Theme Reopening จะกลับมาอีกรอบหรือไม่

ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันแกว่งตัวอยู่ในกรอบเหนือ 1,660 จุด มาเป็นเวลา 1 เดือนแล้ว จากการที่ตลาดรับรู้ความกังวลทางเศรษฐกิจต่างๆทั้งภายนอกและภายในประเทศแล้ว แรงกดดันต่าง ๆ เริ่มมีการคลี่คลายมากขึ้น และนักลงทุนเริ่มกลับมาให้ความสนใจกับทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศมากขึ้น
จากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวจากภาครัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวและหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเมือง อาทิเช่น โรงหนัง ร้านอาหาร ค้าปลีก และขนส่ง จะได้รับอานิสงส์จากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวจากภาครัฐและมาตรการที่ผ่อนคลายมากขึ้น อีกทั้งความกังวลของประชาชนต่อการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ที่ลดลง
เห็นได้จากการบริโภคและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้ปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2565 AOT ได้เปิดเผยจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างประเทศ ซึ่งเพิ่มมากขึ้นเฉลี่ย 56% จากเดือนมีนาคม 2565 หลังจากรัฐบาลได้มีการยกเลิกการตรวจ RT-PCR 72 ชั่วโมงก่อนเข้าประเทศไปในวันที่ 1 เมษายน 2565 และเตรียมที่จะยกเลิกมาตรการ Test&Go เริ่มต้นในวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ให้มีการตรวจเพียงแค่ผลตรวจ ATK อีกทั้งค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงแตะ 34 บาท เป็นอีกแรงสนับสนุนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเติบโตได้ดี และส่งผลดีต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2565 นี้
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ในประเทศไทยในช่วงเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมานั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวบ่งบอกสำคัญว่าประชาชนได้คลายความกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ไปแล้ว โดยถึงแม้ว่าอัตราการติดเชื้อรายวันยังอยู่ในระดับที่มากกว่า 20,000 คน
ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2565 และมีการปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับ 15,000 รายต่อวันในช่วงปลายเดือนเมษายน 2565 และอัตราการเสียชีวิตนั้นเพิ่มสูงขึ้น 2-3 เท่าในเวลา 1 เดือน ไปแตะอยู่ที่ระดับ 0.7% – 0.8% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2565 ที่ 0.25% - 0.3% แต่ทว่าประชาชนต่างออกมาจับจ่ายใช้สอยและบริโภคกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์และช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
ในส่วนของผลกระทบจากปัจจัยภายนอกประเทศ ยังเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ดัชนี SET Index ให้มีแนวโน้มที่จะแกว่งตัว Sideway ต่อไปในช่วงนี้ เริ่มด้วยการที่คาดว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ 50 bps ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2565 นี้ และราคาน้ำมันดิบที่ถึงแม้ว่าจะมีการปรับตัวลงมาจาก Supply น้ำมันดิบจาก IEA ที่จะมีการระบายออกจากคลังอีก 60 ล้านบาร์เรล
แต่ราคาน้ำมันดิบยังคงซื้อขายกันอยู่ในราคาใกล้เคียง 100 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สูงและคอยกดดันอัตราการทำกำไรของผู้ประกอบการทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง แต่ในทางกลับกัน ค่าระวางเรือในฝั่งของเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ดัชนี SCF Index มีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องสะท้อนภาพ Supply ของตู้คอนเทนเนอร์ที่เริ่มกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในหลาย ๆ ประเทศที่ลดปัญหาคอขวดของตู้คอนเทนเนอร์ได้ โดยในฝั่งของเรือเทกอง ดัชนี BDI Index ยังคงแกว่งตัวอยู่ในระดับใกล้ ๆ กับช่วงต้นปี 2565 จากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังส่งผลกระทบต่อปริมาณเรือขนส่งและเส้นทางเดินเรือที่น้อยลง
ในภาพตลาดโดยรวมนั้น นักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักกับการ Reopening ของธุรกิจในประเทศมากขึ้น จากราคาหุ้นในอุตสาหกรรมนี้ที่ปรับตัวขึ้นมาได้ดี ถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยลบจากต่างประเทศมาคอยกดดัน ทำให้ดัชนี SET Index แกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบและไม่ผ่าน 1,700จุดขึ้นไปได้ แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติในศักยภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังคงมีอยู่ เห็นได้จากกระแสเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2565 ซึ่งจะช่วยให้ดัชนี SET Index ปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องในปี 2565 นี้