โซเชียลมีเดียกับคนหนุ่มสาวในตลาดอินเดีย

ทุกวันนี้โซเชียลมีเดียมีบทบาทอย่างมากในสังคมมนุษย์ไม่ว่าจะในประเทศไหนในโลก
เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทำให้คนสามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น จนแทบจะพูดได้ว่าในปัจจุบันมีคนจำนวนมากที่พบหน้าค่าตาและพูดคุยกับเพื่อนฝูงหรือคนรู้จักทางโซเชียลมีเดียมากกว่าพบกันตัวเป็นๆ เสียอีก และอีกหลายๆ คนก็ยังได้เพื่อนใหม่ผ่านทางโซเชียลมีเดียอีกต่างหาก เพราะสะดวกและรวดเร็วกว่าการที่จะเดินทางไปพบกันอย่างมากโดยไม่ต้องเสียเวลาหรือเสียเงินในการเดินทางอีกด้วย
ในอินเดียก็เช่นกันที่โซเชียลมีเดียได้ทวีบทบาทและความสำคัญมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นประเทศใหญ่ มีประชากรจำนวนมาก และระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ทำให้การเดินทางไปมาหาสู่หรือติดต่อกันทำได้ยาก เมื่อมีโซเชียลมีเดียเกิดขึ้นมาอันเป็นผลจากระบบอินเทอร์เน็ตที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงทำให้คนอินเดียหันมาติดต่อสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มคนหนุ่มคนสาว และที่สำคัญก็คือ โซเชียลมีเดียได้กลายเป็นสื่อสำคัญสำหรับบริษัทต่างๆ ในอินเดียที่ต้องการจะเจาะเข้าไปยังกลุ่มเป้าหมายเพื่อนำเสนอหรือเชิญชวนให้ซื้อสินค้าและบริการของบริษัท ซึ่งก็มักจะเป็นคนหนุ่มคนสาวรุ่นใหม่ที่นิยมใช้โซเชียลมีเดียมากที่สุดนั่นเอง ทั้งนี้ แนวโน้มดังกล่าวทำให้มีการคาดการณ์โดยบริษัทที่ปรึกษา Troika Consulting ของอินเดียว่าในช่วงระหว่างปี 2554-2559 ตลาดสื่อดิจิทัลของอินเดียจะเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 31% เลยทีเดียว ซึ่งถือว่าอยู่ในอัตราที่สูงมาก โดยในปี 2557 นี้คาดว่าจะมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงระหว่างสินค้าแบรนด์ต่างๆ ในอินเดียที่หันมาใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนหนุ่มคนสาวกันอย่างดุเดือด
ท่านผู้อ่านอาจจะไม่เชื่อว่าโซเชียลมีเดียจะช่วยขยายตลาดสินค้าและบริการสำหรับคนรุ่นหนุ่มสาวในอินเดียได้จริงเพราะดูแล้วอินเดียน่าจะยังไม่เจริญและน่าจะยังล้าหลังอยู่จนโซเชียลมีเดียไม่น่าจะใช้ได้ผล ผมก็ขอเรียนไว้ตรงนี้เลยว่าท่านเข้าใจผิดอย่างแรงแล้วครับและจะยิ่งอึ้งเมื่อทราบถึงข้อมูลต่างๆ ที่ผมจะนำเรียนทุกท่านต่อไป
ปัจจุบัน อินเดียมีประชากรอินเทอร์เน็ต หรือประชากรที่เข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตแล้วจำนวนประมาณ 205 ล้านคน มากที่สุดเป็นอันดับสามของโลก ก็ลองคิดดูแล้วกันว่าเฉพาะแค่ประชากรอินเทอร์เน็ตของอินเดียอย่างเดียวก็มีจำนวนมากกว่าประชากรของประเทศไทยทั้งประเทศกว่า 3 เท่าตัวแล้ว และที่สำคัญก็คือ จำนวนประชากรอินเทอร์เน็ตในชนบทของอินเดียเมื่อปีที่แล้วหรือปี 2556 มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 58% เลยทีเดียว