รัสเซียมาแน่และมาแล้วเมื่อผมจับเข่าคุยนายกฯ Dmitry Medvedev

รัสเซียมาแน่และมาแล้วเมื่อผมจับเข่าคุยนายกฯ  Dmitry Medvedev

รัสเซียมาแน่...และมาพร้อมกับข้อเสนอที่จะทำมาค้าขาย ลงทุน และสร้างมิตรภาพระหว่างประชาชนต่อกัน

เขาบอกว่าที่มีกิจกรรมคึกคักกว่าเดิมนั้นไม่ได้มีเป้าหมายจะคานอำนาจของสหรัฐ แต่เพราะเขาเชื่อว่ารัสเซียสามารถมีบทบาททางด้านสร้างสรรค์ในหลาย ๆ ด้านที่แต่ก่อนอาจจะยังไม่ได้นั่งลงพูดคุยกันอย่างกว้างขวางกับเพื่อน ๆ ในแถบนี้

ผมได้สัมภาษณ์พิเศษนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ดมิทรี เมดเวเดฟ (Dmitry Medvedev) เมื่อวันพุธหลังจากที่ท่านได้เจอ นายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชาและผู้นำนักธุรกิจไทย และสัมผัสได้ถึงความกระตือรือร้นที่จะจับมือสร้างประโยชน์ให้แก่กันอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น

นายกฯเมดเวเดฟ วัยเพียง 49 (ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน 62) ตอบคำถามของผมอย่างคล่องแคล่วฉาดฉาน ยืนยันว่าไทยกับรัสเซียมีความสัมพันธ์กันยาวนาน 118 ปีแล้ว และวันนี้พร้อมจะเจรจาข้อตกลง การค้าเสรี กับไทยในรูปแบบเดียวกับที่กำลังจะสรุปกับเวียดนามในเร็ว ๆ นี้

ไทยเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของรัสเซียในอาเซียน และมีความสนิทสนมเป็นพิเศษในหลาย ๆ ด้านรวมถึงนักท่องเที่ยวรัสเซียที่มาประเทศไทยเป็นจำนวนมาก (ปีก่อนหน้านี้ 1.7 ล้านคน, ปีที่แล้วลดลงมาเล็กน้อยเหลือ 1.5 ล้าน แต่เมื่อเงินสกุลรูเบิลอ่อนค่าลงอย่างรุนแรง เพราะวิกฤตเศรษฐกิจและการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ โดยสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปจำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียมาไทยก็ลดลงประมาณ 30%)

“ผมเชื่อว่าปัญหานี้คงจะเป็นเรื่องชั่วคราว เศรษฐกิจของเรากำลังกลับมามีเสถียรภาพ ผมเชื่อว่าเราจะฝ่าข้ามปัญหานี้ได้” นายกฯรัสเซียบอกผม

  เขาเสนอว่าประเทศไทยควรจะพิจารณาเข้าร่วม สหภาพเศรษฐกิจยูโรเอเชีย” (Eurasian Economic Union หรือ EEU) ซึ่งมีสมาชิก 5 ประเทศ ประชากรรวม 180 ล้านซึ่งก็จะเป็นตลาดที่ใหญ่พอสมควร

EEU เป็นการรวมตัวของประเทศทางเหนือของเอเชีย-ยุโรป ลงนามตั้งเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมเมื่อปีที่แล้วนี่เองมีรัสเซียเป็นแกนกลาง และสมาชิกก่อตั้งคือเบลารุสและคาซักสถาน มีผลเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ต่อมาอาร์มีเนียและเคอร์จิสถานก็ได้เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกด้วย

เมดเวเดฟมาบอกไทยให้เชิญชวนเพื่อนอาเซียนอื่น ๆ ไปร่วมค้าขายและลงทุนใน EEU เพื่อเป็นการขยายความร่วมมือในภูมิภาคนี้

แน่นอนว่ารัสเซียมีทรัพยากรธรรมชาติไม่น้อย โดยเฉพาะน้ำมันและแก๊ส (เมดเวเดฟเคยเป็นประธานของ Gazprom ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจยักษ์ทางด้านแก๊สธรรมชาติของรัสเซีย) จึงมีความพร้อมที่จะร่วมมือกับไทยในด้านนี้ เพื่อสร้างความยั่งยืนทางด้านพลังงานให้กับไทย

รัสเซียเสนอให้ไทยไปร่วมลงทุนใน “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ทางตะวันออกไกลของประเทศ ซึ่งกำลังเป็นโครงการที่นายกฯรัสเซีย กำลังเสนอให้กับหลายประเทศ เพื่อสร้างศักยภาพใหม่ในเขตที่ยังขาดการลงทุน และเทคโนโลยีด้วยการเสนอสิทธิพิเศษทางภาษีและแรงจูงใจด้านอื่น ๆ

อีกด้านหนึ่ง นายกฯเมดเวเดฟบอกว่ารัสเซียมีอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัย ที่พร้อมจะนำเสนอต่อกองทัพไทยหากมีความสนใจ

ผมถามนายกฯเมดเวเดฟว่าประเทศไทยเล็ก ๆ อย่างนี้จะมีส่วนช่วยลดความเจ็บปวดของปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้ได้อย่างไรหรือไม่? (เพราะเขาเปรียบเทียบปัญหาของเขาวันนี้กับวิกฤตต้มยำกุ้งของเราเมื่อปี 1997)

เขาตอบว่า “ประเทศไทยไม่เล็กนะครับ เป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของรัสเซียในอาเซียน และแน่นอนครับประเทศไทยจะช่วยเราได้ ด้วยการไปลงทุนในรัสเซียและเพิ่มการค้าขายกับเรา...”

สำหรับนักวิเคราะห์ด้านการเมืองระหว่างประเทศแล้ว การมาเยือนครั้งแรกใน 25 ปีของนายกรัฐมนตรีรัสเซียครั้งนี้ ย่อมส่งสัญญาณที่ชัดเจนพอสมควรว่าไทยกำลังเป็นที่สนใจของประเทศมหาอำนาจไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ, จีน, ญี่ปุ่น และรัสเซีย เพราะที่ตั้งทางภูมิศาสตร์และศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจของเรามีน้ำหนักไม่น้อยในเวทีระหว่างประเทศ

อยู่ที่ว่าเราจะรู้จักใช้ศักยภาพที่ว่านี้ ให้เป็นประโยชน์เต็มที่หรือไม่เท่านั้น