ว่าด้วย ขีปนาวุธ

ช่วงที่ผ่านมาคงไม่มีข่าวต่างประเทศข่าวไหนจะโด่งดังและได้รับความสนใจจากคนทั่วโลกมากไปกว่า ข่าวการยิงเครื่องบิน
Boeing 777-200ER ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ ที่ชายแดนยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งคงจะต้องเป็นข่าวต่อเนื่องกันไปในแง่มุมต่างๆ อีกนับสัปดาห์แน่ๆ
ประเด็นที่ผู้เขียนจะเขียนถึงนี้ มิได้ไปเกี่ยวกับเรื่องการเมืองระหว่างประเทศหรือเทคนิค-วิชาการด้านจรวดหรือขีปนาวุธ เพราะยอมรับว่าไม่เชี่ยวชาญในอาวุธของค่ายรัสเซียหรือหลังม่านเหล็กว่า อาวุธจะเป็นจรวดบัค หรือจะเป็นอาวุธจรวดแบบ SA-11 อย่างไรกันแน่
แต่ข่าวตามฟรี-ทีวีและหนังสือพิมพ์ไทยทุกฉบับเรียกอาวุธนี้ว่า ขีปนาวุธ ซึ่งจะตรงกับภาษาอังกฤษว่า Bellistic Missile ถ้าเป็นขีปนาวุธเขาจะไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อยิงเครื่องบินที่สูงแค่สามหมื่นกว่าฟุตหรือราว 10 กิโลเมตรนี้หรอกครับ แม้จะเคยสร้างมายิงเครื่องบินจารกรรมแบบ U-2 ที่บินเกิน 5 หมื่นฟุตก็ยังไม่เรียกขีปนาวุธกันเลย
หากไปศึกษาพจนานุกรมศัพท์ทหาร ชาวบ้านเราๆ อาจจะงง ตั้งแต่คำว่า จรวด (Rocket) ซึ่งคนไทยนิยมใช้และใช้ผิดจนเข้าใจกันสับสนมาเรื่อย จนพอเจอคำว่า อาวุธปล่อย (Missile) แล้วยิ่งเข้าใจผิดกันไปใหญ่ เพราะบางครั้งฝรั่งเขาเรียก มิสซายได้ถึงกระทั่งสังกะสีมุงหลังคา ที่ถูกพายุหรือลมแรงพัดแล้วปลิวว่อนไปบาดคอคนหรือสัตว์เลี้ยง หรือแม้กระทั่งกองทหารโบราณที่พุ่งหรือซัดอาวุธหอกใส่ข้าศึกก็เรียกมิสซาย ทั้งๆ ที่มิได้เป็นอาวุธจรวดหรืออาวุธยิงเลยสักหน่อย
บทความนี้จึงขอพยายามทำความเข้าใจกับท่านผู้อ่านที่เป็นประชาชนทั่วไปว่า อะไรเป็นจรวด อะไรเป็นขีปนาวุธ และอะไรเป็นอาวุธปล่อยนำวิถี
อันที่จริงเมื่อพูดถึงจรวด คนไทยเรารู้จักจรวด คือบั้งไฟมาแต่โบราณ แต่ต่อๆ ไปพวกเรามีอายุเกิน 35-40 ปี คงต้องเตรียมคำไว้อธิบายตอบลูกหลานเหลนต่อไป เพราะว่าตัวกระบอกบั้งไฟหรือบ้องไฟ ที่ทำด้วยท่อประปาทั้งเหล็กและพีวีซีนั้น ไม่สามารถมองเห็นเป็นบ้องหรือเป็นบั้งไม้ไผ่แบบกระบอกข้าวหลามกันอีกต่อไปแล้ว
คนไทยเราเข้าใจและเรียกว่าจรวดมาตั้งแต่ก่อนเยอรมนีจะประดิษฐ์และพัฒนาจรวด V-1 และ V-2 ที่ใช้ยิงถล่มเกาะอังกฤษในสงครามโลกครั้งที่ 2 และพัฒนาเพื่อจะยิงให้ถึงอเมริกา แต่แพ้สงครามเสียก่อน จรวดจึงเป็นทั้งอาวุธยิงทางดิ่ง หรือจะเฉียงๆ จนเอียงเกือบจะเป็นทางราบก็ยังมีเรียกกันอยู่ (หมายถึงเวลาแท่นปล่อยเกิดทรยศ ยังส่งไม่เสร็จเกิดเอียงหรือจะล้มลงก็มี)
จรวดนอกจากจะหมายถึงอาวุธยิงขนาดเล็กๆ ที่ไม่นำวิถี หรืออุปกรณ์ที่มีความก้าวหน้าพาให้จรวดไปถึงที่หมายหรือชนเป้าที่ต้องการ เช่น จรวดยิงขนาด 2.75 นิ้ว ที่เครื่องบินโจมตีหรือขับไล่โจมตีใช้ยิงเป้าหมายภาคพื้นดิน และก็หมายรวมไปถึงจรวดที่มีขนาดใหญ่ถึงกับยิงส่งยานอวกาศไปนอกโลก โดยมีระบบที่ซับซ้อน
คนไทยเราก็ยอมรับและเรียกเป็นจรวดโดยไม่เคอะเขินและไม่มีข้อโต้แย้งกัน หรืออาวุธปล่อยนำวิถีที่ประทับบ่าสามารถยิงเครื่องบินที่เข้าโจมตีภาคพื้นดินได้ (รวมทั้งยิงไล่หลัง) ก็นิยมเรียกว่าจรวดประทับบ่าเสียอีก ชาวบ้านก็คงจะงงหน่อย
