การอ่านหนังสือนวนิยาย สำคัญต่อการพัฒนามนุษย์อย่างไร

การอ่านหนังสือนวนิยาย สำคัญต่อการพัฒนามนุษย์อย่างไร

ปัจจัยสำคัญที่ทำมนุษย์วิวัฒนาการได้ก้าวหน้ากว่าสัตว์ชนิดพันธุ์อื่นๆ คือการที่สมองมนุษย์พัฒนา

กระบวนการคิดiแบบให้เหตุผลในเชิงเชื่อมโยงเปรียบเทียบเรื่องหนึ่งกับอีกเรื่องหนึ่งได้ เข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างอดีต ปัจจุบัน อนาคต ได้ เข้าใจโครงสร้างแบบแนวคิดรวบยอด (Concept) เรื่องที่เป็นนามธรรม เช่น เกียรติยศได้ นั่นหมายถึงมนุษย์โดยรวมเมื่อเปรียบเทียบกับสัตว์ชนิดอื่นๆ แต่ไม่ใช่ว่ามนุษย์ทุกคนคิดได้ลึกซึ้งพอๆ กัน มนุษย์แต่ละคนต้องเรียนรู้พัฒนาทักษะในเรื่องนี้ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงเป็นผู้ใหญ่และพัฒนาได้ในระดับที่ต่างกันไป

ประเพณีในการเล่านิทานเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญของทุกสังคมทั่วโลก การเล่า/อ่านนิทานให้เด็กฟังคือวิธีที่ดีที่สุดในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้เรื่องจินตนาการ การฝึกฝนสมาธิ ความสนใจในเรื่องหนึ่งเรื่องใดได้ยาวขึ้น การกล่อมเกลาให้เด็กเยาวชนเข้าใจ เห็นใจ และรู้จักความคิดจิตใจของคนอื่นๆ

นวนิยายมีความสำคัญต่อผู้ใหญ่ด้วยเช่นกัน การอ่านนวนิยายช่วยให้คนเราเข้าใจและเห็นใจคนอื่นเพิ่มขึ้น เพราะว่านวนิยายคือเรื่องของตัวละครเอกที่มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ นวนิยายอธิบายเรื่องราวว่าทำไมคนๆ หนึ่งถึงได้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ และเขาหรือเธอจะต้องทำอะไรต่อไป เมื่อเราอ่านนวนิยาย เราเอาตัวเราเองเข้าไปในสถานะการณ์และความคิดจิตใจของตัวละครเอก และเราสามารถที่จะเข้าใจการกระทำของตัวละครเอกจากความคิดจิตใจของเขา มากกว่าที่เรามักจะมองเห็นแค่ภายนอกของคนที่เราพบในชีวิตจริง

การฟัง/อ่านนิทาน นวนิยาย ทำให้เราเรียนรู้ความสัมพันธ์กับคนอื่นในสังคม และทำให้เราตระหนักถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวตนของเรา (หมายถึงนวนิยายดีๆ ที่เขียนได้ลึกและมีศิลปะ) นวนิยายเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ที่ดีพอๆ กับหนังสือความรู้สารคดีทั้งหลาย การได้เรียนรู้เรื่องชีวิตของคนอื่น ทำให้เรามองเชิงเปรียบเทียบและเข้าใจตัวเราเองมากขึ้นตัวละครต่างๆ ในนวนิยายมีความหมาย เพราะว่าเราสามารถเชื่อมโยงบุคคลิกอุปนิสัยพวกเขา กับโครงสร้างแนวคิดรวบยอด, เนื้อหาสาระ, คนอื่นๆ และเรื่องในอดีต เช่นเดียวกับชีวิตของตัวเราเองได้

เมื่อเราอ่านนวนิยาย เราเดินทางเข้าไปในโลกของตัวละครและเริ่มเชื่อมโยงกับพวกเขา ประสบการณ์และการตัดสินใจของพวกเขา เราจะมีความรู้สึกทั้งในทางบวกและลบต่อพวกเขาเหมือนเรารู้สึกกับผู้คนจริงๆ และห่วงใยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ซึ่งแตกต่างจากการเล่นวิดีโอเกมมาก เพราะตัวละครในวิดีโอเกมเป็นเพียงสัญลักษณ์เป็นตัวการ์ตูนที่ ไม่มีชีวิตจิตใจที่จะเทียบได้เท่าตัวละครในนวนิยาย

