วุฒิภาวะทางอารมณ์ของผู้นำ

ในช่วงระยะหลังๆ นี้ท่านผู้นำของเรามักจะมีการออกอาการอารมณ์เสียอยู่เสมอในเวลาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
ซึ่งก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้างที่พอแบ่งออกได้เป็นสองแง่ แง่หนึ่งก็คือในแง่ของวุฒิภาวะทางอารมณ์ (Emotional Intelligence - EI) ของท่านผู้นำเอง หรืออีกแง่หนึ่งก็คือการที่สื่อมวลชนพยายามที่จะจี้จุดเดือดของท่านผู้นำ เมื่อจี้ได้แล้วก็พากันหัวเราะชอบใจเป็นที่ขบขัน ซึ่งนอกจากจะทำความเข้าใจผิดแก่ตัวท่านผู้นำเองว่าเป็นที่ชื่นชอบของผู้สื่อข่าวแล้วยังมองไปได้ว่าสื่อมวลชนเองนั่นแหละที่เป็นผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้ายต่อท่านผู้นำ
หากเราได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของชาติต่างๆ ทั่วโลก จะทราบว่าแต่ละชาติก็จะมีประวัติของผู้นำที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงอย่างชื่นชม ในฐานะวีรบุรุษหรือรัฐบุรุษอยู่มากมาย อาทิ มหาตมะ คานธี,จอห์น เอฟเคเนดี, ลิงคอล์น, วินสตัน เชอร์ชิล ฯลฯ ซึ่งเราพบว่าผู้นำที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้จะมีคุณสมบัติที่สำคัญอยู่ 2 ประการ คือ ฉลาดเชี่ยวชาญในการบริหารภารกิจต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมาย (Task-Oriented) และในขณะเดียวกัน ก็สามารถสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นเร่งเร้าให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีความศรัทธา เชื่อมั่น เชื่อฟังในตัวผู้นำและทำงานตามที่มอบหมายให้สำเร็จ ซึ่งเรียกว่ามี ความฉลาดเรื่องคน (People Smart)(ที่มาhttp://www.arunsawat.com)
ซึ่งผู้นำแต่ละคนนั้นอาจจะมีวิธีการในการบริหารงานและบริหารคนไม่เหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นออกมามีประสิทธิผลเหมือนกัน ดังนั้น สไตล์และบุคลิกภาพของผู้นำจึงมีได้หลายประเภท แต่สรุปได้ว่าประสิทธิภาพของผู้นำจะวัดได้จากผลงานที่เกิดขึ้น โดยมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้นำและผู้ตามเป็นพื้นฐาน
อย่างไรก็ตาม ผู้คนโดยมากมักมุ่งประเด็นไปที่ผลงานเป็นหลัก จนละเลยหลงลืมไปว่าก่อนที่ผลงานจะออกมาได้นั้น สัมพันธภาพและการร่วมแรงร่วมใจระหว่างผู้นำและผู้ตามเป็นรากฐานสำคัญที่ผู้นำจะต้องสร้างปัจจัยนี้ให้เกิดขึ้นก่อน และความสามารถที่เรียกว่า People Smart นี้จะสะท้อนถึงวุฒิภาวะทางอารมณ์ (Emotional Intelligence หรือ EI) ของผู้นำโดยตรง
วุฒิภาวะหมายถึงอะไร
จากบทความของ นายแพทย์สุรพงศ์ อำพันวงษ์ ได้อธิบายไว้ว่าบางคนอาจคิดว่าหมายถึงความเป็นคนสูงอายุ ซึ่งเราทราบดีว่าไม่ใช่เช่นนั้น แน่นอนว่าผู้สูงอายุควรจะมีวุฒิภาวะในการแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นความคิด อารมณ์และการกระทำ เนื่องจากผู้มีอายุมากได้มีโอกาสผ่านประสบการณ์มากมายในชีวิตน่าจะนำประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้เรียนรู้มาแล้วสร้างวุฒิภาวะให้กับตนเองแต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป
Gordon M.Alport นักจิตวิทยาชาวอเมริกันได้อธิบายคุณสมบัติของบุคคลที่มีวุฒิภาวะ (Maturity) ไว้ 6 ประการคือ
