มวยคู่เอก! ชูวิทย์ VS สันธนะ เบื้องหน้าเบื้องหลัง ปมธุรกิจสีเทาแสนล้าน

มวยคู่เอก! ชูวิทย์ VS สันธนะ เบื้องหน้าเบื้องหลัง ปมธุรกิจสีเทาแสนล้าน

จับประเด็นร้อน สะท้อนประเด็นดัง ชูวิทย์ VS สันธนะ มวยคู่เอก เบื้องหน้าเบื้องหลัง ปมธุรกิจสีเทาแสนล้าน

ทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์ กลายเป็นประเด็นร้อน ระหว่าง อดีตเจ้าพ่ออาบอบนวด "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" กับ "สันธนะ ประยูรรัตน์" อดีตตำรวจสันติบาล ซึ่งทั้งคู่ถูกมองเป็นผู้กว้างขวางมีข้อมูลเบื้องหน้าเบื้องหลัง เกี่ยวกับบ่อนการพนัน ผับสถานบันเทิง อาบอบนวด และธุรกิจสีเทาอื่น ๆ

มวยคู่เอก! ชูวิทย์ VS สันธนะ เบื้องหน้าเบื้องหลัง ปมธุรกิจสีเทาแสนล้าน

น่าสนใจว่า ชูวิทย์และสันธนะ วิวาทะกันกรณี "กลุ่มทุนจีนสีเทา" ภายหลังจากเหตุตำรวจนครบาลกว่า 100 นาย บุกทลายแหล่งมั่วสุมชาวจีน กลางดึกเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 เข้าตรวจค้นอาคารจินหลิง หรือ ผับจินหลิง , อาคาร LEELA และ อาคาร WIP WUP CAR WASH ย่านถนนเจริญราษฎร์ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร

มวยคู่เอก! ชูวิทย์ VS สันธนะ เบื้องหน้าเบื้องหลัง ปมธุรกิจสีเทาแสนล้าน

แหล่งเที่ยวลับดังกล่าว ด้านหน้าเปิดเป็นร้านรับล้างรถบังหน้า ด้านในอาคารรถหรูจอดเรียงราย พบนักเที่ยวชาวจีนเกือบ 300 คน สารเสพติดจำนวนมาก ค้นห้องพบยาเสพติดบรรจุซองพร้อมขายซองละ 1 หมื่นบาท และใช้ยาเสพติดไม่หมดฝากไว้ได้
 

ชูวิทย์เริ่ม..ชี้เป้า

พลันที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เห็นข่าวทลายผับลับกลางดึก จึงออกมาขยี้ชี้กลุ่มนายทุนชาวจีน เปิดสถานบันเทิงผับลับอย่างผับจินหลิง จะรับลูกค้าที่เป็นคนจีนเท่านั้น เสพยาเสพติด และเปิดเป็นบ่อนการพนันด้วย

ทั้งน้ำดื่ม สุรา บุหรี่ นำเข้ามาจากประเทศจีน พร้อมจ้างคนจีนเป็นเด็กเสิร์ฟ จึงเรียกสถานบันเทิงประเภทนี้ว่า “ผับศูนย์เหรียญ” คือ เจ้าของเป็นคนจีน ของทุกอย่างมาจากประเทศจีนทั้งหมด โดยเข้ามาทำธุรกิจสีเทาอย่างยิ่งใหญ่ในประเทศไทย

มวยคู่เอก! ชูวิทย์ VS สันธนะ เบื้องหน้าเบื้องหลัง ปมธุรกิจสีเทาแสนล้าน

กลายเป็นข่าวใหญ่ ทำให้ 2 บิ๊กดาวรุ่งลุ้นตำแหน่ง ผบ.ตร. ในอนาคต อย่างรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ออกโรงแอ็กชั่น เปิดปฏิบัติการต่อเนื่อง

ต่อมา (1 พ.ย.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวถึงคดีการจับกุมนักท่องเที่ยวชาวจีนมั่วสุมยาเสพติดในผับจินหลิง ถนนเจริญราษฎร์ พื้นที่ สน.ยานนาวา กรณีดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจ  3 นาย ระดับ รองผู้กำกับ , สารวัตร และรองสารวัตร ในข้อหาให้การช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีนและเรียกรับสินบน ซึ่งถูกสั่งย้ายในที่สุด

มวยคู่เอก! ชูวิทย์ VS สันธนะ เบื้องหน้าเบื้องหลัง ปมธุรกิจสีเทาแสนล้าน

ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล (3 พ.ย.) แถลงจับผู้ต้องหา 15 ราย เป็นคนไทย 5 ราย คนจีน 10 ราย พร้อมของกลางมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท จากปฏิบัติการ “ล้มไม้ค้ำ ลิดกิ่งก้าน” โดยการปิดล้อม ตรวจค้น 3 จุด เครือข่ายนายทุนจีนสีเทา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

