โนบุนากา-ฮิเดโยชิ-อิเอยาสุ: ผู้กุมอำนาจใต้ฟ้า(1)

โนบุนากา (1534-82) ถือกำเนิดในเทมบุนปีที่ 3 (1534) ในฐานะลูกชายคนโตของโอดะ โนบุชิเดะ ที่เมืองโชะบาตะ
(ปัจจุบันคือเมองอินาซาวา)
ตอนนั้นเป็นยุคที่อำนาจการปกครองอยู่ใต้โชกุนสมัยมูโรมาจิ การควบคุมหัวเมืองในเรื่องการทหารและการพิจารณาคดีความอยู่ภายใต้ผู้ดูแลที่เรียกว่า ชุโงะ แต่การดำเนินงานมักจะอยู่ภายใต้ชุโงะได หรือตัวแทนชุโงะ ในตอนที่โนบุนากาเกิดมานั้น โชกุนอ่อนแอมากและมีอำนาจควบคุมเพียงรอบๆ เมืองหลวงเกียวโตเท่านั้น
ชิบะ ชุโงะ แห่งเมืองโอวาริ (ซีกตะวันตกของจังหวัดไอจิปัจจจุบัน) เป็นผู้มีชื่อเสียงที่ควบคุมดูแลเมืองเอทจิเซนและโทโอโทมิด้วย จึงไม่ได้อยู่ประจำในเมืองที่ดูแล แต่มอบหมายให้ชุโงะไดดูแลแทนเป็นส่วนใหญ่
ในช่วงความวุ่นวายสูงสุดที่เกิดขึ้นในสมัยโอนิน-บุนเมอิ (1467-77) ชุโงะและชุโงะได ต่างแย่งชิงหัวเมืองเพื่อแผ่ขยายอำนาจอย่างเต็มที่และสร้างเขตอำนาจการปกครองที่เป็นอิสระของตนเองขึ้น เรียกว่า เซนโงชุไดเมียว
ชุโงะได ของเมืองโอวาริ มีตระกูลโอดะทำหน้าที่อยู่ ความแตกแยกภายในตระกูลทำให้เมืองโอวาริแบ่งเป็นซีกเหนือและใต้ โอดะโนบุฮิเดบิดาของโนบุนากาเป็นลูกน้องคนสำคัญของชุโอะไดซีกใต้ โอดะ มิจิคัทสึ และกลายเป็นนักรบคนสำคัญของเมืองโอวาริด้วยอายุเพียง 20 ปี ในปี 1538 โนบุฮิเดะ ใช้อุบายยึดเมืองนาโกยาได้ และยกให้แก่โนบุนากาในปี 1546 เมื่ออายุได้ 13 ปี ในปี 1552 โนบุฮิเดะเสียชีวิต โนบุนากาจึงได้เป็นผู้นำครอบครัวต่อจากบิดา ในปี 1554 โนบุนากาสามารถแย่งชิงตำแหน่งชุโงะไดของโอวาริซีกใต้มาได้ และในปี 1556 ได้เป็นชุโงะโดยไล่ชิบะออกไป
ในปี 1559 ก็สามารถยึดตำแหน่งชุโงะไดของโอวาริ ซีกเหนือได้ และรวบรวมตระกูลโอดะให้เป็นปึกแผ่นได้ในที่สุด
ปี 1549 อิมากาวา โยชิโมโต เร่ิมแผ่ขยายอำนาจเข้ามาทางตะวันออกของเมืองโอวาริ ภายหลังจากที่ยึดได้เมืองมิคาวาแล้ว โนบุนากาจึงสร้างค่ายไว้ 5 แห่ง เพื่อยันอิมากาวาไว้ตลอดแนว การที่โยชิโมโตจะยกทัพเข้าเมืองหลวงได้จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องรบกับโนบุนากา ในปี 1560 การรบครั้งแรกกับมัทสึไดรา โมโตยาสุ (โทกุงาวา อิเอยาสุในภายหลัง) อันเป็นกองทัพส่วนหน้าของอิมากาวาที่มีกำลังทั้งหมดสองหมื่นคนทำให้โนบุนากาเสียที่มั่นไป 2 ค่าย กำลังของโนบุนากามีเพียง 2,000 คนต้องถอยร่นไป ขณะนั้นบังเกิดฟ้าฝนตกอย่างหนัก
