ความฉลาดทางสังคม (ออนไลน์)

จำได้ว่าในสมัยเด็กๆ เราให้ความสำคัญกับเรื่องของความฉลาดทางสติปัญญา (IQ)
ต่อมาก็ตื่นตัวกันเรื่องของความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence : EQ) แต่ปัจจุบันโดยส่วนตัวผมคิดว่าพวกเราควรจะหันมาให้ความสนใจกับการสร้างความฉลาดทางสังคม (Social Intelligence) กันมากขึ้นครับ ยิ่งปัญหาหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นในสังคมไทยในปัจจุบัน ก็มักจะมาจากปัญหาของเจ้าความฉลาดทางสังคมเป็นสำคัญครับ และยิ่งเข้าสู่ยุคดิจิทัลในปัจจุบัน ความฉลาดทางสังคมนั้นไม่เพียงพอแล้วด้วยครับ แต่ต้องเป็นความฉลาดทางสังคมออนไลน์ด้วย
ถ้าดูจากนิยามของบรรดานักวิชาการต่างๆ ความฉลาดทางสังคมนั้นจะถูกนิยามมาตั้งแต่โบราณ (โดย Edward Thorndike ในปี 1920) ว่าเป็นความสามารถในการทำความเข้าใจ และบริหารบุคคลรอบๆ ข้าง รวมทั้งทำตัวอย่างฉลาดในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล นอกจากนี้นักวิชาการบางท่านก็บอกว่าความฉลาดทางสังคมนั้นคือการที่เรารู้จักและเข้าใจในสถานการณ์ทางสังคมในขณะนั้น และสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ทางสังคมในขณะนั้นได้อย่างชาญฉลาดและเหมาะสม
ความฉลาดทางสติปัญญานั้นมักจะมาจากเรื่องของพันธุกรรมกับการศึกษา แต่ความฉลาดทางสังคมนั้นมาจากการอบรมสั่งสอน และการเรียนรู้ต่อสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งประสบการณ์ในอดีตของตนเองที่อาจจะล้มเหลวหรือสำเร็จ
สาเหตุสำคัญที่ผมต้องเขียนถึงเรื่องของความฉลาดทางสังคมนั้น ก็เนื่องจากในปัจจุบันคนไทยดูเหมือนจะเริ่มมีปัญหาในด้านนี้กันมากขึ้น ท่านผู้อ่านมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่มักจะพูดหรือกระทำอะไรบางอย่างที่เรารู้สึกว่าผิด กาลเทศะหรือไม่ควรจะพูดหรือแสดงออกมาไหมครับ? ยิ่งถ้าคนเหล่านี้รู้ตัวว่าสิ่งที่พูดหรือทำไปนั้น ทำให้บุคคลอื่นเดือดร้อน ไม่สบายใจ แต่ก็ไม่สนใจเนื่องจากคิดว่าตนเองมีสิทธิ์ในการพูด ในการแสดงออก และมักจะชอบอ้างกับตนเองว่า “เป็นคนพูดตรง” คนกลุ่มนี้คือตัวอย่างของพวกที่ Social Intelligence เริ่มมีปัญหาครับ
สาเหตุที่คนเหล่านี้มีปัญหาในเรื่องของความฉลาดทางสังคมนั้น อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากทั้งการที่เรารับวัฒนธรรมตะวันตกมามากขึ้น หรือ คนไทยมีการศึกษาสูงขึ้น ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น การที่อยู่ในสังคมที่ต้องแข่งขันกันมากขึ้น ทำให้สนใจบุคคลรอบๆ ตัวเราน้อยลง แต่สนใจในตัวเองมากขึ้น รวมทั้งคนไทยก็มีความเป็นหัวหมอมากขึ้น จะทำอะไรก็มักจะอ้างว่าตนเองมีสิทธิ์ ต้องการรักษาสิทธิ์ของตนเอง แต่ไม่สนใจว่าการรักษาสิทธิ์หรือปกป้องสิทธิ์ของตนเองนั้นจะทำให้บุคคลรอบข้างหรือสังคมเดือดร้อนหรือไม่
จริงอยู่นะครับที่ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะพูด จะแสดงออก แต่การกระทำที่ไม่นึกถึงบุคคล หรือ สังคมรอบข้าง ก็จะเป็นชนวนสำคัญที่นำไปสู่ปัญหาสังคมอื่นๆ ได้ และที่ยิ่งน่ากลัวไปกว่าปัญหาของการความฉลาดทางสังคม ก็คือ การขาดความฉลาดทางสังคมออนไลน์ครับ
สื่อสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะช่องทางไหน (Facebook, Instagram, Line, Twitter, Webboard ฯลฯ) ถือเป็นพัฒนาการทั้งทางเทคโนโลยีและทางสังคมที่สำคัญ แต่ขณะเดียวกันก็กลายเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาทางสังคมด้วย อันเนื่องมาจากการขาดความฉลาดทางสังคมออนไลน์ สื่อต่างๆ เหล่านี้ เปิดโอกาสให้ทุกคนได้สื่อสารกันมากขึ้นรวมทั้งสามารถแสดงความคิดเห็นกันมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันการสื่อสารที่มากขึ้น และการแสดงความคิดเห็นที่มากขึ้นนั้นก็นำไปสู่ปัญหาทางสังคมได้ ถ้าผู้ใช้ขาดความฉลาดทางสังคมออนไลน์
สื่อออนไลน์เหล่านี้ทำห้ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น และเมื่อความคิดเห็นที่มีนั้นแตกต่างกัน (เป็นเรื่องปกติ) และต่างฝ่ายต่างยึดมั่นถือมั่น ต้องการที่จะเอาชนะให้ได้ ก็เลยกลายเป็นวิวาทะหรือดรามาผ่านหน้าจอที่มีตัวอย่างให้เห็นกันบ่อยๆ ความคิดเห็นที่แตกต่างกันนั้นไม่ใช่เรื่องผิดครับ เพียงแต่การที่จะต้องเอาชนะทางความคิดและไม่ยอมรับว่าอีกฝ่ายมีความคิดที่แตกต่างกันนั้น จะก่อให้เกิดประโยชน์อะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขุดเอาคำพูด ประโยคมาเชือดเฉือนกันให้เกิดความสะใจกันไปข้างหนึ่ง
ความยากของการดำรงตนให้สงบสุขในปัจจุบันคือพัฒนาการของสังคมและเทคโนโลยีทำให้คนในสังคมมีความคิดเห็นที่แตกต่างและหลากหลายกันมากขึ้น ในอดีตความคิดเห็นที่แตกต่างนั้นก็เก็บไว้กับตัว แต่ในสังคมยุคใหม่การแสดงออกถึงความคิดเห็นที่แตกต่างกันไม่ว่าจะผ่านคำพูด พฤติกรรม หรือคีย์บอร์ด กลายเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่การที่จะอยู่ร่วมกัน และทำงานร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างสันติสุขนั้น เราจะต้องเข้าใจและยอมรับถึงความแตกต่างในความคิด แต่ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับในกฎ กติกาของส่วนรวม เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นได้ในสังคม
ดังนั้น เจ้าความฉลาดทางสังคม (ออนไลน์) จึงควรจะเป็นอีกทักษะหนึ่งที่เราต้องเร่งเสริมสร้างให้กับคนในสังคมครับ