ส่วนที่จะเป็นอาวุธปล่อยนั้น เรามักจะเจอที่เป็นอาวุธปล่อยนำวีถี (Giuded-Missile) จะหมายถึงอาวุธที่ใช้ยิงขึ้นสู่อากาศ ทั้งจากพื้นดินหรือพาหนะ เช่น เรือรบ ซึ่งจะยิงขึ้นได้ทั้งจากแนวเอียง เช่น อาวุธปล่อยเอกโซเซ่ท (MM-38 และ MM 40) ของราชนาวีไทยเรา (ซื้อจากฝรั่งเศส) อันโด่งดังตั้งแต่สงครามฟอล์คแลนด์ จนถึง Harpoon (จากค่ายอเมริกา) ที่ยิงจากเรือสู่เรือรวมทั้ง C-801 และ C-802 จากค่ายจีน และเอสปิเด้ หรือ อัลบราทรอสของเรือคอร์เวทชุดรัตนโกสินทร์และสุโขทัย กับซี-สแปโร่ของเรือชุดนเรศวรและตากสิน ซึ่งวิ่งขึ้นแนวดิ่งเพื่อไล่ชนอากาศยานที่เข้าโจมตี รวมทั้งจรวดมิสทรอลของเรือจักรีฯ ที่เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีระยะประชิดต่อสู้อากาศยานยิงแนวเฉียงด้วย
หรือแม้แต่อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศที่ยิ่งจากเครื่องบินขับไล่ ทั้งไซด์ไวเดอร์และสแปโร่ที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สงครามเวียดนาม ซึ่งมีทั้งการนำวิถีด้วยการติดตาม (หรือแสวง) ความร้อน และนำวิถีด้วยเรดาร์
ส่วนอาวุธปล่อยนำวิถีที่อาจมีขนาดใหญ่ขึ้น เช่น โทมาฮอค ที่เป็น Cruise-Missile นำวิถีด้วยจีพีเอส ยิงได้ไกลราว 1,500 กิโลเมตร หรือยิงจากแถวปากแม่น้ำปัตตานีไปถึงเชียงใหม่ หรือรุ่นยิงไกล เรือลอยลำอยู่แถวสิงคโปร์ ก็ยิงถึงเชียงใหม่ได้เลย ก็ยังเป็นมิสซาย
คราวนี้ก็คงพอจะเข้าใจ (หรืองง) พอที่จะมาถึง ขีปนาวุธ ซึ่งก็คืออาวุธจรวดขนาดใหญ่ที่มีขีปนาวิถี หรือโคจรไปตามส่วนโค้งของโลกและมักจะเป็น ICBM (Inter Continemtal Ballistic Misscle) คือขีปนาวุธข้ามทวีปและติดหัวรบนิวเคลียร์ มีอำนาจการทำลายล้างสูง (WMD= World Mass Destruction) และติดหัวรบนิวเคลียร์ ซึ่งมีทั้งติดตั้งอยู่ในหลุม ในโซโล อยู่บนรางรถไฟในอุโมงค์ หรืออยู่บนรถลำเลียง เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทำลาย ซึ่งจะเป็นอาวุธยุทธศาสตร์
อย่างขนาดที่เกาหลีเหนือยิงเจ้าปูแตดอง (ชื่อเขาอย่างนี้จริงๆ ครับ) ไปตกทะเลญี่ปุ่นบ้าง แม้เลยไปไกลกว่านั้นบ้างบางครั้ง ยังอาจไม่จัดเป็นขีปนาวุธเลยครับ เพราะมันตกก่อน ยังไปไม่ได้ถึงระยะจริง
ฉะนั้น จะบอกว่าอาวุธปล่อยนำวิถีที่ยิงเครื่องบิน MH-17 ตกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ยิงขึ้นไปแค่ 10 กิโลเมตรเป็นขีปนาวุธนี้คงไม่เหมาะแน่ๆ ครับ ควรเรียกว่า “อาวุธปล่อยนำวิถีทำลายอากาศยาน” หรือ “จรวดนำวิถีต่อสู้อากาศยาน”(ของพลเรือน) ที่ไม่มีทางสู้ (แต่บางคนอาจถามว่าแล้ว Airfoce-1 มีระบบจรวดล่อหลอกอาวุธปล่อยนั้นจริงไหม? ต้องเอาไว้คุยกันทีหลังครับ)
มิฉะนั้น ในอนาคตหากกัมพูชาใช้จรวดยิงเหมือนที่เคยยิงมาหมู่บ้านชายแดนไทย แล้วสื่อมวลชนบอกไทยว่าถูกขีปนาวุธจากเขมร และบังเอิญสถานทูตต่างประเทศเกิดแปลข่าวตรงตัวว่าเราถูกโจมตีด้วย Ballistic Missle มหาอำนาจหรือประชาชนในโลกตะวันตกเขาเกิดพาซื่อ จะเข้าใจว่า เขมรมีศักยภาพสงครามเหนือกว่า จีน - เกาหลี จึงถล่มไทยด้วยขีปนาวุธได้
หรือไม่อย่างนั้นก็เข้าใจว่าสื่อสารมวลชนบ้านเรานำข่าวเท็จมาใส่ร้ายเขมร ที่ใช้จรวจยิง BM-21 ธรรมดาๆ นี่เองยิงเรา เค้าคงไม่คิดแค่ว่าคนเขียนข่าวเราไม่เข้าใจว่าอะไรคือจรวดยิงและอะไรมันคือขีปนาวุธกันแน่ ก็จะเสียหายด้านความเชื่อถือในสังคมโลกไปกันใหญ่เท่านั้นเองครับ