ศรีสะเกษโมเดล "เนวิน" ท้ารบ "ทักษิณ" ย้อนยุคระบอบบ้านใหญ่
คอลัมน์ : มังกรซ่อนพยัคฆ์ โดย ประชา บรูพาวิถี / ศรีสะเกษโมเดล "เนวิน" ท้ารบ "ทักษิณ" ย้อนยุคระบอบบ้านใหญ่
ระบอบบ้านใหญ่คืนชีพ "เนวิน" ดึง 3 ส.ส.เพื่อไทย ซบภูมิใจไทย หลอมรวม 4 ตระกูลดังปั้นศรีสะเกษโมเดล สวนทาง "ทักษิณ" ชูธงเพื่อไทยแลนด์สไลด์
ปลุกผีระบอบทักษิณ "เนวิน" อาจเจอพายุแลนด์สไลด์เหมือนปี 2554 เมื่ออุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เตรียมเดินสายทั่วอีสานใต้ เฉพาะศรีสะเกษ ต้องเร่งสกัดบ้านใหญ่ไม่ให้โต
นับตั้งแต่ปี 2544 การเมืองในศรีสะเกษได้พลิกโฉมหน้าใหม่ เมื่อทักษิณ ชินวัตร ปักธงไทยรักไทย พร้อมกับนโยบายประชานิยม จึงมีนักการเมืองหน้าใหม่เกิดขึ้นหลายคน ปิดฉากระบอบบ้านใหญ่ ตระกูลวีสมหมาย และวัชราภรณ์ ได้หายไปจากทำเนียบ ส.ส.จนถึงวันนี้
กลุ่มทุนท้องถิ่นศรีนครลำดวนอย่างตระกูลไตรสรณกุล,เครือรัตน์ และแซ่จึง แห่ซบทักษิณ เหลือเพียงตระกูลอังคสกุลเกียรติ ที่ปักหลักอยู่พรรคชาติไทย ยืนต้านกระแสประชานิยมอย่างเหนียวแน่น
กระทั่งรัฐประหาร 2557 ได้เปลี่ยนแปลงกติกาเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2560 และด้วยความอ่อนแรงของประชานิยมทักษิณ ในการเลือกตั้งปี 2562 พรรคภูมิใจไทย สามารถเจาะฐานทักษิณได้ โดยมี ส.ส.ศรีสะเกษ 2 คนคือ สิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ และอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ ลูกชายเสี่ยก๋อ-มงคลพัฒน์ สรรณ์ไตรภพ ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ อ.อุทุมพรพิสัย
วันที่ 21 พ.ค.2565 อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรี และ ส.ส. ยกขบวนไปจัดกิจกรรมภูมิใจไทยสัญจร ที่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งไฮไลต์ของเสี่ยหนูออนทัวร์เที่ยวนี้คือ การเปิดตัว ปวีณ แซ่จึง อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ และ ผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมงานกับค่ายสีน้ำเงินอย่างเป็นทางการ
พร้อมกับโชว์ตัว ธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ และจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีษะเกษ พรรคเพื่อไทย ให้คนชายแดนเขมรรู้ว่า 2 ส.ส. ถอดเสื้อแดงหันมาสวมเสื้อสีน้ำเงินเป็นที่แน่นอนแล้ว
นั่นเท่ากับว่า บ้านใหญ่ศรีสะเกษ 4 ตระกูล ประกอบด้วยไตรสรณกุล, แซ่จึง ,อังคสกุลเกียรติ และ สรรณ์ไตรภพ ได้ผนึกกำลังกัน เตรียมสู้ศึกเลือกตั้งสมัยหน้า ภายใต้ธงภูมิใจไทย
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเมืองไทยใน พ.ศ.นี้ ระบบอุปถัมภ์หรือระบอบบ้านใหญ่ ยังคงมีอิทธิพลอยู่ไม่น้อย เพียงแต่เปลี่ยนวิธีการไปตามกาลเวลา ตามบริบทของสังคมที่แปรเปลี่ยนตามสภาวะเศรษฐกิจและสังคม
สมัยทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทยเรืองอำนาจ ต้องการสลายกลุ่มเจ้าพ่อหรือระบอบบ้านใหญ่สลายตัวกลางที่เป็นนายหน้าทางการเมือง เพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นผู้อุปถัมภ์ใหม่ ผ่านนโยบายประชานิยม หรือผ่านการอุปถัมภ์ของรัฐแบบใหม่ ได้นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงระหว่างชนชั้นนำกับชาวบ้านอย่างมากมาย
อย่างไรก็ตาม การเกิดขึ้นของ คสช. และระบอบประยุทธ์ ได้เอื้อต่อการฟื้นตัวของระบบอุปถัมภ์โดยรัฐแบบเก่า ประชานิยมทักษิณถูกแทนที่ด้วยประชานิยมสีเขียว จึงทำให้นักเลือกตั้งบ้านใหญ่ ได้เบ่งบารมีอีกครั้งในสีเสื้อพรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย
'บ้านใหญ่ราศีไศล'
"ผมการันตีการตัดสินใจครั้งนี้ถูกต้องแล้ว กลับไปอยู่กับนายเนวิน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เสมือนได้กลับไปอยู่กับพี่น้อง ผมมีความสุข" ปวีณ แซ่จึง อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ กล่าวบนเวทีปราศรัยเปิดสำนักงานพรรคภูมิใจไทย เขต 9 อ.ราษีไศล