หลังฝนหยุดแล้ว โนบุนากานำกำลังเข้าโจมตีกองทัพของอิมากาวาจนโยชิโมโตตายในที่รบ นี่คือ ยุทธการโอเกะฮาซามะอันลือลั่นในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น การรบในครั้งนี้ทำให้โนบุนากาได้ดินแดนเมืองโอวาริซีกตะวันออกพร้อมกับมิกาวามาทั้งหมด
การรบในครั้งนั้น ทำให้ชะตาชีวิตของโทกุงาวา อิเอยาสุ เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเช่นเดียวกัน อิเอยาสุถือกำเนิดที่โอกะซากิในแคว้นมิกาวา บิดาเป็นลูกน้องคนสำคัญของอิมากาวา ในวัยเด็กใช้ชีวิตเป็นตัวประกันอยู่กับโอดะ โนบุฮิเดะ ถึง 14 ปี จึงได้มาอยู่กับอิมากาวาในปี 1549 เมื่อโยชิโมโตตายในที่รบ อิเอยาสุจึงยกกำลังเข้าเมืองโอกะซากิ และปลดแอกตนเองจากชีวิตตัวประกันแต่นั้นมา หลังจากนั้นได้เป็นพันธมิตรกับโนบุนากาโดยการแนะนำของลุง รวบรวมแผ่นดินของมิกาวาให้เป็นปึกแผ่นในเวลาต่อมาด้วยการยึดเมืองโทโอโทมิและลงหลักปักฐานที่เมืองฮามามัทสึ
พันธมิตรกับอิเอยาสุ ทำให้โนบุนากามีสมาชิกจดจ่อกับการบุกเมืองมิโนะ (จังหวัดกิฝุปัจจุบัน) แม้จะรบแพ้หลายครั้งแต่ก็สามารถยึดได้ในที่สุด ในระหว่างการรบกับมิโนะ คิชิตะ ฮิเดโยชิ (ภายหลังเปลี่ยนนามสกุลเป็น ฮะชิบะ และ โตโยโตมิ ตามลำดับ)กลายเป็นลูกน้องที่โดดเด่นคนหนึ่ง ฮิเดโยชิเป็นลูกชาวนาในย่านนากามูระของเมืองโอวาริ มาทำงานกับโนบุนากาตั้งแต่อายุ 18 ปี
หลักฐานที่แสดงว่าฮิเดโยชิ เป็นลูกน้องคนสำคัญของโนบุนากา ได้แก่ เอกสาร 木下秀吉等連署状ที่เกิดขึ้นในปี 1567 และ 木下秀吉書状ที่เกิดขึ้นในปี 1568 ที่แสดงว่า ฮิเดโยชิเป็นผู้ที่มีบทบาทในการรบกับมิโนะ และได้รับมอบหมายให้ดูแลงานรอบๆ เกียวโต พฤติกรรมต่างๆ ของฮิเดโยชิในภายหลังอาจอนุมานได้ว่า เขาเป็นผู้ที่เก่งในการวางแผนเล่ห์เพทุบายและการพูดการเจรจา ทั้งยังเป็นผู้ที่ใช้สถานการณ์ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองเสมอ การที่โนบุนากาเลือกใช้เขาบนพื้นฐานของความรู้ความสามารถส่วนบุคคลและเป็นที่ถูกตาต้องใจ ถือว่าเป็นโชคดีอย่างมากของฮิเคโยชิ
