เดิมพัน “บ้านใหญ่” เมืองชาละวัน “ภัทรประสิทธิ์-แก้วทอง” สมรภูมิสุดท้าย

สายทักษิณขยับ “สุณีย์ เหลืองวิจิตร” คนสนิทเฮียเพ้ง หวนจับมือ “นาวิน บุญเสรฐ” ลูกชาย พ.ต.ท.อดุลย์ บุญเสรฐ ปรับทัพเพื่อไทย ไม่หลบบ้านใหญ่ตระกูลดัง

สายลุงตู่แตกกระสานซ่านเซ็น เมื่อ 3 ส.ส.พิจิตร สมัยแรกจากพรรคพลังประชารัฐ แยกย้ายกันไปคนละซุ้ม พรชัย อินทร์สุข ย้ายไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย, ภูดิท อินสุวรรณ พปชร.ซุ้มสามมิตร และสุรชาติ ศรีบุษกร พปชร.ซุ้มหิมาลัย ผิวพรรณ

สนามเลือกตั้ง จ.พิจิตร ไม่ใช่สนามใหญ่ มี ส.ส.แค่ 3 คน แต่กลับเป็นข่าวใหญ่ในช่วงวันหยุดยาว เมื่ออนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เคลื่อนทัพใหญ่ไปเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร 3 คน 

ไฮไลต์ของงานวันนั้นอยู่ที่การกลับมาของ ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต ส.ส.พิจิตร หลายสมัย และอดีตรัฐมนตรีช่วยคลัง

“ผมทำงานการเมืองมา 20 กว่าปี ครั้งนี้ขอช่วยเหลือน้องกับหลาน และตอบแทนบุญคุณ พล.ต.สนั่น ส่วนตำแหน่งทางการเมืองหลังจากนี้ ผมพอแล้ว อายุจะ 70 แล้ว ขอช่วยหลานช่วยน้องเท่านั้น” ประดิษฐ์ลั่นสัจจวาจาต่อหน้ากองเชียร์กว่า 5 พันคนในสนามกีฬา จ.พิจิตร

ภาพที่คนพิจิตรไม่คิดว่าจะได้เห็นกันอีกแล้วก็คือ วันที่เจ้าสัวประดิษฐ์ ยืนชูมือศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ลูกชาย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ บนเวทีเดียวกัน

ฉะนั้น ตัวแทนตระกูล “ภัทรประสิทธิ์” กับ “ขจรประศาสน์” จึงกลายเป็นจุดขายอีเวนท์ใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย

กิจกรรมของค่ายสีน้ำเงินดังกล่าว ถูกจับตามองจาก 3 ตระกูลการเมืองแห่งแดนชาละวันอย่าง แก้วทอง, เหลืองวิจิตร และบุญเสรฐ 

‘ภัทรประสิทธิ์-ชิดชอบ’

47 ปีที่ผ่านมา ตระกูล “ภัทรประสิทธิ์” กับ “แก้วทอง” ได้ต่อสู้ขับเคี่ยวในสมรภูมิเลือกตั้งเมืองพิจิตร ตั้งแต่ยุคย่งคุน แซ่เล้า หรือ วิศาล ภัทรประสิทธิ์ กับ ไพฑูรย์ แก้วทอง จนมาถึงวันนี้ เมื่อ ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ พรรคภูมิใจไทย ต้องเผชิญหน้ากับ นราพัฒน์ แก้วทอง พรรคประชาธิปัตย์ อีกครั้ง

ปลายปี 2564 ตระกูล “ภัทรประสิทธิ์” กับ “แก้วทอง” ได้ปะทะกันระลอกแรกในศึกชิงนายก อบต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร ระหว่าง ศุภกิจ ภัยจิต เลขานุการส่วนตัวของเจ้าสัวประดิษฐ์ กับ “กำนันแอน” อุมาพร แก้วทอง ภรรยานราพัฒน์ แก้วทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป.

ผลการเลือกตั้งนายก อบต.คลองคะเชนทร์ ศุภกิจ พ่อบ้านใหญ่ของเจ้าสัวประดิษฐ์ เอาชนะกำนันแอน สะใภ้ใหญ่ตระกูลแก้วทอง 800 คะแนน

สำหรับการเลือกตั้งใหญ่ในปีหน้า เจ้าสัวประดิษฐ์ พูดว่า “ผมพอแล้ว อายุจะ 70 แล้ว ขอช่วยหลานช่วยน้องเท่านั้น”

คำว่าน้องก็คือ วินัย ภัทรประสิทธิ์ อดีต ส.ส.พิจิตร และหลาน ก็หมายถึงน็อต-ภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์ ซึ่งไปแต่งงานกับหลานสาวของเนวิน ชิดชอบ

น็อต ภัทรพงศ์ เป็นสะพานเชื่อมภัทรประสิทธิ์กับชิดชอบ และเนวิน จึงคนกลางลบรอยแผลใจของเจ้าสัวประดิษฐ์กับศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ทำให้เจ้าสัวประดิษฐ์ลั่นคำจะขอตอบแทนบุญคุณ พล.ต.สนั่น กลางเวที    

ปัจจุบัน น็อต-ภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์ เป็นกำนันตำบลหัวดง ซึ่งหัวดงเป็นจุดเริ่มต้นของเตี่ยย่งคุน และคำว่าบ้านใหญ่ภัทรประสิทธิ์ หรือบ้านใหญ่หัวดง

‘เดิมพันสุดท้าย-แก้วทอง’