ปวีณ แซ่จึง เป็นนักธุรกิจใหญ่ชาว อ.ราษีไศล เริ่มต้นชีวิตการเมืองจากเป็น ส.จ. และได้เป็นนายก อบจ.ศรีสะเกษ เมื่อปี 2544 เนวิน ชิดชอบ สมัยที่ยังสังกัดพรรคชาติไทย มาชักชวนให้ลงสมัคร ส.ส. เสี่ยปวีณจึงส่งภรรยา ผ่องศรี แซ่จึง ลงสมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 9 และได้เป็น ส.ส.สมใจ
ปี 2548 เนวินย้ายมาสังกัดไทยรักไทย เสี่ยปวีณก็ลงสมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ แทนภรรยา ในสีเสื้อไทยรักไทย โกยคะแนนมาได้มากถึง 60,649 คะแนน ซึ่งในระหว่างการหาเสียง ทักษิณได้สัญจรมาถึง อ.ราษีไศล และประกาศผูกเสี่ยวกับเสี่ยปวีณ ด้วยมุ่งหวังให้เสี่ยปวีณเป็นแม่ทัพใหญ่เมืองศรีสะเกษ
ช่วงปี 2550-2554 เสี่ยปวีณและเพื่อน ส.ส.ศรีสะเกษ ยังอาศัยกระแสทักษิณ และคนเสื้อแดงได้เป็น ส.ส.มาอีก 2 สมัย โดยสมัยที่แล้ว ปวีณลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และส่งผ่องศรี ภรรยาลง ส.ส.เขต 8 เข้าป้ายสบายๆ ได้คะแนนทิ้งห่างผู้สมัคร ส.ส.คนอื่นชนิดสู้กันไม่ได้
"20 ปีอยู่กับนายทักษิณ 20 ปีได้ผูกเสี่ยว 20 ปี ได้สรุปบทเรียน ถือว่าใช้เวลาพิสูจน์นานเกินไป สิ่งที่ตอบแทนไม่มีจากพรรคเพื่อไทย และจะปล่อยให้คนเพื่อไทยด่าภรรยาคือ นางผ่องศรี ต่อไปไม่ได้ ทุกคนมีศักดิ์ศรี ผมได้บอกนายทักษิณว่า ถ้าจะย่ำยีภรรยาผมขนาดนี้ขอให้ไล่ออก.." เสี่ยปวีณเปิดใจ
"นายทักษิณบอกว่าเป็นเสี่ยวกันคุยกันแค่เรื่องงานลูบหลังกัน แต่ไม่เกิดความรู้สึก มันไม่ได้รับการตอบแทนเท่าที่ควร" ตอนหนึ่งเสี่ยปวีณพูดถึงจุดแตกหัก "...เพื่อไม่ให้เขาใช้ผมเป็นเบ๊ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน"
มีรายงานข่าวในพื้นที่ศรีสะเกษ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมแก้เกมเนวิน ด้วยการส่งอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงมาเยือน อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ในวันที่ 12 มิ.ย.2565
'บ้านใหญ่กันทรลักษณ์'
ย้อนไปเมื่อการเลือกตั้งปี 2554 ทักษิณปั้นน้องสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนารีขี่ม้าขาว จุดกระแสแลนด์สไลด์ ส่งผลให้พรรคภูมิใจไทยพ่ายยับทั่วภาคอีสาน สำหรับสนามเลือกตั้งศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยกวาดได้ 7 ที่นั่ง เหลือเพียง 1 ที่นั่ง ตกเป็นของพรรคภูมิใจไทยคือ อุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์
อุดมลักษณ์ เป็นลูกสาวคนเล็กของเตี่ยฮวด ไตรสรณกุล ที่มีฐานธุรกิจและฐานการเมืองอยู่ที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และ พ.ศ.นั้น อุดมลักษณ์ยืนต้านกระแสยิ่งลักษณ์ได้ เพราะฐานเสียงที่แข็งแกร่งของตระกูล ไม่ใช่อิทธิพลของเนวิน และภูมิใจไทย
การเลือกตั้งปี 2562 นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ สามีของอุดมลักษณ์ กลับมาสวมเพื่อไทยลงสนามและได้เป็น ส.ส.ศรีสะเกษอีกสมัย เช่นเดียวกับธีระ ไตรสรณกุล ก็เป็น ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย สมัยที่ 3
บังเอิญ พ.ศ.นี้ กวาง-ไตรศุลี ไตรสรณกุล ลูกสาวของวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ ได้เป็นรองโฆษกรัฐบาล โควตาภูมิใจไทย และมีบทบาทโดดเด่น จึงเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างค่ายสีน้ำเงินกับตระกูลไตรสรณกุล
วิชิต ไตรสรณกุล เป็นน้องชายของ ธีระ ไตรสรณกุล และเป็นพี่ชายของ อุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ เมื่อวิชิต ตัดสินใจจะปั้นลูกสาวกวาง-ไตรศุลี ให้เป็น ส.ส.ศรีสะเกษ จึงพูดคุยกับญาติพี่น้อง และลูกหลานเตี่ยฮวดมีมติให้ทุกคนลงสมัคร ส.ส.สมัยหน้าในสีเสื้อภูมิใจไทย
ศรีสะเกษโมเดล จะเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งระหว่างระบอบบ้านใหญ่ 4 ตระกูลกับระบอบทักษิณ ที่มีอุ๊งอิ๊ง เป็นผู้เล่นหลักในสนาม ใครจะเป็นผู้ชนะ ผลการเลือกตั้งสมัยหน้ามีคำตอบ