ทำไมใครก็มีปืนที่อเมริกาได้?

ทำไมใครก็มีปืนที่อเมริกาได้?

เมื่อวานเขียนถึงเหตุผล ทำไมสหรัฐยังไม่สามารถ ออกกฎหมายควบคุมปืนได้

 ทั้ง ๆ ที่มีการกราดยิงในที่สาธารณะตายกันอย่างต่อเนื่อง

วันนี้จะอธิบายปรากฏการณ์เรื่อง ปืน กับ คนอเมริกัน ต่อ เพราะเป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก เกี่ยวกับความเชื่อของคนอเมริกันเรื่องสิทธิเสรีภาพ, ความปลอดภัย, การเมือง และความประหลาดมาก ๆ ของสังคมมะกัน

ไม่มีประเทศพัฒนาไหนในโลก ที่มีอัตราความรุนแรงอันเกิดจากปืนเท่ากับสหรัฐ... อัตราฆาตกรรมที่เกิดจากปืนสูงกว่าแคนาดา 6 เท่า และสูงกว่าเยอรมัน 16 เท่า

อเมริกามีจำนวนปืนที่พลเมืองครอบครองได้สูงที่สุดในโลก สถิติปี 2007 ชี้ว่า 100 คนอเมริกันจะมีปืน 88.8 กระบอก รองลงมาคือเยเมนที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 100 คนต่อ 54.8 กระบอก

แต่เยเมนเป็น กึ่งรัฐล้มเหลว ที่ตกอยู่ในสภาพสงครามกลางเมือง ขณะที่สหรัฐได้ชื่อว่าเป็นประเทศพัฒนา มีความมั่นคงและเสถียรภาพทางการเมืองสูงสุดในโลกแห่งหนึ่ง

แต่การมีปืนเป็นจำนวนมากนั้นไม่ได้แปลว่า คนอเมริกันมีปืนในครอบครองเกือบทุกคน เพราะความเป็นเจ้าของปืนนั้นกระจุกตัวอยู่ที่คนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ส่งเสียงดังที่สุด เมื่อมีความพยายามจะจำกัดสิทธิในการครอบครองและพกพาปืน แม้จะเกิดความรุนแรงทำให้คนตาย และบาดเจ็บอย่างมากมายต่อเนื่องก็ตาม

กลุ่มผู้สนับสนุนเรื่องปืนมักจะอ้างว่า การที่มีคนออกมาใช้ปืนกราดยิงคนอื่นอย่างบ้าคลั่งนั้น ไม่ใช่เพราะนโยบายปืนเสรี แต่เป็นเพราะจำนวนคนอเมริกัน ที่มีปัญหาโรคจิตโรคประสาทมีมากขึ้นเท่านั้นเอง

นักจิตวิทยามะกันเองแย้งว่า ข้ออ้างนั้นไม่จริง เพราะคนจิตไม่ปกติส่วนใหญ่เป็นเหยื่อของความรุนแรงมากกว่าที่จะเป็นผู้กระทำต่อคนอื่น

สาเหตุสำคัญที่คนอเมริกันทำอะไรรุนแรงในที่สาธารณะอย่างนั้นมีหลายประการเช่น ความยากจน, ความไม่เป็นธรรมในสังคม, ประวัติครอบครัว... และแน่นอนว่าเกี่ยวกับการที่ใครอยากซื้อหาปืนก็เดินเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตได้เลย

อีกเหตุผลหนึ่งของฝ่ายสนับสนุน การครอบครองปืนเสรีก็คือว่า การกราดยิงในที่สาธารณะจะลดน้อยลง ถ้าให้คนมะกันมีปืนกันเยอะ ๆ เพราะจะเป็นการป้องกันตัวเองได้ดีกว่า ที่ให้คนกลุ่มเดียวมีอาวุธปืน

แต่สถิติทางการยืนยันว่าข้ออ้างข้อนี้ฟังไม่ขึ้น เพราะตัวเลขที่รวบรวมโดยนักวิชาการบอกว่า การที่อัตราการมีปืนในครอบครองของคนอเมริกันสูงไม่ได้ทำให้จำนวนคนตายจากปืนลดลงแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับตอกย้ำความกลัวที่ว่า ยิ่งคนมีปืนมากในสังคมก็ยิ่งมีคดีฆาตกรรมสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว

การสำรวจของ Pew Research Center บอกว่าคนอเมริกันส่วนใหญ่สนับสนุนให้มีมาตรการตรวจประวัติคนซื้อปืนก่อน, ห้ามอาวุธปืนสงครามสำหรับเอกชน, ห้ามซื้อขายปืนออนไลน์และให้รัฐบาลกลางติดตามข้อมูลการซื้อขายปืนให้ประชาชนตรวจสอบได้

ถามว่าถ้าคนอเมริกันส่วนใหญ่เห็นว่าควรจะมีการควบคุมการมีปืนในครอบครอง ทำไมจึงไม่สนับสนุนให้มีกฎหมายออกมาบังคับใช้ตามนั้น?

คำตอบคือคนอเมริกันมีความผูกพันกับความเชื่อเรื่องเสรีภาพที่ทุกคนมีสิทธิครอบครองอาวุธปืน

และคนที่ต่อต้านปืนเสียงดังน้อยกว่ากลุ่มสนับสนุนสิทธิการครอบครองปืน

โดยเฉพาะที่เรียกว่า Gun Lobby อันหมายถึงกลุ่มนักล็อบบี้ไม่ให้ออกกฎหมายมาควบคุมเรื่องซื้อขายปืนไม่ว่าจะเป็นในรูปใด

และกลุ่มล็อบบี้เรื่องนี้ที่มีอิทธิพลที่สุดในอเมริกาคือ สมาคมไรเฟิลแห่งชาติหรือ National Rifle Association (NRA) ซึ่งมักจะอ้างว่าความพยายามที่จะห้ามคนอเมริกันครอบครองปืน เป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะที่แก้ไขเพิ่มเติมที่ 2

แม้ว่าจำนวนคนอเมริกันที่รวมตัวกันยืนข้าง NRA จะมีประมาณ 34-43% แต่พวกเขามีการจัดการบริหารและเจาะลึกเข้าในกระบวนการออกกฎหมายในรัฐสภา โดยเฉพาะในพรรครีพับบลิกันอย่างมีประสิทธิภาพมาก

ขณะที่กลุ่มคนอเมริกันที่ต่อต้านปืนแม้จะมีจำนวนมากกว่า แต่ก็ขาดการรวมตัวเพื่อสร้างอำนาจต่อรองในรัฐสภาและสังคมโดยทั่วไป

แม้ประธานาธิบดีโอบามาจะออกมาแสดงจุดยืนเรื่องนี้ ด้วยภาษาดุดันเพียงใด การเมืองเรื่องผลประโยชน์ ในระบบมะกันก็ยังเป็นสาเหตุที่คนยังต้องตายด้วยปืนกันอีกต่อไป… แม้ว่าการยิงกราดใส่ผู้คนที่ San Bernardino รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อเร็ว ๆ นี้จะเป็นครั้งที่ 355 ของปีนี้แล้วก็ตาม!