ปี 1565 อาชิคางะโยชิเทรุ โชกุน มุโรมะจิ ลำดับที่ 13 ถูกลอบสังหารแต่ อาชิคางะโยชิอากิ หนีออกมาได้และตระเวนขอความช่วยเหลือจากไดเมียว (เจ้าเมือง) ต่างๆ ในที่สุดโนบุนาการับปากให้ความช่วยเหลือและยกกำลังสี่หมื่นคนเข้าเมืองหลวงเกียวโต โดยอิเอยาสุได้ตามไปด้วย โนบุนากาสามารถปราบปรามกบฎในเมืองหลวงได้ราบคาบและสถาปนาโยชิอากิ เป็นโชกุนมุโรมะจิ ลำดับที่ 15 ในปี 1565 นั้นเอง แต่เป็นอำนาจการปกครองร่วมกันระหว่างโนบุนากากับโชกุนโยชิอากิ
ความสัมพันธ์เป็นไปด้วยดีได้ไม่นาน โนบุนากาก็ยึดอำนาจทั้งหมดมาไว้ในมือในปี 1570 โยชิอากิจึงได้ออกตระเวนเรียกร้องให้เจ้าเมืองต่างๆ มาล้มโนบุนากาอีก ในครั้งนี้ บุคคลสำคัญที่กลายเป็นวงล้อมโบุนากา ได้แก่ อาซาคุระ โยชิคาเงะ อาไซอิ นางามาสะ และ ทาเคดะ ชินเงน แต่ไม่มีผู้ใดที่มีกำลังเพียงพอที่จะยกเข้าเมืองหวงได้ ในที่สุดโยชิอากิต้องก่อการเพียงลำพังและพ่ายแพ้ในที่สุด อันเป็นการสิ้นสุดสมัยของโชกุนมุโรมะจิ หลังจากนั้น โนบุนากาก็ทะยอยปราบปราม อาซาคุระโยชิคาเงะ และอาไซอิ นางามาสะ จนเหลืองเพียง ทาเคดะชินเงิน ซึ่งก็มาเสียชีวิตลง ทาเคดะคัทสึโยริ ลูกชายสืบทอดต่อมาจนมีกำลังกล้าแข็็งพอที่จะต่อกรกับโนบุนากา และอิเอยาสุ จึงได้ยกกำลังเข้าตีเมืองมิกาวา
อิเอยาสุจึงได้ขอความช่วยเหลือจากโนบุนากาโดยมีกำลังรวมกัน 35,000 คน ตั้งแนวป้องกันเหนือใต้ตามฝั่งแม่น้ำด้านตะวันตกของเรนโงะงาวา ด้วยรั้วหลาวไม้ป้องกันม้ายาวสองกิโลเมตร ทั้งยังมีพลปืนแนวละหนึ่งพันคน 3 แนว ผลัดกันยิงหลังรั้ว ฝ่ายทาเคดะจึงพ่ายแพ้หมดรูป หลังการรบนี้ โนบุนากาจึงกลายเป็นผู้กุมอำนาจใต้ฟ้าอย่างแท้จริงในปี 1575 โนบุนากายกเมืองโอวาริและมิโนะให้โนบุทาดะ ลูกชายคนโตปกครอง ส่วนตนเองย้ายไปปักหลักที่เมืองอาสึจิ ฝ่ายอิเอยาสุก็ยกเข้าตีเมืองโทโอโทมิของทาเคดะในปี 1581 ฝ่ายโนบุทาดะยกเข้าตีเมืองชินาโนะและเมืองไคในปี 1582 ทาเคดะจึงถูกปราบสิ้นซากไปในที่สุด หลังการรบครั้งนั้น อิเอยาสุได้รับจัดสรรให้ดูแลเมืองซูรูงะอีกหนึ่งเมือง เมื่อเริ่มต้น โนบุนากาและอิเอยาสุเป็นพันธมิตรที่มีฐานะเท่าเทียมกัน แต่อิเอยาสุมีฐานะกลายเป็นผู้อยู่ใต้อำนาจตั้งแต่นั้นมา
