ปลาเน่า

ปลาเน่า

เป็นธรรมดาที่ "ข่าวไม่ดี" มักถูกพูดถึงมากกว่า "ข่าวดี" โดยเฉพาะกับข่าวในแวดวง "ตำรวจ"

เพราะในขณะที่ตำรวจกำลังเข้มวินัยจราจรคนกรุง "จับ-ปรับ" จริง "ล็อก" จริง จนได้ผล และกำลังขยายไป "จัดระเบียบ" จุดอื่นๆ ที่มีปัญหา เช่น หน้าสถานศึกษา หรือปราบ "เด็กแว้น" ซิ่งรถในทางสาธารณะ

+++ หรือปฏิบัติการลุยกำราบภัยความมั่นคงรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ยาเสพติด การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ปราบมาเฟีย ผู้มีอิทธิพล รวมทั้งอาวุธสงคราม ซึ่งนับว่าเป็นช่วงโกยคะแนนนิยมเอามาเติม "ต้นทุน" ที่ร่อยหรอไปกับเรื่อง "เสื่อมเสีย" ก่อนหน้านี้ ก็ไม่วายเกิดเรื่องกระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ เข้าทำนอง "ปลาเน่าตัวเดียวทำให้เหม็นไปทั้งข้อง" ซ้ำอีก แต่ในรอบสัปดาห์นี้ส่งกลิ่นหึ่งเพราะมีด้วยกันหลายกรณี

+++กรณีแรก เป็นคลิปตำรวจจราจร สน.คู่ขนานลอยฟ้า กองบังคับการตำรวจจราจร รีดเงินคนขับรถกระบะถูกแชร์ว่อนโลกออนไลน์ ตำรวจในภาพถูกย้ายไปอยู่ฝ่ายธุรการ และถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย

+++กรณีต่อมา เป็น "ข่าวนำ" ครึกโครม แทบทุกสื่อ เมื่อชุดสืบสวน สภ.แม่สาย จ.เชียงราย รวบตัว พ.ต.ท.ชำนาญ พุ่มไพจิตร รอง ผกก.สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ พร้อมรถยนต์ส่วนตัวที่เบาะนั่งด้านหลังมียาบ้า 8 แสนเม็ด ยาไอซ์ 1 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่

+++ เขาถูกเรียกตรวจค้นขณะขับรถขนยาเสพติด ด้วยของกลางคาหนังคาเขาจึงต้องจำนน และอ้างว่าทำไปเพราะหวังเงินค่าจ้างเพื่อนำไปปลดหนี้หลายล้านบาท

+++ ที่สั่นคลอนไปทั้งวงการเพราะตำรวจผู้นี้เป็น "มือปราบยาเสพติด" ของตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งมีผลงานดีเด่นในการสืบสวนปราบปรามยาเสพติด อีกทั้งยังเป็นถึง "ผู้ฝึกสอน" การสืบสวนด้านนี้ด้วย...คดียาเสพติดที่ตำรวจผู้นี้เคยสืบสวนจับกุมมาจึงเกิดข้อกังขา แม้จะไม่ส่งผลกระทบต่อรูปคดีโดยตรงก็ตาม

+++ ล่าสุด พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. คาดว่า รองผู้กำกับผู้นี้น่าจะทำมาแล้วหลายครั้งเพราะพบว่ามีการติดต่อกับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่และสามารถติดต่อสั่งยาเสพติดในปริมาณมากมาได้ด้วย

+++ จากตำรวจจึงกลายเป็นผู้ต้องหาเสียเอง เขาถูกดำเนินคดีอาญาและลงโทษทางวินัยร้ายแรง โดยให้ออกจากราชการและแจ้งข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โทษสูงสุดถึงประหารชีวิต

+++กรณีสุดท้าย ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โพสต์เรื่องร้องเรียนของนายดาบตำรวจคนหนึ่ง ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ผ่านทางเฟซบุ๊คว่า มีญาติของผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดของกลางยาบ้า 3,000 เม็ด ถูกจับที่ จ.สุพรรณบุรี ถูกอดีตทนายคนหนึ่งหลอกเงินอ้างว่าสามารถช่วยวิ่งเต้นล้มคดีในชั้นศาลได้

+++ อดีตทนายผู้นี้พาญาติผู้ต้องหาไปพบ "ผู้พิพากษา" คนหนึ่งซึ่งมีตำแหน่งทาง "บริหาร" จากนั้นได้เรียกเงินค่าวิ่งเต้นล้มคดี 7 แสนบาท โดยแบ่ง 6 แสนโอนเข้าบัญชีให้กับอดีตทนายคนนี้ ส่วนอีกหนึ่งแสนนำไปให้ผู้พิพากษาคนนี้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านเอกมัย แต่ปรากฏว่า ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้จำคุกผู้ต้องหา

+++ เท็จจริงอย่างไรผู้มีอำนาจหน้าที่ควรเร่งตรวจสอบโดยด่วน ก่อนที่ "ปลาเน่า" ในหลายๆ กรณีซึ่งเชื่อว่าเป็น "ส่วนน้อย" จะสร้างความเสียหายไปมากกว่านี้...