การเล่าเรื่อง/อ่านนิทาน นวนิยาย ทำให้มนุษย์เราเริ่มเข้าใจความหมายเกี่ยวกับโลก เรียนรู้ที่จะเข้าใจความคิดจิตใจของคน การเล่า/อ่านเรื่องราว ต้องการเวลา และความตั้งใจฟัง มันไม่ใช่แค่การถ่ายทอดข้อมูล แต่เป็นกระบวนการการเรียนรู้เรื่องราวของชีวิตและสังคม ต่างจากการสื่อสารกันด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต หรือโทรศัพท์ที่เชื่อมอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งเป็นเรื่องการสื่อสารข้อมูลแบบสั้นๆ กระจัดกระจาย กระโดดไปเรื่องโน้นเรื่องนี้ และไม่มีทางหรือยากมากที่จะสร้างความเข้าอกเข้าใจเห็นใจคนอื่นเหมือนกับการอ่านนวนิยายดีๆ

เทคโนโลยีการสื่อสาร เช่น การค้นหาความรู้ข้อมูลต่างๆ ในอินเทอร์เน็ต อาจมีส่วนทำให้เราตั้งคำถามและคิดได้ลึกมากขึ้นก็ได้ แต่คนที่จะรู้จักใช้ประโยชน์จากเครื่องมือใหม่นี้อย่างสร้างสรรค์ได้ ควรจะเป็นคนที่ผ่านการเรียนรู้อย่างช้าๆ และมีสมาธิ เรียนรู้เรื่องชีวิตและสังคม และภาษาวรรณกรรมจากนิทาน นวนิยายก่อน และเป็นคนที่พัฒนาโครงสร้างความคิดรวบยอดของตัวเองได้ก่อน พวกเขาจึงจะเป็นคนที่รู้จักใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อคิดตั้งคำถามปลายเปิดและคำถามที่ยากเป็น

เด็กเยาวชนหรือผู้ใหญ่ที่ใช้แต่การสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้เรียนรู้จากวัฒนธรรมการเล่า การอ่านนิทาน นวนิยาย บทกวี จะกลายเป็นคนที่แค่สนใจเปิดดูข้อมูลแบบรวดเร็ว ฉาบฉวย ตื้นเขิน เช่น ข้อมูลสั้นๆ ที่โดดเดี่ยว กระโดดจากเรื่องนั้นไปเรื่องนี้ อย่างไม่สามารถเชื่อมโยงกับชีวิตและสังคมได้ ซึ่งต่างจากการอ่านหนังสือมาก แม้แต่ Eric Schimidt ประธานบริษัท Google เว็บไซต์ในการค้นหาข้อมูลที่ใหญ่และคนใช้มากที่สุดในโลกยังยอมรับว่า การใช้เวลานั่งลงและอ่านหนังสือเล่ม คือวิธีที่ดีที่สุดที่จะได้เรียนรู้บางอย่างจริงๆ

บทกวีคืออีกรูปแบบหนึ่งของวรรณกรรมสร้างสรรค์ บทกวีดีๆ นอกจากจะบอกเรื่องราว เชื่อมโยงอุปมาอุปไมย ให้อารมณ์ความรู้สึกมากแล้ว ยังให้ความงาม ความไพเราะ ให้แง่คิด ประสบการณ์ที่คมและลึกด้วย

นักวิชาการด้านสมองยืนยันว่าการส่งเสริมให้เด็กเยาวชนประชาชนอ่านหนังสือวรรณกรรมดีๆ จะพัฒนาความฉลาดและความเป็นมนุษย์ได้มากกว่าที่จะปล่อยให้เด็กติดสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ติดเกม โดยที่ยังไม่มีพื้นฐานในการรักการอ่านนิทาน นิยาย เพื่อความเพลิดเพลิน และมีความอยากรู้อยากเห็น รู้จักตั้งคำถามและพยายามหาคำตอบด้วยตัวเอง

(ขอแนะนำหนังสือนวนิยายคลาสสิกดีๆ หลายเล่มที่พิมพ์และจำหน่ายโดยมูลนิธิหนังสือเพื่อสังคมและหนังสือบทกวีจากนานาชาติที่ผมคัดสรรและแปลเรียบเรียง 2 เล่ม คือ บทกวีดีเด่น - แด่ชีวิตและความรัก และนาซิม ฮิคเมท กวีสากลผู้ยิ่งใหญ่ ติดต่อที่เฟซบุ๊คมูลนิธิเพื่อนหนังสือและมูลนิธิหนังสือเพื่อสังคม โทร/ไลน์ 094-2037465 และที่ร้านจุดประกาย ชั้น 4 หอศิลป์กรุงเทพ ปทุมวัน)