งุนงงกับข้อมูล

ข้อมูลบ่งบอกความจริงเสมอ เพียงแต่บางครั้งมีข้อมูลอยู่มากมายแต่ตีความจริงอะไรออกมาไม่ได้
เหมือนคนตาลาย มองเห็นแต่ไม่เข้าใจ ยิ่งข้อมูลมีความหลากหลายและไหลมาอย่างรวดเร็วมากเท่าใด โอกาสที่จะงุนงงกับข้อมูลก็มีมากขึ้นตามลำดับ คนที่มีข้อมูลมากจึงไม่ใช่คนที่ได้เปรียบเสมอไป คนที่มีข้อมูลที่สามารถเข้าใจได้จริงต่างหากที่ได้เปรียบ เราจะลดอาการงุนงงกับข้อมูลที่มีอยู่ให้ลดลงได้อย่างไร
ลองเริ่มต้นด้วยการพยายามแยกแยะระดับความซับซ้อนของข้อมูลออกมาเสียก่อน ในวันนี้ส่วนใหญ่จะมีข้อมูลปะปนกันไปหมด ตั้งแต่เรื่องพื้นฐาน เรื่องที่เป็นภาพรวม และเรื่องที่เป็นรายละเอียด ขอให้เริ่มต้นแยกแยะในระดับพื้นฐานให้ได้เสียก่อน เช่น ให้แยกแยะให้ได้ในเบื้องต้นก่อนว่าส่วนใดเป็นข้อมูลของลูกค้า ส่วนใดเป็นของคู่ความร่วมมือ ดูเฉพาะส่วนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนจนแยกได้โดยไม่มีความกังขาว่าส่วนใดปะปนกับส่วนอื่นหรือไม่
ลองนึกถึงข้อมูลที่ได้จากภาพผู้คนที่เดินตามตลาดสดในชุมชน ถ้าแยกแยะในระดับพื้นฐานจะแยกว่าส่วนใดของภาพเป็นคน ส่วนใดเป็นสิ่งของ ส่วนใดเป็นสิ่งที่เป็นสิ่งมีชีวิตอื่นที่ไม่ใช่คน ในระดับนี้ยังไม่ต้องให้ความสำคัญกับรายละเอียดปลีกย่อยที่ลึกลงไปในแต่ละส่วนพื้นฐานนั้น ยังไม่ต้องสนใจว่าคนที่เห็นในภาพจะเป็นคนทำงานอะไร ขอแค่แยกข้อมูลให้เห็นความแตกต่างระหว่างส่วนพื้นฐานนี้ให้ได้เสียก่อน ถ้าแยกแยะในระดับนี้ได้แล้ว เราจะไม่งุนงงว่าเรามีข้อมูลเกี่ยวกับอะไรอยู่บ้าง เรื่องใหญ่ของข้อมูลที่เรามีอยู่นั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องพื้นฐานอะไรบ้าง ในระดับนี้เรารู้แล้วว่าเราใช้ข้อมูลนี้ในการตัดสินใจกับเรื่องคน เรื่องสิ่งของ และเรื่องสิ่งมีชีวิตอื่นที่ไม่ใช่คนได้หากเราพบว่ามีข้อมูลครบทั้งสามส่วนพื้นฐานนี้ ส่วนจะมีข้อมูลแต่ละส่วนพื้นฐานมากน้อยแค่ไหน ต้องดูลึกลงไปอีกขั้นหนึ่ง
เมื่อทราบแล้วว่าเรามีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องในระดับพื้นฐานอะไรบ้าง ให้สำรวจลึกลงไปในระดับภาพรวมว่าเรื่องพื้นฐานที่เราพบในข้อมูลนั้น แต่ละเรื่องพื้นฐานนั้นแสดงให้เห็นภาพรวมอะไรบ้าง ลองนึกถึงภาพผู้คนเดินในตลาดสดในชุมชนอีกครั้ง คราวนี้ดูให้ชัดลงไปเลยว่าคนที่เห็นในภาพนั้นมีภาพโดยรวมเป็นอย่างไร ข้อมูลบอกว่ามีผู้ชายกี่คน ผู้หญิงกี่คน เพศที่สามกี่คน เป็นต้น หรืออาจมองภาพรวมในมุมอื่น เช่นมองดูว่าเป็นคนที่มาซื้อของกี่คน คนขายกี่คน เป็นพนักงานของตลาดกี่คน ดูภาพรวมของแต่ละส่วนพื้นฐานที่เราโดยไม่ข้ามไปปะปนกับส่วนพื้นฐานอื่น ในขณะที่ดูภาพรวมเรื่องคน ยังไม่ต้องดูภาพรวมของสิ่งของ ยังไม่ต้องสนใจว่าสิ่งของที่มีอยู่นั้นแยกแยะในภาพรวมได้ว่ามีอะไรบ้าง เจาะข้อมูลภาพรวมเป็นส่วนๆ ไป เลือกเฉพาะส่วนพื้นฐานที่เราสนใจเสียก่อนโดยไม่ไปงุนงงกับภาพรวมของเรื่องที่เป็นพื้นฐานเรื่องอื่น ส่วนที่ว่าแค่ไหนเป็นพื้นฐาน แค่ไหนเป็นภาพรวมนั้น ขึ้นกับบริบทของการตัดสินใจที่ต้องการใช้ข้อมูลนั้น