1. มีปรัชญาชีวิตหรือค่านิยมของชีวิต ซึ่งทำให้บุคคลผู้นั้นใช้ชีวิตอย่างมุ่งมั่น บากบั่นมีจุดมุ่งหมาย
2. มีจิตเพื่อบุคคลอื่นและเพื่อสังคมส่วนรวม สามารถร่วมสร้างสรรค์แบ่งปันความรู้ ความคิด ทุกข์สุขกับบุคคลในครอบครัว เพื่อนนอกวงงานและเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งมีจิตใจเพื่อสังคมส่วนรวม (Social concern)
3. สามารถสร้างไมตรีกับผู้อื่นได้ ไม่อิจฉาหรือรู้สึกเป็นเจ้าข้าวเจ้าของบุคคล วัตถุ ตำแหน่ง อย่างหลงใหล (Crippling possessiveness) รู้จักเป็นผู้ให้ ผู้รับ และรู้จักปลง
4. กล้าเผชิญกับทุกข์ยากของชีวิตได้
5. มีอารมณ์ที่ไม่ขึ้นลงรวดเร็ว และรุนแรง มีอารมณ์ขันและมีความยืดหยุ่น
6. กล้าเผชิญและยอมรับทั้งความด้อย และความเด่นของตน ของบุคคลอื่นและของสังคม คนที่เห็นตัวเองและคนอื่นด้อยสุดหรือเด่นสุด ชั่วสุดหรือดีสุด คือคนที่ยังคิดแบบเด็กๆ เพราะไม่มีมนุษย์คนใดจะมีวุฒิภาวะเต็มเปี่ยม แต่ละคนมีระดับของวุฒิภาวะแตกต่างกันไป
กอปรกับบทความของกรมสุขภาพจิต (www.dmh.go.th) ทำให้เราทราบว่าความสามารถที่จะประเมินถึงระดับสูงต่ำวุฒิภาวะทางอารมณ์ (Emotional Intelligence หรือ EI) ของผู้นำ ได้แก่
1. สามารถแยกแยะต้นเหตุของการเกิดอารมณ์ต่างๆ ของตัวเองได้
2. ไม่รู้สึกกดดัน แม้อยู่ภายใต้สถานการณ์ตึงเครียด
3. สร้างแรงจูงใจในการทำงานได้ด้วยตนเอง
4. รู้ว่าพฤติกรรมของเขามีผลกระทบต่อผู้อื่นอย่างไร
5. ริเริ่มวิธีการในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งกับผู้อื่นได้ประสบผลสำเร็จ
6. สงบอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดความโกรธ
7. รู้ว่าเมื่อไรตนเองกำลังรู้สึกโกรธ
8. ตั้งสติได้อย่างรวดเร็วหลังจากพลาดพลั้งไป
9. สามารถสังเกตเห็นว่าเมื่อใดผู้อื่นกำลังอารมณ์หดหู่
10. สามารถบรรลุความร่วมมือกับผู้อื่น
11. สามารถใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าในการรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวได้อย่างรวดเร็ว
12. สามารถสำรวจทบทวนตนเองเพื่อเปลี่ยนสภาวะอารมณ์ของตน
13. สร้างแรงจูงใจให้ตนเองเมื่อต้องทำงานที่ไม่น่าสนใจ
14. ช่วยเหลือผู้อื่นในการจัดการ กับอารมณ์ต่างๆ ของพวกเขา
15. ทำให้ผู้อื่นรู้สึกดี
16. รู้ว่าเมื่อไรตนเองกำลังมีอารมณ์แปรปรวน
17. รักษาความเยือกเย็นไว้ได้เมื่อตนเองเป็นเป้าอารมณ์โกรธของผู้อื่น
18. หยุดและเปลี่ยนกิจวัตรที่ไม่มีประสิทธิผลของตนเอง
19. แสดงความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
20. ให้คำแนะนำและความช่วยเหลือสนับสนุน ทางด้านอารมณ์และจิตใจแก่ผู้อื่น เมื่อเป็นที่ต้องการ
21. รู้ว่าเมื่อไรเริ่มรับไม่ได้และต้องการแก้ตัว
22. รู้ว่าเมื่อไรกำลังคิดในแง่ลบ และสามารถดึงตัวออกจากความคิดนั้นได้
23. เป็นคนพูดอย่างไรทำอย่างนั้น
24. สามารถคุยเรื่องส่วนตัวกับผู้อื่นได้
25. สามารถบอกให้ผู้อื่นทราบถึงอารมณ์ ที่เป็นอยู่ของเขาได้อย่างถูกต้อง
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าเราคงไม่สามารถวัดวุฒิภาวะทางอารมณ์ของท่านผู้นำได้เพียงการแสดงออกถึงอารมณ์โกรธหรือไม่โกรธที่แสดงออกต่อสาธารณะท่านั้น คงต้องดูทั้งหมด แล้วจึงค่อยนำมาประมวลผลโดยตัดความชอบหรือไม่ชอบส่วนตัวออกไป ส่วนจะสอบได้หรือสอบตกหรือไม่นั้นก็สุดแล้วแต่ว่าผลที่ออกมาจะเป็นเช่นไร