ปีเทนโชที่ 10 (1582) โนบุนากา เปิดฉากการรุก 5 ทิศทาง คือ คันโตเหนือ ชายฝั่งด้านเหนือ แถบนาโกยา คันไซ และ ชิโกกุ ด้วยกำลังทหารทัพละ 1-5 หมื่นคน ที่เพียงพอในการรุกรบคืบหน้า อย่างได้ผลดี อาเกจิ มิทสึฮิเดะ ได้รับมอบหมายให้รักษาการณ์รอบพระนคร จึงกระจายกำลังออกเป็นกลุ่มอิสระ รอรับคำสั่งให้สนับสนุนฮิเดโยชิ ซึ่งรับผิดชอบแถบนาโกยา แต่ว่ามิทสึฮิเดะ กลับนำกำลังทหาร 13,000 คน เข้าไปในเกียวโต และโจมตีวัดฮอนโนจิอันเป็นที่พักของโนบุนากาอย่างสายฟ้าแลบ ทำให้โนบุนากาตัดสินใจใช้ดาบฆ่าตัวตาย และโนบุทาดะที่อยู่ห่างออกไป 1 กิโลเมตร ก็ตัดสินคว้านท้องตายเช่นเดียวกัน วันรุ่งขึ้น ฮิเดโยชิได้ข่าวการตายของบุนากาก็รีบยกทัพกลับเกียวโตทันที และรวมกำลังกับอีก 2 ทัพเข้าโจมตีมิทสึิเดะ โดยที่ไม่ทันตั้งตัว จึงพ่ายแพ่และเสียชีิวิตในอีก 10 วันต่อมา
ในการประชุมผู้ใหญ่คนสำคัญของตระกูลโอดะ ฮิเดโยชิ ได้เสนอให้ซำโบชิบุตรของโนบุนากาที่อายุเพียง 3 ขวบ เป็นผู้ปกครองตระกูล โดยที่ฮิเดโยชิมีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ซึ่งหมายถึงว่าอำนาจของตระกูลโอดะได้จบสิ้นลง และเปลี่ยนมาอยู่ในมือของฮิเดโยชิแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่ของตระกูลโอดะที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับฮิเดโยชิได้แก่ ชิบาตะ คัทสึอิเอะ โอดะ โนบุทากะ ทากิงาวา อิจิมาสึ พยายามตั้งเมืองปิดล้อม แต่ฮิเดโยชิก็ทะยอยตีทีละเมืองจนเหลือเพียงซะคุมะโมริมาสะ หลานของคัทสึอิเอะ ที่แอบตีค่ายโอโออิวายามาโทริในขณะที่ฮิเดโยชิอยู่ที่เมืองโอโองากิ เมื่อทราบข่าว ฮิเดโยชิ รีบควบกองทัพมาที่คิตะโทโอโทมิ ในระยะทาง 52 กิโลเมตรด้วยเวลาเพียง 5 ชั่วโมง และเกิดปะทะกับกำลังของโมริมาสะ ที่เรียกว่า ยุทธการชิสึงะทาเกะ อันลือลั่นในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ฮิโดโยชิส่งหนังสือถึงลูกน้องคนสำคัญ 9 คน ในการปูนบำเหน็จรางวัลหากได้ชัยชนะในการรบ จึงเกิดความฮึกเหิมและได้ชัยชนะในที่สุด ลูกหลานและบริวารของโนบุนากาต่างถูกบังคับให้ฆ่าตัวตายไปจนหมด
ในระหว่างการแย่งชิงอำนาจ ภายหลังยุคโนบุนากา อิเอยาสุได้วางตัวออกห่างจากบริวารของตระกูลโนบุนากา แต่หันไปสนใจกับเมืองต่างๆ ทางตะวันออกแทน และเข้าควบคุมเมืองต่างๆ ที่มาอยู่ภายใต้โนบุนากาตั้งแต่ก่อนเสียชีวิตโดยไม่ต้องทำการรบมากนัก ได้แก่ มิกาวา โทโอโทมิ ซูรูงะ ไค และ ชินาโนะใต้