ชั่วโมงนี้ คนพิจิตรเห็นภาพ ไพฑูรย์ แก้วทอง อดีต ส.ส.พิจิตร และอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง ลงเดินพบปะหัวคะแนนในพื้นที่ถี่ขึ้น แสดงให้เห็นว่า สมัยหน้า ตระกูลแก้วทอง เอาจริง ขอทำศึกล้างตา หลังจากสมัยที่แล้ว ทีม ปชป.พิจิตร พลาดท่าปราชัยแบบไม่ได้ลุ้นทั้ง 3 เขต 

การเลือกตั้งปี 2562 ตระกูลแก้วทอง เจออภินิหาร กกต.แบ่งเขตใหม่ในพิจิตร โยก อ.สามง่าม และ อ.วชิรบารมี ฐานเสียงตระกูลแก้วทอง จากเขต 2 มาไว้เขต 1 

หากสมัยที่แล้ว นราพัฒน์ ย้ายตามฐานเสียงไปลงสมัคร ส.ส.พิจิตร เขต 1 ก็ต้องชนกับวินัย ภัทรประสิทธิ์ พรรคไทยรักษาชาติ ในที่สุด นราพัฒน์ แก้วทอง ลูกชายไพฑูรย์ ตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 27 แทนการลง ส.ส.เขต

บังเอิญว่า พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ จึงมี ส.ส.หน้าใหม่โผล่มาทั้ง 3 เขต และนราพัฒน์กว่าจะได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็ต้องรอถึงปี 2565

มีรายงานข่าวว่า เลือกตั้งครั้งใหม่ นราพัฒน์ แก้วทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป. อาจจะลงสมัคร ส.ส.เขต 1 ชนกับภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์ หลานเจ้าสัวประดิษฐ์

นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของตระกูลแก้วทอง ที่จะหวนคืนมายึดที่นั่ง ส.ส.เมืองชาละวัน เพราะนับวันคู่แข่งทางการเมืองจะมีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่หวังปลุกกระแสแลนด์สไลด์อีกครั้ง

‘สายตรงเฮียเพ้ง’

สุณีย์ เหลืองวิจิตร แกนนำหลังม่านพรรคเพื่อไทย จ.พิจิตร ก็รอเวลาที่จะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร ทั้ง 3 เขต ในเร็ววันนี้

เป็นเรื่องแปลกมาก สุณีย์ เหลืองวิจิตร เล่นการเมืองมาแต่เป็นสาวรุ่น ปี 2529 แต่ได้เป็น ส.ส.พิจิตร แค่สมัยเดียวคือ ปี 2548 สังกัดพรรคไทยรักไทย

ทำไมชื่อสุณีย์ เหลืองวิจิตร จึงโดดเด่น และเป็นที่กล่าวขวัญถึงของสื่อหลายสำนัก 

คำตอบคือ สุณีย์ สาวไทดำ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร เป็นเด็กปั้นของเฮียเพ้ง-พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล มาตั้งแต่สมัยสังกัดพรรคก้าวหน้า จนมาถึงพรรคไทยรักไทย 

วันนี้ สุณีย์ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เพราะพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ แต่สุณีย์ก็ยังเป็นมือทำงานคนสำคัญของเฮียเพ้ง เดินสายขึ้นเหนือล่องใต้ ช่วยงานพรรคแบบคนหลังม่าน

สำหรับทัพเพื่อไทย เมืองชาละวัน คนแดนไกลสั่งปรับทัพใหม่ โดยดึงนาวิน บุญเสรฐ อดีต ส.ส.พิจิตร ทายาท พ.ต.ท.อดุลย์ บุญเสรฐ อดีต ส.ส.พิจิตร ผู้ล่วงลับ กลับมาร่วมงานกับตระกูลเหลืองวิจิตร

นาวิน บุญเสรฐ เตรียมส่งภรรยา ณริยา บุญเสรฐ ลงสนามอีกครั้ง หลังจากสมัยที่แล้ว สอบตกในสีเสื้อชาติไทยพัฒนา

เบื้องต้น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย เขต 1 ณริยา บุญเสรฐ ภรรยานาวิน ,เขต 2 ปุณยวัจน์ เหลืองวิจิตร น้องชายสุณีย์ เหลืองวิจิตร และเขต 3 กำลังพิจารณาผู้สมัครรายใหม่ 

เนื่องจากสนามเขต 3 เป็นสังเวียนโหด เมื่อภูมิใจไทย พลิกเกมส่งลูกยอด-ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ลง ส.ส.เขต แทนชาติชาย เจียมศรีพงษ์ อดีตนายก อบจ.พิจิตร หวังโค่นแชมป์เก่า ส.ส.ไก่ สุรชาติ ศรีบุษกร พรรคพลังประชารัฐ ที่มีกองหนุนชื่อ หิมาลัย ผิวพรรณ

จริงๆแล้ว เขต 3 เป็นฐานเสียงเดิมของ พ.ต.ท.อดุลย์ บุญเสรฐ แต่วันนี้ ไม่มี พ.ต.ท.อดุลย์ แล้ว ลูกชายและลูกสะใภ้คงสู้ลำบาก

สนามเมืองชาละวัน ชิงเก้าอี้ ส.ส. 3 ที่นั่งก็จริง แต่สมัยหน้า มีเดิมพันสูง เพราะมันอาจเป็นการเข้าสู่สังเวียนครั้งสุดท้ายของตระกูลการเมืองใหญ่ระดับชาติ ไม่ว่าจะเป็นภัทรประสิทธิ์, แก้วทอง และขจรประศาสน์