"Check & Balance" กับปัญหาดั้งเดิมของประชาธิปไตย

400 ปีก่อนคริสตกาล "Socrates" นักปรัชญาการชาวกรีกกล่าวไว้ว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย
เพราะการใช้เสียงข้างมากตัดสินเรื่องต่างๆ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องไปทั้งหมด และเสียงข้างมากอาจเลือกผู้นำที่ไม่มีความรู้ความสามารถ หรือไม่มีคุณธรรมก็เป็นได้
ผ่านมาสองพันกว่าปี แต่ปัญหาดั้งเดิมของ "ประชาธิปไตย"ก็ยังคงอยู่ นั่นคือปัญหาจากการใช้เสียงข้างมากในการตัดสินเรื่องต่างๆ ซึ่งอาจไม่ถูกต้องเสมอไป
...เสียงข้างมากในสภา อาจนำไปสู่การออกกฎหมายประหลาดๆ เพื่อผลประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง อาจมีการรวมหัวกันขึ้นเงินเดือนให้ตัวเอง อาจโดดประชุมสภาฯแล้วฝากกดบัตรแทนกัน หรืออาจจะมีการแอบเอาเอกสารปลอมยัดไส้ระหว่างขอแก้กฎหมายก็เป็นได้
เพื่อยับยั้งการฉ้อฉลที่อาจเกิดขึ้น การปกครองระบอบประชาธิปไตย จึงต้องยึดหลักการตรวจสอบและถ่วงดุล (Check & Balance) เช่น ในการตรากฎหมาย หรือแก้ไขกฎหมายต่างๆ ต้องผ่านความเห็นชอบทั้งสองสภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เพื่อให้มีการตรวจสอบและคัดกรองให้รอบคอบและคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมากที่สุด
ตามหลักการแล้วสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา ควรเป็นอิสระต่อกัน วุฒิสภาต้องปลอดจากการแทรกแซงทางการเมือง ทำหน้าที่ตรวจสอบให้เที่ยงตรงมากที่สุด ส่วนจะมีที่มาอย่างไร เลือกตั้ง หรือ แต่งตั้ง อาจจะต้องพิจารณาจากสภาพแวดล้อมอื่นๆ ของสังคม
หากประเทศเรามีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่มีการซื้อเสียง ส.ว.จะมาจากการเลือกตั้งทั้งหมดก็ไม่แปลก แต่ในความจริง การเลือกตั้งในประเทศเราเป็นเกมแห่งอำนาจ หากปล่อยให้กลไกฝ่ายนิติบัญญัติมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด พรรคการเมืองที่ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรก็อาจพยายามหาทางให้ ส.ว.ที่เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับพรรคตนได้รับการเลือกตั้งเข้ามาให้มากที่สุด ในที่สุดก็คุมเสียงข้างมากทั้งสองสภา เกิดสภาเครือญาติ ส.ส.เป็นพี่น้องกับ ส.ว.หรือ ส.ว.เป็นสามีภรรยากับ ส.ส. เท่านี้การผ่านกฎหมายทั้งสองสภาก็จะง่ายขึ้นโดยปริยาย
การถ่วงดุลอำนาจโดย ตุลาการ นิติบัญญัติ และบริหารต้องตรวจสอบกัน ซึ่งการใช้อำนาจตุลาการของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ถือเป็นหลักในการปกป้องไม่ให้มีการใช้เสียงข้างมากไปสร้างความเสียหาย ให้กับการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ดังนั้นการที่คนกลุ่มหนึ่งประกาศไม่รับอำนาจและคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ในขณะที่ประกาศตัวปกป้องประชาธิปไตยไปด้วยจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากเต็มที
บ้านเมืองเราทุกวันนี้ "ความจริง" และ "ความถูกต้อง"ถูกกล่าวอ้างและช่วงชิง โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสมอ หากไม่มีองค์กรหรือสถาบันที่เป็นหลักในการชี้ถูกผิดให้กับสังคมเหลืออยู่เลย ประเทศเราจะเดินหน้ากันต่อไปในทิศทางไหน อย่างไร?
วิกฤตบ้านเมืองในขณะนี้คงไม่สามารถแก้ให้ผ่านพ้นด้วยการปลุกระดมคนออกมาต่อต้านอำนาจศาล แต่อาจแก้ไขได้จากจุดเริ่มต้นที่บริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ควรทบทวนตัวเองว่าที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่อย่างถูกต้องเป็นธรรมเพื่อสังคมโดยรวมหรือที่ผ่านมาใช้อำนาจเพื่อตนเองและพวกพ้องเป็นหลัก
อำนาจตามระบอบประชาธิปไตยได้มาจากประชาชน ต้องใช้เพื่อประโยชน์ของประชาชน มิใช่เพื่อปลุกระดมประชาชน
หยุดการกระทำที่สุ่มเสี่ยงที่จะพาประเทศไปสู่วิกฤติและความบอบช้ำมากกว่าที่เป็นอยู่ !