ภูฏาน...โลกตะลึง ไม่ต้องพึ่ง Casino!

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังปาฐกถาในหัวข้อ Entertainment Complex Game Changer for Thailand จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ มีใจความตอนหนึ่งว่า ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร น่าจะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. เร็วๆ นี้ โดยรัฐบาลต้องการสร้าง entertainment complex เพื่อเป็น Game Changer ให้กับประเทศไทย เพราะจะกระตุ้นการท่องเที่ยวได้มาก
จากคำสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า รัฐบาลชุดนี้ดำเนินนโยบายเกี่ยวกับการท่องเที่ยว โดยมิได้ศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน เพราะในความเป็นจริง การหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวทุกประเภท แม้อาจนำมาซึ่งรายได้ของประเทศในระยะสั้น แต่จะส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในระยะยาว
ในประเด็นนี้ “ภูฏาน” เป็นตัวอย่างของประเทศกำลังพัฒนา ที่มีความโดดเด่นในเรื่องการคัดกรองคุณภาพของผู้คนที่จะเข้ามาในประเทศ โดยมีกลยุทธ์ด้านการท่องเที่ยวแบบ High Value, Low Volume มาตลอด นั่นคือ เป็นการท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพ ไม่เน้นด้านปริมาณ
นอกจากรัฐบาลภูฏานจะไม่มีนโยบายฟรีวีซ่าแล้ว (ยกเว้นประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินเดีย มัลดีฟส์) ยังมีการเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยวคนละประมาณ 3,600 บาทต่อวัน ตั้งแต่ในขั้นตอนการทำวีซ่า เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปเป็นงบประมาณสนับสนุนการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน เช่น โครงการปลูกต้นไม้จำนวนมาก การพัฒนาระบบไฟฟ้าโดยอาศัยพลังงานน้ำ เพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล จนทำให้ภูฐานมีพื้นที่ป่าไม้มากกว่า 72% ของพื้นที่ทั้งหมด และเป็นประเทศแรกของโลกที่มีคาร์บอนติดลบ
การใช้มาตรการเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยวล่วงหน้าในระดับสูง นอกจากจะเป็นการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้อยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบทางลบต่อประเทศ ยังเป็นกุศโลบายในการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมีกำลังทางเศรษฐกิจ ซึ่งผู้บริหารประเทศภูฏานเชื่อว่า จะปฏิบัติตามกฎระเบียบ รักษาความสะอาด เคารพขนบธรรมเนียมประเพณีของชุมชน ไม่ทำให้สภาพแวดล้อมของประเทศตกต่ำ
Dorji Dhradhul ประธานสภาการท่องเที่ยวภูฏานให้ความเห็นไว้ว่า “การท่องเที่ยวก็เปรียบดั่งทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ ที่จะต้องมีการอนุรักษ์ไว้เพื่อคนรุ่นต่อไป แม้ว่าคนรุ่นปัจจุบันอาจต้องเสียสละกำไรบางส่วนในระยะสั้น แต่ประชาชนของประเทศนี้ทุกคนจะได้รับผลประโยชน์ในระยะยาว เราจะส่งต่อสิ่งที่ดี ทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ ให้กับคนรุ่นหลัง...”
และประเทศภูฏานก็ไม่อนุญาตให้มีบ่อนกาสิโน เพราะขัดต่อหลักการพัฒนาประเทศที่วัดความเจริญผ่านความสุขมวลรวมของชาติ (Gross National Happiness: GNH) ซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยการไหลบ่าเข้ามาของผีพนันจะทำลายอัตลักษณ์ของชาวภูฏาน รวมถึงก่อให้เกิดความเสียหายต่อสภาพแวดล้อม และความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นจุดแข็งด้านการท่องเที่ยวของประเทศ
จากวิสัยทัศน์ของรัฐบาล ทำให้ปัจจุบันภูฏานเป็นประเทศกำลังพัฒนา ที่ทุบสถิติแซงหน้าประเทศรายได้สูงหลายด้าน อาทิ การจัดอันดับประเทศที่มีการทุจริตคอร์รัปชันต่ำที่สุดในโลก โดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติปี 2567 พบว่า ภูฏานถูกจัดอยู่ในลำดับ 18 ของประเทศที่มีการทุจริตคอร์รัปชันต่ำที่สุดในโลก แซงหน้าสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ซึ่งถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 20 และ 28 ตามลำดับ ในขณะที่ไทยถูกจัดอยู่ลำดับที่ 107 มีวิกฤติการคอร์รัปชันที่เลวร้ายกว่าเวียดนามและอินโดนีเซีย
เมื่อพิจารณาดัชนีความสงบสุข (Global Peace Index) เผยแพร่โดย Institute for Economics and Peace พบว่า ปี 2567 ภูฏานถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 21 ของประเทศที่มีความสงบสุขที่สุดในโลก เป็นลำดับที่ดีกว่าประเทศรายได้สูงหลายประเทศ ในขณะที่ไทยถูกจัดอยู่ลำดับที่ 76 ซึ่งแย่กว่าทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียน ยกเว้นเพียงฟิลิปปินส์และเมียนมาเท่านั้น
จากสถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชันที่รุนแรง จนทำให้ประเทศไม่มีความสงบสุข ส่งผลให้การท่องเที่ยวของไทยอยู่ในจุดที่ร่อแร่ อาทิ ข้อมูลเผยแพร่โดย UN Tourism ชี้ชัดว่า ปี 2567 ญี่ปุ่นกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวจีนแทนที่ประเทศไทย โดยชาวจีนที่มาเยือนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มาจากมณฑลเจียงซู เจ้อเจียง เซี่ยงไฮ้ และเป็นนักเดินทางที่มีกำลังซื้อ
สื่อต่างประเทศบางสำนักระบุว่า นโยบายขยายเวลาปลอดวีซ่าของรัฐบาลไทยจาก 30 วัน เป็น 60 วันให้กับนักท่องเที่ยวจำนวน 93 สัญชาติ เกื้อหนุนให้ประเทศไทยเป็นฐานของการพนันออนไลน์ผิดกฎหมายในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงเป็นแหล่งกบดานของอาชญากรข้ามชาติ ทำให้ปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่มีกำลังทางเศรษฐกิจบางชาติไม่นิยมมาไทย เพราะมองว่าไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
หากรัฐบาลยังปล่อยปละละเลย ไม่แก้ไขนโยบายที่ผิดพลาด รวมถึงไม่มีนโยบายที่จะปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นรากเหง้าของการบังคับใช้กฎหมายที่ไร้ประสิทธิภาพ มิหนำซ้ำจะยัง ร้อนรน เร่งรีบ รวบรัด ผลักดันให้ประเทศมีบ่อนกาสิโน โดยไม่ได้มีการศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้านตามวิสัยที่ผู้บริหารประเทศพึงกระทำ
การหลั่งไหลเข้ามาของผีพนันต่างชาติ ผนวกกับผีพนันไทยที่จะเพิ่มมากขึ้นจากการเปิด entertainment complex ที่มีกาสิโนในหลายจังหวัด ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ จะทำให้แผ่นดินไทยกลายเป็นแหล่งซ่องสุมของผีพนันดิบเถื่อนทุกชนชาติ เป็นดินแดนอันตรายในสายตาของคนทั่วโลก
ซึ่งนอกจากจะเป็น Game Changer ที่ทำให้การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทยพังพินาศ ยังเป็นการส่งต่อสังคมหายนะให้กับคนรุ่นหลังอีกด้วย!