ปัญหาสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นเป็นเท็จหรือปลอม

บริษัทจำกัดที่ตั้งขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายกำหนดให้มีมีกรรมการ เป็นผู้บริหารจัดการตามข้อบังคับ
ของบริษัทและตามมติที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น ส่วนกรรมการจะมีกี่คนเป็นใครบ้างเป็นไปตามที่ประชุมใหญ่แต่งตั้งและกำหนด ผู้ถือหุ้นไม่มีอำนาจบริหารจัดการบริษัท จะมีสิทธิเพียงเข้าประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นและลงมติแต่งตั้งกรรมการและควบคุมการบริหารงานผ่านมติที่ประชุม กรรมการบริษัทอาจเป็นฝ่ายเสียงข้างน้อยก็ได้ ถ้าได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุม ในการประชุมใหญ่ไม่ว่าครั้งใดผู้ถือหุ้นมีสิทธิเข้าประชุมเสมอ การลงมติในที่ประชุมใหญ่ถ้าใช้วิธีชูมือ ผู้ถือหุ้นหนึ่งคนมีสิทธิออกเสียงหนึ่งเสียง ไม่ว่าถือหุ้นมากหรือน้อย แต่ถ้าเป็นการลงคะแนนลับ มีคะแนนเสียงหนึ่งเสียงต่อหนึ่งหุ้น
บริษัทใดมีปัญหาการแย่งอำนาจการบริหารระหว่างผู้ถือหุ้นด้วยกันเอง แต่ละฝ่ายจะขวนขวายหาคะแนนเสียงให้ได้เสียงข้างมาก หรือหาวิธีทำให้ฝ่ายตนมีจำนวนหุ้นที่ถือเป็นเสียงข้างมากทั้งโดยชอบและไม่ชอบ เพื่อออกเสียงแต่งตั้งกรรมการที่เป็นฝ่ายตน ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้มีข้อพิพาทฟ้องร้องกันเกิดขึ้น
การพิจารณาว่าผู้ใดเป็นผู้ถือหุ้นอันจะมีสิทธิเข้าประชุมและออกเสียงลงมติในที่ประชุมใหญ่นั้น จะยึดถือตามที่ปรากฏในสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่บริษัทนำส่งต่อนายทะเบียนได้หรือไม่ กรณีนี้มีข้อพิจารณาคือ ตามป.พ.พ. มาตรา 1139 วรรคสอง บัญญํติให้เป็นหน้าที่ของกรรมการบริษัทที่จะต้องส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีอยู่ทั้งหมดในเวลาที่ประชุม และผู้ที่ขาดจากการเป็นผู้ถือหุ้นไปแล้วไปยังนายทะเบียนอย่างน้อยปีละครั้ง และต้องไม่ช้ากว่า 14 วันนับแต่วันประชุมสามัญ
ในทางปฏิบัติบริษัทจะส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นพร้อมกับการส่งงบการเงิน หลังจากมีการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติงบการเงินแล้ว โดยใช้แบบฟอร์มตามที่กำหนด คือแบบบอจ. 5 พร้อมหนังสือนำส่งตามแบบที่กำหนดด้วย ผู้ที่ต้องลงนามในสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นและในหนังสือนำส่งคือกรรมการบริษัทพร้อมประทับตราของบริษัทด้วย
กฎหมายกำหนดให้บริษัททุกบริษัทต้องจัดทำสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น รายการที่ต้องมี คือ ชื่อ อาชีพ ที่อยู่ของผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้นที่ถือ หมายเลขใบหุ้น เงินที่ชำระแล้ว วันที่ลงทะเบียนผู้ถือหุ้น หากมีการออกใบหุ้นชนิดระบุชื่อผู้ถือก็ให้ระบุหมายเลขใบหุ้นและหมายเลขหุ้น วันที่ยกเลิกใบหุ้น และรายชื่อบุคคลและวันเดือนปีที่พ้นจากการเป็นผู้ถือหุ้นไปแล้ว ทั้งนี้กฎหมายให้สันนิษฐานว่า สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเป็นพยานหลักฐานที่ถูกต้อง
สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ต้องส่งต่อนายทะเบียน บริษัทที่สุจริตจะคัดมาจากสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น และเป็นไปได้ที่อาจมีกรรมการบริษัทที่ไม่สุจริตเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้นตามอำเภอใจ เช่นตัดชื่อผู้ถือหุ้นบางคนออก เพิ่มรายชื่อผู้ถือหุ้นเข้ามาใหม่ ลดหรือเพิ่มจำนวนหุ้นที่ถือโดยไม่ตรงตามความเป็นจริง เพื่อฮุบหุ้นและอาศัยเสียงลงมติแต่งตั้งถอดถอนกรรมการ