"ข้อมูลที่ตำรวจได้มาส่วนใหญ่ตรงกับที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส่งมอบให้ตำรวจร่วมตรวจสอบ และหลังจากที่ได้ขยายผลไปที่เครือข่ายทำให้กลุ่มคนจีนที่เข้ามาทำผิดกฎหมายเริ่มหลบหนีออกประเทศไปมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้เชิญเลขาธิการสำนักงาน ปปง. มาร่วมหารือถึงการสืบสวนเส้นทางการเงินของกลุ่มขบวนการนี้" บิ๊กโจ๊ก ระบุ

การที่ ชูวิทย์ รับบทบาทพลเมืองดี ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ "กลุ่มทุนจีนสีเทา" ทำธุรกิจผิดกฎหมาย มอมเมาด้วยยาเสพติดและอบายมุขกับคนจีนด้วยกัน โดยใช้สถานที่ในไทยเป็นแหล่งเที่ยวลับเฉพาะนั้น ดูเหมือน "ฝ่ายตรงข้าม" ต้องแก้เกมก็อาจเป็นไปได้

สันธนะโผล่..ขอความเป็นธรรม

(4 พ.ย.) ที่สถานกักตัวคนต่างด้าว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู สันธนะ ประยูรรัตน์ เดินทางมาเพื่อขอยื่นประกันตัวนายเดวิด เจ้าของผับ Baby Face ย่านเอกมัย หลังถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านพักภายในซอยสุขุมวิท 63 พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินเป็นรถยนต์หรู 3 คัน สุรา และบุหรี่จำนวนมาก

สันธนะกล่าวถึงชูวิทย์ปมแก๊งกุมารจีน 5 คนว่า กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะมีคนจีนที่รู้จัก พูดว่าไม่ใช่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และไม่ได้ค้ายา ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่ปิดประเทศ ไม่ต้องต้อนรับคนจีนแล้ว ไล่ออกไปให้หมด

มวยคู่เอก! ชูวิทย์ VS สันธนะ เบื้องหน้าเบื้องหลัง ปมธุรกิจสีเทาแสนล้าน

 โดยเชื่อว่าการกวาดล้างกลุ่มทุนจีนน่าจะมาจากใบสั่งทางการเมือง ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาไปถึงกลุ่มนายทุนจีนจ้าวเหว่ยกับธุรกิจสีเทาในไทย มองว่าบุคคลที่ถูกอ้างถึงนั่นไม่ได้อยู่ในเมืองไทย จึงไม่น่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายในประเทศ ซึ่งยืนยันว่าขณะนี้นายเดวิดและกลุ่ม 5 เสือที่ถูกพาดพิงถึง อยากออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ยังไม่มีโอกาส จึงออกมาชี้แจงแทนเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้คนกลุ่มนี้

 

สันธนะบุกปะทะคารมชูวิทย์รอบแรก

(5 พ.ย.) ช่วงเวลาประมาณบ่าย 3 โมง โรงแรม Davis Hotel Corner Wing ซอยสุขุมวิท 24 ของชูวิทย์ ซึ่งสันธนะได้ไปแจ้งตำรวจ สน.ทองหล่อกลางดึกว่า สถานบริการดังกล่าว เปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และมีกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมหรือไม่ โดยชูวิทย์เป็นคนนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใด ๆ
มวยคู่เอก! ชูวิทย์ VS สันธนะ เบื้องหน้าเบื้องหลัง ปมธุรกิจสีเทาแสนล้าน

ชูวิทย์ชี้แจงว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกกล่าวหา การที่สันธนะนำคลิปภาพ และไม่รู้ได้ว่านักเที่ยวเข้าไปทำอะไร เพราะชาวต่างชาติจะไม่ถือเรื่องการเข้าห้องน้ำชายหญิง ถ้าผิดจริงไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดสามารถดำเนินคดีได้

มวยคู่เอก! ชูวิทย์ VS สันธนะ เบื้องหน้าเบื้องหลัง ปมธุรกิจสีเทาแสนล้าน

ขณะที่สันธนะยืนยันว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นไปตามที่ตนกล่าวอ้าง เพราะเมื่อคืนวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ให้ทีมงานเข้าไปหาข้อมูลในโรงแรม และถ่ายคลิปไว้ เป็นภาพสถานที่ในโรงแรม และในห้องน้ำที่มีชาวต่างชาติชายหญิง เข้าไปในห้องน้ำเดียวกันหลายคน จึงอยากให้ตำรวจตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ความจริงให้ชัดเจน โดยจะนำคลิปเหตุการณ์ภายในโรงแรมไว้เป็นหลักฐาน ให้กับตำรวจพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ

