Michael Kors

ถ้าเอ่ยถึงชื่อเหล่านี้ ท่านผู้อ่านคุ้นเคยบ้างไหมครับ Michael Kors, Tory Burch, Kate Spade
เชื่อว่าอาจจะมีท่านผู้อ่านกลุ่มหนึ่งที่พอคุ้นกับชื่อเหล่านี้ แต่ก็คงมีผู้อ่านจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ติดตามอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ไม่คุ้นเคยกับทั้งสามชื่อนี้ แต่ถ้าเอ่ยชื่อ Coach เชื่อว่าท่านผู้อ่านเกือบทั้งหมดคงพอจะคุ้นเคยกับยี่ห้อแฟชั่นและกระเป๋าจากอเมริกาแบรนด์นี้นะครับ จริงๆ แล้วทั้งสี่ชื่อข้างต้นล้วนแล้วแต่เป็นชื่อของผลิตภัณฑ์แฟชั่น (มีทั้งสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ แต่จะเน้นสุภาพสตรีมากกว่า) ของอเมริกา ที่จัดอยู่ในกลุ่ม Affordable Luxury หรือ บางคนก็เรียกว่า Accessible Luxury
แบรนด์ข้างต้นเหล่านี้อาจจะไม่หรูหรา หรือ แพงติดดาวเหมือนแบรนด์ของทางฝั่งยุโรปอย่างเช่น LV, Prada, Gucci ฯลฯ แต่ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดูดี หรูหรา มีระดับ ในราคาที่คนทั่วๆ ไปสามารถซื้อได้ ซึ่งความน่าสนใจของกลุ่ม Affordable Luxury ในปัจจุบันคือการถดถอยของผู้นำในกลุ่มนี้อย่าง Coach พร้อมๆ กับการเติบโตและผงาดขึ้นมาของคู่แข่งอีกสามแบรนด์
ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาสื่อต่างๆ รายงานตรงกันว่าส่วนแบ่งตลาดของ Coach ในกลุ่ม Affordable Luxury เริ่มตกลงมาเรื่อยๆ ทั้งในเรื่องของส่วนแบ่งตลาด ยอดขาย และกำไร ในขณะที่แบรนด์อื่นๆ ก็กำลังมาแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Michael Kors ที่หลายปีที่ผ่านมา มียอดขายที่แรงขึ้นและแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก Coach ไปพอสมควร
ล่าสุดผลประกอบการของทั้งสามสี่บริษัทก็ประกาศออกมาแล้ว โดย Coach นั้นรายได้และกำไรตกลงจากเวลาเดียวกันของปีก่อน (ถึงแม้จะดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้) ขณะเดียวกัน Coach ก็วางแผนปิดสาขาที่ไม่ผลประกอบการไม่ดีถึง 70 สาขาในปีหน้า ส่วน Michael Kors นั้น ยอดขายจากร้านเดิมเพิ่มสูงขึ้นถึง 24% ส่วนยอดขายและกำไรก็พุ่งสูงขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนส่วน Kate Spade นั้นก็ประกาศยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้น
ความถดถอยของ Coach นั้นมาจากหลายสาเหตุครับ ทั้งการที่ Coach เป็นรายเดิมที่เป็นผู้นำตลาดในธุรกิจนี้มานาน และพอมีรายใหม่ที่สดใหม่ ไฉไลกว่าเดิมเข้ามาก็ย่อมเป็นที่สนใจของลูกค้า รวมทั้งสาเหตุที่ในระยะหลัง Coach ก็ขยายตัวเองมากเกินไป ทั้งการเปิดสาขา การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ราคาไม่ทำให้ดูหรูหราเหมือนในอดีต ทำให้ลูกค้าของ Coach จำนวนมากรู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ของ Coach เริ่มเสื่อมมนต์ขลังของความหรูหราลง กลายเป็นสินค้าราคาปานกลางที่ทุกๆ คนสามารถเป็นเจ้าของได้ สังเกตง่ายๆ ก็คือเวลาท่านไปต่างประเทศ จะพบร้าน Coach อยู่ใน Outlet เกือบทุกแห่ง ขายสินค้าของ Coach ในราคาไม่แพง
ในขณะที่แบรนด์ที่มาแรงมากในต่างประเทศในระยะหลายปีที่ผ่านมาคือ Michael Kors ที่เติบโตและได้รับความนิยมอย่างมากในอเมริกา และปัจจุบันความนิยมดังกล่าวได้ลามไปทางฝั่งยุโรปมากขึ้น และปัจจุบันเริ่มรุกมาทางฝั่งเอเชียมากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ที่ดังของ MK มีทั้งกระเป๋าและนาฬิกาเรือนใหญ่ที่เป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นไฮโซทั้งหลาย
อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน MK มีร้านกว่า 400 ร้านค้าทั่วโลก อีกทั้งมีผลิตภัณฑ์ของ MK วางจำหน่ายอยู่ในห้างสรรพสินค้าเกือบ 4,000 แห่งทั่วโลก และยังไม่นับการเริ่มรุกเข้าไปในตลาด Outlet ต่างๆ ทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ต่างต้องเริ่มออกมาเตือน Michael Kors กันเป็นแถวว่าอย่าเพิ่งขยายตัวเร็วและมากเกินไป ให้ดู Coach เป็นตัวอย่าง มิฉะนั้น MK จะสูญเสียความขลังของสินค้า Luxury ลง นั่นคือทุกๆ คนสามารถมีสินค้าของ Michael Kors เหมือนกับกรณีของ Coach
มีบทสัมภาษณ์ลูกค้าชาวอเมริกันของ MK ลง WSJ เหมือนกันครับว่าเริ่มหมดความสนใจในแบรนด์นี้ เนื่องจากในมหานครใหญ่อย่างนิวยอร์กนั้น เมื่อมองไปทางไหน ก็จะเริ่มเห็นคนมี Michael Kors กันมากขึ้น ดังนั้นในทริปล่าสุดที่ไปห้างเธอจึงหันไปซื้อผลิตภัณฑ์ของ Kate Spade แทน
อย่างไรก็ดี ผู้บริหารของ MK ก็ดูเหมือนจะไม่สนใจต่อคำเตือนนี้เท่าไร เนื่องจากมองว่าในอุตสาหกรรมแฟชั่นนั้น ยังไงก็มีขึ้นมีลง แต่ก็ดูเหมือนว่า MK ก็ได้มีการเตรียมป้องกันไว้ ทั้งการจำกัดยอดขายผ่าน Outlet ไม่ให้เกินหนึ่งในสามของยอดขายทั้งหมด (ในปี 2013 ยอดขายของ Coach ร้อยละ 70 มาจากยอดขายใน outlet) ส่วนที่คนกังวลว่าผลิตภัณฑ์ของ Michael Kors นั้นขายผ่านห้างสรรพสินค้าเป็นจำนวนมาก และห้างสรรพสินค้าก็จะมีกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ทำให้สินค้าถูกลงกว่าขายตามร้านของตัวเองนั้น ทางผู้บริหารของ MK มองว่าการขายผ่านห้างนั้นเป็นการเพิ่มช่องทางในการจำหน่าย แถมในอนาคตอันใกล้ MK จะออกผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายมากขึ้น
อุตสาหกรรม Affordable Luxury นั้นมีความน่าสนใจนะครับ และถือเป็นธุรกิจที่น่าจับตามองต่อไปครับว่า MK จะซ้ำรอย Coach ไหม รวมทั้งจะมีแบรนด์ใหม่ที่มาแรงแทน MK อีกไหม?