เช่าเหมาลำ กว่า 300 ที่นั่ง ว่างเปล่า.!!

 เครื่องของการบินไทย รุ่นโบอิง 747-400 ขนาดจัมโบเจ็ต ของคณะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ระหว่างวันที่ 29 ก.ย.-2 ต.ค.2559 ไปประชุมที่รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐ ดูเหมือนบินออกจากสุวรรณภูมิ เวลา 11.00 น.ของวันที่ 29 ก.ย. ฟังแล้วเฉยๆ ดีเสียด้วยที่ช่วยการบินไทยให้มีรายได้กว่า 20 ล้านบาทในภาวะอย่างนี้ ถือว่า “เป็นกอบเป็นกำ” ในฐานะผู้รับจ้าง 

    แต่เวลานี้กลับมีคำถามตามมามากมาย ทั้งเรื่องของ ความเหมาะสม ราคาเช่าเหมาลำ ปริมาณผู้คนที่ร่วมคณะ กับเครื่องบินที่รองรับผู้โดยสารได้กว่า 400 ชีวิต มันใช่สิ่งที่เหมาะสมแล้วหรือ?

ไม่อยากจะไปสนใจอะไรมากนัก บุคคลที่ร่วมคณะจะเป็นใครต่อใคร สาวน้อยสาวใหญ่ โดยเฉพาะ “นัมเบอร์20” จริงๆ แล้ว เจ้าตัวก็ออกมายืนยันหนักแน่นไม่ได้ไป  

 ประเด็นถัดมาใครคือต้นคิดที่ใช้วิธี “เช่าเหมาลำ” รู้ทั้งรู้ การ “เช่าเหมาลำ" แม้จะไปคนเดียว สายการบินก็ต้องคิดเงินเต็มจำนวน และคิดค่าโดยสารทุกที่นั่ง ในความเป็นจริงถ้าการบินไทยมีบินตรงกรุงเทพฯ-ฮาวาย ยังไงผู้โดยสารก็ไม่เต็ม แต่งานนี้ที่นั่งชั้น Economy Class หรือชั้นประหยัดกว่า 300 ที่นั่ง น่าจะอยู่ในสภาพอ้างว้างและว่างเปล่า เรียกว่าจ่ายเงินฟรีๆ เพราะแค่ชั้น First Class และ Business Class ก็เอาอยู่แล้ว 

   หนักไปกว่านี้ เขาว่ากันว่า “ค่าหลุมจอด” แพงหูฉี่อยู่แล้ว ยิ่งจอดข้ามวันข้ามคืน ยิ่งต้องจ่ายหนัก ฉะนั้นในเมื่อผู้เดินทางมีอยู่ 30-40 ชีวิต มันมีความจำเป็นถึงขั้นต้อง “เช่าเหมาลำ” อย่างนั้นหรือ 

    ยิ่งฟังการบินไทยให้เหตุผลพยายามออกมาช่วยชี้แจง ดูเหมือน “จัดหนัก” ยังไงไม่รู้ บอกว่าเหตุเลือกใช้เครื่องบินโบอิ้ง 747-400 ทำการบิน เพราะทำการบินข้ามทวีปได้ โดยไม่ต้องแวะพักเติมเชื้อเพลิงระหว่างทาง เป็นแบบเครื่องบินที่การบินไทยมีให้บริการได้ นำมาให้บริการ “เช่าเหมาลำ” ได้ 

สงสัยเหลือเกินไม่มีเครื่องที่เล็กกว่าโบอิง 747-400 แล้วหรือ หากเครื่องเล็กลง อาจทำให้ค่าใช้จ่ายถูกกว่านี้หรือไม่ ทว่าคณะและทีมงานเลือกที่จะสบายแบบ “เช่าเหมาลำ” 

หรืออาจเป็นเพราะมีใครต้องการ "อยากเอาหน้า อยากได้หน้า” เลยจัดหนักให้นายไปซะ..