อุบัติการณ์ดังกล่าว กลายเป็นวิวาทะปะทะคารมกันระหว่างชูวิทย์กับสันธนะรอบแรก ซึ่งดูเหมือนว่าชูวิทย์ยังเก็บอาการไม่พอใจเก็บอารมณ์ข่มใจหลังมีคนบุกว่ากล่าวหารุนแรงถึงถิ่นอาณาจักรธุรกิจตนเอง

หลังจากต่างฝ่ายต่างใช้ "พื้นที่สื่อ" ทั้งแบบทีวีไปออกรายการและออนไลน์ เพื่อให้ข้อมูลในมุมมองของตนเอง จนในที่สุด เมื่อคืนวันที่ 9 พ.ย. 65 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ "บิ๊กโจ๊ก" เข้า สน.ทองหล่อ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีเกี่ยวกับกลุ่มทุนจีนที่ทำธุรกิจสีเทา

และคดีพิพาทกันระหว่าง ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้เปิดข้อมูลเกี่ยวกับนายทุนชาวจีนสีเทาในเมืองไทยกับ สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ที่ต่างฝ่ายต่างมาแจ้งความดำเนินคดีต่อกัน

ด้าน "ชูวิทย์" เดินทางมา สน.ทองหล่อ นำเอกสารหลักฐานมามอบให้ รอง ผบ.ตร. เพื่อทำการตรวจสอบพฤติกรรมของ "สันธนะ" มีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มทุนจีนที่กันมากระทำผิดกฎหมายในเมืองไทยหรือไม่อย่างไร

มวยคู่เอก! ชูวิทย์ VS สันธนะ เบื้องหน้าเบื้องหลัง ปมธุรกิจสีเทาแสนล้าน


ขณะบิ๊กโจ๊กและชูวิทย์กำลังนั่งแถลงข่าวนั้น สันธนะได้ปรากฏตัวขึ้นบริเวณประตูห้องประชุมชั้น 3 ของ สน.ทองหล่อ ที่ใช้เป็นห้องที่ใช้สำหรับการประชุมและกำลังแถลงข่าว สันธนะร้องโหวกเหวกอยู่หน้าห้องใช้มือทุบประตูเพื่อจะเข้ามาภายในห้อง 

ทำให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งการให้ พ.ต.อ.ดวงโชติ เชิญตัวสันธนะไปที่ห้องทำงาน ผกก. ที่ชั้น 2 เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกัน และเมื่อแถลงข่าวเสร็จแล้ว ชูวิทย์รอพบสันธนะอยู่ข้างล่าง สน.ทองหล่อ

 

มวยยกสอง..ชูวิทย์บุกท้าต่อยสันธนะหน้าโรงพัก

หลังจาก ชูวิทย์ ยืนให้สัมภาษณ์สื่อถึงความไม่พอใจมากกรณี สันธนะ บุกมา สน.ทองหล่อ ครั้งนี้ หลังคาใจเหตุ สันธนะ บุกไปโรงแรมมาแล้วหนหนึ่ง พร้อมกล่าวหารุนแรง ซึ่งบรรยากาศ ชูวิทย์ ให้สัมภาษณ์อย่างมีอารมณ์ฉุนเฉียวไม่พอใจพฤติกรรมของสันธนะ

 

และเมื่อ สันธนะ ลงมาจากชั้นบน สน.ทองหล่อ ชูวิทย์เดินเข้าหาสันธนะท่ามกลางการจับจ้องรายงานสดจากสื่อทุกสำนัก พร้อมโวยวายท้าต่อยสันธนะ โดยมีตำรวจคอยแยกทั้งคู่ไม่ให้พูดใกล้กัน กลัวมีเรื่องชกต่อย แต่ชูวิทย์ท้าทายฝ่ายเดียวสันธนะไม่พูดมากเหมือนเดิม เพียวแต่ยักคิ้วให้ชูวิทย์ท่ามกลางบรรยากาศหวิดวางมวย

ข่าวเกี่ยวข้อง

 

อาณาจักรธุรกิจสีเทา

น่าสนใจว่า การบริภาษโต้ตอบกันระหว่าง ชูวิทย์กับสันธนะ นั้น เสมือนเปิดข้อมูล "ธุรกิจสีเทา" แบบมีเบื้องลึกเบื้องหลังด้วย ดังนี้

  1.  บ่อน
  2. ผับสถานบันเทิง
  3. คนต่างด้าว
  4. อาบอบนวด
  5. ฟอกเงิน

ดูเหมือนทั้งคู่จะมีข้อมูลบรรดา "เจ้าพ่อ" บ่อน ผับ และอาบอบนวด แหล่งทำเงินของบิ๊กเสี่ยและคนต่างด้าว ซึ่งเกี่ยวปมส่วย ฟอกเงิน และไปจนถึงยาเสพติด? ซึ่งเป็นธุรกิจสีดำจนถึงธุรกิจสีเทา เรื่องพรรค์นี้เหมือน "ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่" ?

