วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี : ทางเลือกใหม่เพื่อผลักดันการดำเนินความสัมพันธ์ไทย-อียู

วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี : ทางเลือกใหม่เพื่อผลักดันการดำเนินความสัมพันธ์ไทย-อียู

ในสถานการณ์ที่การดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศระหว่างไทยกับอียูในปัจจุบันต้องประสบกับความชะงักงัน

ด้วยความแตกต่างและสถานการณ์การทางการเมือง ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดูจะเป็นช่องทางการดำเนินความสัมพันธ์ที่ยังสดใสและไม่ได้รับผลกระทบ และยังจะเป็นทางเลือกเพื่อผลักดันความร่วมมือไทยและอียูให้ยิ่งแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

อียูเองก็ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้านวิทยาศาสตร์ว่าเป็นช่องทางเลือกของการมีความร่วมมือระหว่างประเทศในภาวะที่การเจรจาด้านการเมืองหรือด้านมนุษยธรรมไม่แสดงความก้าวหน้าโดยยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการวิจัยและนวัตกรรมของอียู (International cooperation in research and innovation) กล่าวยอมรับประโยชน์ของการดำเนินความสัมพันธ์ด้านวิทยาศาสตร์ดังกล่าวไว้อย่างชัดเจน

สาขาการวิจัยและการสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่อียูกำลังให้ความสำคัญเพราะเป็นสาขาที่อียูหมายมั่นว่าจะนำเอาความเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมของอียูกลับคืนมาอีกครั้ง ซึ่งได้แก่ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศหรือไอซีที สาขานาโนเทคโนโลยีและวัสดุขั้นสูง (advanced material) สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ สาขาอวกาศ สาขาการบริหารความเสี่ยงทางการเงิน และการสนับสนุนให้ธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลางหรือเอสเอ็มอีมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้เป็นที่ต้องการของตลาดและสามารถแข่งขันในตลาดได้

นอกจากนี้ยังมีสาขาที่อียูต้องการสนับสนุนเพื่อนำผลการวิจัยและนวัตกรรมที่ได้มาใช้รับมือกับความท้าทายทางสังคมด้านต่างๆ ซึ่งได้แก่ สาขาสาธารณสุขและการเปลี่ยนแปลงทางประชากร ความปลอดภัยด้านอาหารและความยั่งยืนทางการเกษตร นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะช่วยนำพาอียูเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจชีวภาพและเศรษฐกิจที่พึ่งพาคาร์บอนต่ำได้ การพัฒนาแหล่งพลังงานที่มั่นคง สะอาด และมีประสิทธิภาพการพัฒนายานพาหนะอัจฉริยะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรและวัตถุดิบ เป็นต้น

อียูให้การสนับสนุนการวิจัยและการสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านต่างๆ เหล่านี้ ผ่านกรอบโครงการการให้ทุนด้านการวิจัยและนวัตกรรม Horizon 2020 ซึ่งมีงบประมาณในการดำเนินโครงการทั้งหมดราวเกือบ 8 หมื่นล้านยูโร โดยมีระยะเวลาในการดำเนินโครงการการให้ทุนทั้งหมดเป็นเวลา 7 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014 -2020

จุดประสงค์ของอียูในการทุ่มเงินจำนวนมหาศาลดังกล่าว นอกจากเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรอียูแล้ว ยังเป็นไปเพื่อใช้นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพัฒนารูปแบบเศรษฐกิจและความสามารถในการผลิตของอียูให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นไป ซึ่งต่างกับการมีส่วนร่วมในตลาดการค้าโลกของประเทศกำลังพัฒนาที่เน้นการแข่งขันด้วยราคาแรงงานและวัตถุดิบที่มีราคาย่อมเยา

เนื่องจากอียูได้จัดสรรงบประมาณไว้ส่วนหนึ่งเพื่อพัฒนาศักยภาพของเอสเอ็มอีของตนในการสร้างนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการของตลาด และโดยที่อียูมีนโยบายที่ชัดเจนในการต้องการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกจากความร่วมมือระหว่างกันในระดับองค์กรหรือสถาบันของภาครัฐแล้ว เป็นที่น่าสนใจยิ่งที่ภาคเอกชนจากประเทศที่สามที่มีความเชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่งของสาขาต่างๆ ที่ได้กล่าวมาข้างต้น อาจลองหาช่องทางและโอกาสในการเข้ามามีส่วนร่วมในการร่วมพัฒนานวัตกรรมร่วมกับหน่วยงานวิจัยและภาคธุรกิจของอียู

เราได้เดินทางมาถึงยุคที่ธุรกิจนำการเมืองแล้ว นอกจากการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่อรัฐที่ในบางครั้งอาจติดขัดหรือเชื่องช้าไปบ้าง แหล่งทุนมหาศาลของอียูดังกล่าวอาจเป็นโอกาสในการมีความร่วมมือกันระหว่างภาคเอกชนไทยกับภาคเอกชนอียูก็เป็นได้

“Thai-European Business Dialogue” หรือ TEBD กลไกที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กรอบการทำงานของสมาคมการค้าไทย-ยุโรป หรือ TEABA (www.thaieuro.biz) เป็นเครื่องมือใหม่ที่ช่วยภาคธุรกิจไทยขยายโอกาสทางธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนา R&D นวัตกรรม และ Knowhow โดย TEBD เป็นกิจกรรมลักษณะ business-driven initiative ที่มีภาคเอกชนเป็นผู้ริเริ่มเพื่อเป็นเวทีในการประสานความร่วมมือและเชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจระหว่างภาคเอกชนไทยและยุโรปที่สนใจการดำเนินการค้าและการลงทุนในไทยและยุโรป โดยเน้นการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างสองภูมิภาคแบบสองด้าน กล่าวคือ ทั้งภาคเอกชนยุโรปสนใจด้านการค้าและการลงทุนในประเทศไทย และภาคเอกชนไทยสนใจการค้าและการลงทุนในตลาดยุโรป โดยเน้นการเป็นเวทีให้ภาคเอกชนสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับโอกาสและการแก้ไขปัญหาในการดำเนินธุรกิจต่างๆ ระหว่างสองภูมิภาคผ่านกิจกรรมหลักสำหรับภาคธุรกิจ โดยเป็นอิสระจากประเด็นทางด้านการเมือง

ภาคธุรกิจที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของ TEBD สามารถลงทะเบียนการเข้าร่วมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ tebd@thaieuro.biz หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thaieuro.biz

---------------------------------

ดร. อาจารี ถาวรมาศ เป็นผู้บริหารบริษัท Access-Europe บริษัทที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์และนโยบายเกี่ยวกับสหภาพยุโรปสำหรับภาครัฐและเอกชนไทยที่สนใจเปิดตลาดยุโรป www.access-europe.euหรือติดตามได้ที่ www.facebook.com/AccessEuropeCoLtd