วาดฝัน 'Connected Car'

วาดฝัน 'Connected Car'

รถยนต์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในชีวิตประจำวันที่มีความสำคัญไม่น้อยกว่าสมาร์ทโฟน

หากผู้ผลิตสามารถสร้างประสบการณ์ที่สะดวก และมีไลฟ์สไตล์แล้ว ดิจิทัลก็จะช่วยเพิ่มสีสันให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ได้ไม่น้อยกว่าสมาร์ทโฟน

เมื่อเดือนม.ค. กูเกิลจับมือกับค่ายรถยนต์อย่างจีเอ็ม ฮอนด้า ออดี้ และฮุนได ร่วมกันก่อตั้ง "Open Automotive Alliance" หรือโอเอเอ เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นจากระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิลมาใช้ในรถยนต์เพื่อสร้างประสบการณ์ในการขับขี่รถยนต์ที่ปลอดภัย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่อุตสาหกรรมดิจิทัล จะเริ่มเข้ามามีบทบาทกับการใช้ชีวิตของผู้คนในรถยนต์ และคงเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากผู้บริโภคยังคงพอใจกับความสะดวกที่ได้รับจากดิจิทัล โดยประมาณว่าอุตสาหกรรม Connected Car จะมีมูลค่าสูงถึง 54,000 ล้านดอลลาร์

จีเอ็มเริ่มนำเอาแนวคิด Connected Car มาใช้กับรถยนต์รุ่นใหม่ของเชฟโรเลต ที่ติดตั้งมาพร้อมกับคอนโซลขนาดแทบเล็ต ใช้จอทัชสกรีน และติดตั้งแอพที่เหมาะกับการใช้งาน เช่น แอพจาก Priceline.com เพื่อช่วยจองห้องพัก และเปรียบเทียบราคา หรือแอพของ Weather.com เพื่อตรวจสภาพอากาศในการเดินทาง รวมถึงการสตรีมมิ่งเพลงจาก Beats

Connected Car กลายเป็นที่สนใจและเกี่ยวข้องกับ Internet of Things (IoT) เพราะรถยนต์จะกลายเป็นเซนเซอร์เคลื่อนที่ ที่ช่วยเก็บรวบรวมข้อมูลจากท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลอากาศ สภาพถนนและความหนาแน่นของจราจร จึงอาจเปรียบรถยนต์ได้กับสถานีตรวจวัดอากาศเคลื่อนที่ที่พร้อมส่งข้อมูลของสภาพแวดล้อมต่างๆ จากพื้นที่จริง รถยนต์จึงนับเป็นแหล่งเก็บข้อมูลที่น่าเชื่อถือและต่อยอดประโยชน์ได้อย่างมาก

นวัตกรรม 5จี อาจสร้างความล้ำหน้าให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์เพิ่มขึ้น ด้วยแนวคิดที่ว่า รถยนต์เปลี่ยนสถานะเป็นเสาอากาศหรือสถานีสำหรับกระจายอินเทอร์เน็ต เมื่อบริษัทหัวเว่ย กล่าวถึง เทคโนโลยีของการสื่อสารผ่านโมบาย 5จี ที่กำลังศึกษาและพัฒนาในขณะนี้ว่า จะช่วยให้การสื่อสารผ่านโมบายเร็วขึ้น และสามารถส่งข้อมูลจำนวนมากได้ จึงนับเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะต่อยอดให้ Connected Car กลายเป็น Internet of Things ซึ่งเป็นสิ่งท้าทายอุตสาหกรรมเน็ตเวิร์คและโมบาย ทั้งยังเพิ่มโอกาสให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์และโมบายไปพร้อมกัน

การตื่นตัวของนวัตกรรมและพฤติกรรมการใช้ดิจิทัลได้เร่งให้อุตสาหกรรมหลักต้องปรับตัวให้พร้อมต่อความต้องการของลูกค้า จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ค่ายรถยนต์ต้องมองหาพันธมิตร เพื่อให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคม เช่น ไครส์เลอร์จับมือกับค่ายมือถือ สปรินท์ เน็กซ์เทล และจีเอ็มจับมือกับเอที แอนด์ ดี โดยเชื่อว่านวัตกรรมด้านดิจิทัลจะช่วยสร้างโอกาสใหม่ให้กับธุรกิจในรอบด้าน นักการตลาดจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมต่อการสร้างสรรค์สินค้าและบริการกับพันธมิตรใหม่และรายสำคัญด้วยเช่นกัน