แสนล้าน..อาณาจักรธุรกิจสีเทา

ทั้งนี้ ธุรกิจอาบอบนวด ที่แอบแฝงค้ามนุษย์ค้าประเวณี มูลค่ากว่า 4 หมื่นล้าน ก่อนหน้านี้เคยมีการวิจัยสำรวจคนไทยพบเล่นการพนัน ทุกวัน กว่า 48% เป็นการเสี่ยงโชค และ 46.7% เล่นพนันจากหวยใต้ดิน และมีเงินหมุนเวียนนับ "แสนล้าน" ในแต่ละปี ซึ่งทำให้มีการศึกษาการเปิดกาสิโน หรือ เอนเตอร์เทนคอมเพล็กซ์ เพื่อนำรายได้เข้ารัฐ เพื่อแก้ปัญหาลักลอบเปิดบ่อน และควบคุมกำกับให้เป็นระบบให้เรื่องใต้ดินมาอยู่บนดินป้องกันเจ้าหน้าที่ทุจริตและป้องกันการฟอกเงิน แต่เรื่องนี้ยังถูกคัดค้านจากสังคมเพราะไทยเป็นเมืองพุทธฯและกังวลปัญหาสังคมเพิ่มมากขึ้น

มวยคู่เอก! ชูวิทย์ VS สันธนะ เบื้องหน้าเบื้องหลัง ปมธุรกิจสีเทาแสนล้าน

ขณะที่ เพื่อนบ้านรอบไทยมีการเปิดกาสิโนหลายแห่ง เพียงแค่ข้ามชายแดนไม่กี่นาทีก็ถึงแหล่งพนันทุกรูปแบบ แต่ก็ไม่ง่ายที่คนไทยจะสะดวกเดินทางไปเล่นพนันโดยง่ายซึ่งหลากปัจจัยที่ทำให้เกิด "บ่อนวิ่ง" และ "บ่อนคนมีสี" มีให้เห็นให้ได้จับกันทั้งเมืองกรุงและปริมณฑล

 

แบ็กใคร..ใหญ่เจอใหญ่

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ชูวิทย์กับสันธนะ ผ่านร้อนผ่านหนาวในยุทธจักรนี้มานาน จนวัยเลยแซยิดไปแล้ว ไม่มากก็น้อยคงรู้จักผู้มากบารมี นายพลยศใหญ่ นักธุรกิจระดับเจ้าสัว แบบต่างกรรมต่างวาระกันก็ตาม ย่อมมีมิตรเป็น "แบ็ก" หนุนหลังช่วยเหลือให้คำปรึกษาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

อีกทั้ง จำไม่ได้เลยหรือ ชูวิทย์เกือบตายถูกคนมีสีอุ้มไปทำร้าย จนกลายเป็นจอมแฉ และเป็นนักการเมือง โดนกรรมเก่าติดคุกพ้นออกมา ขอเป็นพลเมืองดีขยี้ปมต่างๆ มาต่อเนื่อง ส่วนสันธนะเคยถูกลอบสังหาร จำไม่ได้เลยหรือ เกือบตายถูกมือปืนดักยิงขณะออกจากสนามม้านางเลิ้ง รอดหวุดหวิด ทั้งคู่ผ่านนาทีความเป็นความตายมาแล้ว จึงไม่แปลกถ้าขณะนี้มีการ์ดหรือหน่วย รปภ. คอยคุ้มกันทุกจังหวะก้าว ย่อมอาจใช้บริการกลุ่มคนมีสีมากประสบการณ์หรือไม่ก็ได้?

ทว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น ใครจะมีแบ็กใหญ่ หรือได้ยาดีหนุนให้ออกโรงท่าใหญ่ผ่านสื่อก็ตามที แต่วิญญูชนย่อมรู้ได้ว่า ใครออกเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคดีกลุ่มทุนจีนสีเทาเพื่ออะไร เชื่อว่า "ประชาชนส่วนใหญ่" จะเป็นแบ็กใหญ่และเชียร์มวยที่อยู่ข้างความถูกต้อง และผลประโยชน์ของชาติ..!?