แต่โดยทั่วไปข้อมูลในระดับพื้นฐานนั้นจะเกี่ยวกับเรื่องใหญ่ๆ เราหาอะไรที่ใหญ่กว่านั้นไม่ได้แล้ว แยกของแข็ง ของเหลว และก๊าซเป็นเรื่องพื้นฐานเพราะไม่มีเรื่องไหนที่ครอบคลุมและแตกต่างได้มากเท่ากับการแยกแยะแบบนี้แล้ว อีกบริบทหนึ่งอาจแยกส่วนพื้นฐานเป็นสิ่งมีชีวิต และสิ่งที่ไม่มีชีวิต อีกบริบทหนึ่งอาจลงมาที่เรื่องพื้นฐานของลูกค้า และไม่ใช่ลูกค้า ส่วนที่เป็นพื้นฐานของแต่ละบริบทไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน เพียงแต่เราแยกแยะแต่ละส่วนพื้นฐานนั้นให้เราสามารถมองภาพรวมของแต่ละส่วนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อให้เราตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนั้นจากข้อมูลที่เรามีอยู่ได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ ในขณะที่เราใส่ใจอยู่กับข้อมูลในภาพรวมของแต่ละส่วนพื้นฐานนั้น เราไม่ต้องลงไปดูรายละเอียดย่อยลงไปในแต่ละส่วนของภาพรวมที่เราเห็น ถ้าแยกแยะแค่ภาพรวมของแต่ละส่วนพื้นฐานแล้ว เราได้คำตอบที่เราต้องการได้สำหรับการตัดสินใจในเรื่องนั้น ก็หยุดแค่ระดับภาพรวม ไม่ต้องดูรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมอีก
ในขณะเดียวกันเราพอจะรู้ได้ว่าเรื่องในระดับภาพรวมนี้มีเรื่องใดบ้างที่เรายังไม่รู้ หรือเรายังไม่มีข้อมูลในเรื่องนั้น ลองนึกถึงภาพผู้คนเดินอยู่ในตลาดสดในชุมชนกันอีกครั้ง ถ้าบอกว่าส่วนพื้นฐานส่วนหนึ่งคือสามารถแยกแยะคน ออกจากสิ่งของได้ ถ้าเรามีข้อมูลในภาพรวมของคนที่เดินในตลาดนั้นมากเพียงพอ เราจะบอกได้ว่าคนที่เดินอยู่ในตลาดนั้นเป็นผู้ชายกี่คน ผู้หญิงกี่คน แต่เราอาจจะยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะบอกได้ว่าผู้คนในภาพนั้นมีภาพรวมในด้านอาชีพเป็นอย่างไร เราอาจจะพอบอกภาพรวมของคนขายของได้ แต่เราไม่เห็นภาพรวมของผู้คนในอาชีพอื่น เราใช้ข้อมูลนี้ตัดสินใจเกี่ยวกับคนขายของได้ แต่เราใช้ข้อมูลนี้ตัดสินใจกับคนในภาพรวมของอาชีพอื่นไม่ได้ แยกแยะพื้นฐานเรื่องคนได้ แต่แยกแยะไม่ได้ว่าภาพรวมของคนมีอะไรบ้างเราจะทราบได้ว่าข้อมูลที่ขาดไปนั้นเป็นข้อมูลในภาพรวมเรื่องใดบ้าง
หากแยกแยะข้อมูลลงไปในระดับภาพรวมแล้ว เรายังไม่ได้คำตอบที่เพียงพอสำหรับการตัดสินใจเรื่องนั้น ก็ต้องลงลึกไปถึงระดับรายละเอียดของแต่ละภาพรวมนั้น แต่คราวนี้ไม่ง่ายเหมือนกับระดับพื้นฐานและระดับภาพรวมเสียแล้ว ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ผู้บริหารไม่ควรลงไปจุกจิกในเรื่องรายละเอียด ผู้บริหารที่ดีควรใส่ใจพื้นฐานและภาพรวมเป็นสำคัญ