูลค่ารวมกว่า 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยการร่วมลงทุน (Venture Capital Investments) ในบริษัทอินเตอร์เน็ตของอินเดียที่สำคัญ ได้แก่ บริษัท One97,Grovers,BrainBees,MakerMy Trip และ การเข้าซื้อกิจการของบริษัท Essar Steel (India) โดยบริษัทร่วมทุนอินเดีย-ญี่ปุ่น

ข้อมูลจาก Bloomberg ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2567 ตลาดหุ้นอินเดียมีมูลค่าตลาด (Market Capitalization) กว่า 5 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก เติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี ในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา สะท้อนถึงศักยภาพและความมั่นคงของเศรษฐกิจอินเดีย การเติบโตเป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจในประเทศ การเพิ่มขึ้นของการบริโภคภายในประเทศ ทำให้อินเดียเป็นตลาดที่นักลงทุนทั่วโลกสนใจ

ตลาดหุ้นอินเดียมีบริษัทจดทะเบียนหลากหลายอุตสาหกรรม โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มบริการทางการเงิน กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ และกลุ่มพลังงาน รวมทั้งการเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัพและนวัตกรรม สภาพคล่องของตลาดหุ้นและอุตสาหกรรมที่หลากหลาย นักลงทุนสามารถซื้อหุ้นได้อย่างสะดวกสบาย

เศรษฐกิจของอินเดียมีความแข็งแกร่ง ในขณะที่เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของตลาดพัฒนาแล้วกำลังก้าวสู่ภาวะถดถอย ภาคธุรกิจเอกชนฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง หนี้ภาคเอกชนอยู่ในระดับต่ำกว่า 50% ของ GDPและอยู่ในทิศทางที่ลดลง

การเติบโตสินเชื่อของอินเดียอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของอินเดียส่วนหนึ่งเกิดจากภาคส่งออกที่ปัจจุบันอยู่ในสัดส่วนที่ต่ำกว่า 20% ของ GDP ทำให้ไม่มีความเสี่ยงจากการที่ความต้องการทั่วโลกชะลอตัวลง สินค้าที่ส่งออกส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์ยาและบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งไม่ต้องเผชิญกับความต้องการที่ลดลงอย่างรวดเร็ว

การส่งออกกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเคมีภัณฑ์กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าเมื่อเทียบกับการเติบโตในอดีต

ในการเสวนา “เป้าหมายถัดไป อินเดีย” เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 นายนาเคศ สิงห์ เอคอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย กล่าวว่า ความหลากหลายทางภูมิภาคของอินเดียซึ่งประกอบด้วยรัฐขนาดเล็กและใหญ่ที่มีประชากรมากกว่าหลายประเทศ มีความซับซ้อนทางวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องคำนึง การลงทุนในอินเดียจำเป็นต้องมีความอดทนและเข้าใจกับระบบท้องถิ่น ควรมีพันธมิตรที่เชื่อถือได้ มีความรู้ลึกชึ้งเกียวกับตลาด เพื่อให้การดำเนินธุรกิจราบรื่น เขาแนะนำให้ผู้ประกอบการศึกษาเกี่ยวกับรัฐที่เหมาะสม เนื่องจากรัฐต่าง ๆ ในอินเดียมีสิ่งจูงใจและข้อเสนอที่แตกต่างกัน

“อินเดียเป็นดั่งช้างที่ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ และสร้างความสัมพันธ์ แต่เมื่อช้างเริ่มเคลือนที่ โอการที่เกิดขึ้นจะยิ่งใหญ่เกินกว่าที่คุณคาดหวัง” เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทยกล่าว….