นั่นหมายความว่าอินเทอร์เน็ตในอินเดียได้เริ่มแพร่กระจายไปอย่างกว้างขวางทั่วประเทศแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้โซเชียลมีเดียในอินเดียแพร่หลายตามไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จากการสำรวจของบริษัทที่ปรึกษา Troika Consulting พบว่าประชากรอินเดียประมาณ 75% เป็นประชากรที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี (จากสถิติล่าสุด อินเดียเป็นประเทศที่ประชากรมีอายุเฉลี่ยต่ำที่สุดในโลกคือ ประมาณ 25 ปี) นั่นหมายความว่าตลาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดียก็คือตลาดของคนหนุ่มสาวที่บริษัทต่างๆ จ้องกันตาเป็นมันด้วยหวังจะเจาะเข้าไปยึดมาเป็นลูกค้ากันอย่างคึกคักสุดๆ และที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ จากการสำรวจของบริษัทที่ปรึกษาดังกล่าวยังพบอีกว่า 46% ของเยาวชนคนหนุ่มสาวของอินเดียได้เข้าไปท่องในเว็บที่เป็นโซเชียลมีเดียทุกวัน แถมยังพบอีกว่า 75% ของเยาวชนคนหนุ่มสาวของอินเดียนิยมที่จะสื่อสารระหว่างกันผ่านทางระบบโซเชียลมีเดียมากกว่าทางระบบโทรศัพท์อีกด้วย อันนี้ต้องขอบอกว่าน่าสนใจเป็นอย่างมากเพราะไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์เราจะนิยมการสื่อสารแบบไม่ต้องพูดคุยกันโดยตรงมากกว่า ซึ่งดูแล้วเหมือนกับจะฝืนธรรมชาติแต่ผลจากการศึกษากลับยืนยันว่าเป็นแบบนี้จริงๆ
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจอีกว่า 86% ของคนอินเดียที่ท่องเว็บจะเข้าไปเยี่ยมชมเว็บที่เป็นโซเชียลมีเดีย ก็แปลว่าเว็บที่เป็นโซเชียลมีเดียน่าจะเป็นช่องทางเสนอขายสินค้าและบริการของบริษัทต่างๆ ในอินเดียที่ดีที่สุด บริษัทต่างๆ ในอินเดียจึงหันมาให้ความสนใจกับช่องทางใหม่นี้กันมากขึ้น ซึ่งจากการสำรวจพบว่าปัจจุบันงบโฆษณาสินค้าและบริการของบริษัทในอินเดียประมาณ 10% จะทุ่มลงไปผ่านสื่อดิจิทัลโดยเฉพาะที่เป็นเว็บโซเชียลมีเดีย และกลุ่มเป้าหมายหลักก็คือ กลุ่มเยาวชนคนหนุ่มสาวของอินเดียซึ่งเป็นกลุ่มที่นิยมใช้โซเชียลมีเดียมากที่สุด
เมื่อเราทราบว่าโซเชียลมีเดียมีความสำคัญต่อบริษัทต่างๆ ของอินเดียในการเจาะเข้าตลาดกลุ่มเยาวชนคนหนุ่มสาวแล้ว สิ่งที่น่าสนใจที่ตามมาติดๆ ก็คือ โซเชียลมีเดียไหนที่บริษัทควรจะใช้ ซึ่งอันนี้ก็ต้องพิจารณาถึงจุดแข็ง-จุดอ่อนของแต่ละโซเชียลมีเดียเหมือนกันว่าอันไหนจะเหมาะสมกับสินค้าและบริการของบริษัทที่สุด แต่ที่แน่ๆที่ดีที่สุดและได้ผลที่สุดก็ต้อง Facebook นี่แหละครับ เพราะยังไงๆ Facebook ก็ยังเป็นโซเชียลมีเดียยอดนิยมในอินเดียอยู่ดี ส่วน Twitter ในอินเดียยังด้อยกว่า Facebook เพราะธรรมชาติของ Twitter จะดึงความสนใจจากคนติดตาม (Followers) ได้ยากกว่า วิธีแก้ไขก็คือ บริษัทเจ้าของสินค้าหรือแบรนด์จะต้องคอยหมั่นใส่ข้อความใหม่ๆ เข้าไปหรือมีกิจกรรมให้คนติดตามบ่อยๆ จึงจะสามารถดึงคนได้ ส่วน LinkedIn จะเน้นไปทางด้าน B2B มากกว่าที่จะเข้าไปถึงคนหนุ่มสาว