ดังนั้น หากมีข้อสงสัยหรือข้อโต้แย้งว่าสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นไม่ถูกต้องตรงความเป็นจริง ก็สามารถตรวจสอบความเป็นจริงที่ถูกต้องได้จากสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ถ้าปรากฏว่าตรวจสอบแล้วไม่ตรงหรือไม่เป็นไปตามสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น กรรมการบริษัทที่ลงลายมือชื่อในสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นและหนังสือนำส่งต้องรับผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน แต่ถ้ามีผู้อื่นปลอมสำเนาบัญชีรายชื่อนั้น ผู้ปลอมต้องเป็นผู้รับผิดฐานปลอมเอกสาร
แต่ถ้าปรากฏว่า บริษัทนั้นไม่มีสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ก็จะไม่สามารถตรวจสอบได้ จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป ก่อนอื่นบริษัทที่ไม่มีสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นต้องรับผิดตามพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ.2499 มีโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
เมื่อไม่มีสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นให้ตรวจสอบ ขั้นตอนต่อไปก็ต้องตรวจสอบจากใบหุ้น บุคคลผู้ปรากฏชื่อในใบหุ้นหรือผู้ที่มีใบหุ้นออกให้ผู้ถือมาแสดง หรือเป็นผู้ได้รับโอนหุ้นมาถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ก็เป็นหลักฐานที่แสดงว่าเป็นผู้ถือหุ้นที่ถูกต้อง แต่ถ้าปรากฏว่าบริษัทดังกล่าวก็ไม่เคยมีการออกหรือทำใบหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเลย ก็ไม่สามารถใช้ใบหุ้นเป็นหลักฐานยืนยันได้ จะทำอย่างไรต่อไป กรณีเช่นนี้บริษัทที่ไม่เคยมีการออกใบหุ้นเลยก็ต้องรับผิดตามพ.ร.บ.กำหนดความผิดฯ ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
เมื่อไม่มีทั้งสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นและใบหุ้น ขั้นตอนที่จะตรวจสอบต่อไป คือตรวจสอบบริคณห์สนธิตามที่ได้จดทะเบียนไว้ตอนเริ่มจัดตั้งบริษัท ตรวจสอบว่า จำนวนทุนเรือนหุ้นว่ามีเท่าใด และตรวจสอบรายงานการประชุมใหญ่จัดตั้งบริษัท ว่ามีใครเป็นผู้ซื้อหุ้นที่เข้าประชุมจัดตั้งบริษัท และซื้อไว้คนละกี่หุ้น เพราะการจะนัดประชุมจัดตั้งบริษัทได้ ต้องมีผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นที่ต้องชำระเป็นเงินครบแล้ว
ดังนั้นรายชื่อผู้ซื้อหุ้นเหล่านี้จะเป็นฐานตั้งต้นของรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทตั้งแต่นั้นมา หากผู้อ้างสิทธิในหุ้นนั้นอ้างว่าได้รับโอนหุ้นมา ในเมื่อบริษัทไม่เคยจัดทำใบหุ้นเลย การโอนหุ้นที่อ้าง จึงไม่มีทางที่ทำให้ถูกต้องครบถ้วนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1129 จะตกเป็นโมฆะ (คำพิพากษาฎีกาที่ 523/2545) หรือแม้มีข้อตกลงการโอนเป็นหนังสือไว้ ตัวหนังสือไม่เป็นโมฆะ แต่การโอนก็ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้อ้างสิทธิไม่ใช่ผู้ถือหุ้นไม่มีสิทธิเข้าประชุมและออกเสียง (คำพิพากษาฎีกาที่ 52/2540)
การประชุมและมติที่ประชุมที่มีผู้ที่ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นเข้าประชุมและออกเสียงด้วย ก็จะเป็นการประชุมและลงมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องฟ้องให้ศาลเพิกถอนมติที่ไม่ชอบภายในหนึ่งเดือน แต่ถ้าหากไม่มีการประชุมกันจริงแต่ทำรายงานการประชุมเป็นเท็จ สามารถฟ้องศาลให้เพิกถอนการจดทะเบียนตามรายงานการประชุมเท็จได้ภายในอายุความตามปกติ ไม่อยู่ในบังคับต้องฟ้องภายในหนึ่งเดือน