สำหรับโซเชียลมีเดียที่ได้ผลดีอีกอันหนึ่งก็คือ YouTube ที่สามารถสร้างคนติดตามและสร้างกระแสได้แรงและรวดเร็วเสมอ โดยจากการสำรวจพบว่าจำนวนผู้ติดตามวีดิโอออนไลน์ในประเทศอินเดียในปีงบประมาณ 2555-2556 (ปีที่ผ่านมา) ขยายตัวอย่างมากถึง 27% โดย YouTube เป็นผู้นำในด้านนี้ด้วยส่วนแบ่งตลาด 55% แต่ที่สำคัญที่สุดคือ 50% ของผู้ที่เข้ามาชมวีดิโอออนไลน์ของ YouTube จะเป็นเยาวชนคนหนุ่มสาว ดังนั้น YouTube จึงเป็นช่องทางที่สำคัญมากสำหรับบริษัทที่ต้องการจะเจาะกลุ่มเป้าหมายนี้ในตลาดอินเดีย เพราะนอกจากจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากแล้ว YouTube ยังก่อให้เกิดกระแสติดตามแพร่ไปได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวางอีกด้วย
ส่วน Instagram ก็เป็นอีกโซเชียลมีเดียหนึ่งที่เติบโตอย่างรวดเร็วโดยเน้นไปที่การเป็นพื้นที่สำหรับแชร์ภาพถ่าย โดยแบรนด์ดังอย่าง Nike และ Starbucks ก็ใช้ Instagram เป็นพื้นที่ในการโฆษณาที่สำคัญ นอกจากนั้นก็มีโซเชียลมีเดียอื่น ได้แก่ Pinterest ที่เน้นกลุ่มผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่แต่ยังไม่เป็นที่นิยมมากนักในตลาดอินเดีย และ Vine (ถูก Twitter ซื้อไปแล้ว) ที่เน้นเป็นพื้นที่สำหรับแชร์วีดิโอสั้นๆ ประมาณ 6 วินาที ซึ่งผู้ติดตามส่วนใหญ่จะเป็นเยาวชนอายุประมาณ 18-20 ปี
นอกจากการเลือกใช้โซเชียลมีเดียให้เหมาะสมกับกลยุทธ์ของบริษัทแล้ว ผู้เชี่ยวชาญได้ให้ข้อแนะนำที่มีประโยชน์ในการเจาะตลาดเยาวชนคนหนุ่มสาวในอินเดียผ่านโซเชียลมีเดียว่า ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จก็คือ เนื้อหา หรือ Content ที่จะต้องเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายคือ ตื่นเต้น เร้าใจ และสนุกสนาน ถ้าหากหลุดไปจากนี้ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จจะมีน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย รวมทั้งอย่ากดดันกลุ่มเป้าหมายด้วยการถล่มอัปเดตตลอดเวลา เพราะเยาวชนคนหนุ่มสาวเหล่านี้นิยมข้อความแบบง่ายๆ แต่โดน ชนิดโป้งเดียวจอด และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ต้องพยายามใช้โซเชียลมีเดียที่เน้นเรื่องการแชร์รูปภาพ เช่น Instagram, Pinterest และ Snapchat ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก และสุดท้ายจริงๆ คือ อย่าลืมว่าเยาวชนคนหนุ่มสาวในอินเดียเหล่านี้นิยมใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือกันมาก ซึ่งจนถึงเดือนมิถุนายน 2557 นี้ มีคนอินเดียใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือจำนวน 185 ล้านคนแล้ว โดยมากกว่า 50% เป็นคนหนุ่มสาวอายุระหว่าง 18-24 ปี
ผมคิดว่าข้อมูลต่างๆ ที่ผมเขียนเกี่ยวกับโซเชียลมีเดียในประเทศอินเดียนี้จะเป็นประโยชน์ก็เฉพาะสำหรับบริษัทไทยที่เข้ามาทำการตลาดในประเทศอินเดียเท่านั้น เพราะสามารถนำไปใช้ประกอบการวางแผนการตลาดสำหรับตลาดอินเดียได้ ส่วนบางรายที่ยังทำแค่การส่งออกหรือเข้าอินเดียมาเร่ขายของชั่วครั้งชั่วคราวก็อาจจะยังไม่จำเป็นเท่าใดนัก ก็ได้แต่หวังว่าในอนาคตคงจะมีบริษัทไทยเข้ามาทำการตลาดในอินเดียมากขึ้น...ก็หวังไว้แค่นี้แหละครับ