'เช' กับ 'ฟิเดล' : สองสหาย ร่วมรบฝ่ายซ้ายคู่สุดท้ายของโลก

คนรุ่นใหม่ไม่น้อยชื่นชอบ “เช” Che Guevara
(รวมถึงรูปเท่ ๆ ของเขาหลังรถสิบล้อ) โดยไม่รู้ว่าเขาคือใครและเคยทำอะไรมาก่อน...
วันนี้เมื่อสหายร่วมรบของเขา Fidel Castro จากลาโลกในวัย 90 ก็ควรจะนำเอาตำนานของนักปฏิวัติยุคนั้นมาเล่าขานให้ฟัง
ฟิเดล คาสโทรกับเช เกวารา เป็นนักปฏิวัติร่วมสงครามกองโจรกันไม่น้อยกว่า 3 ปีจนสามารถโค่นเผด็จการฝ่ายขวา ที่สนับสนุนโดยสหรัฐฯคือ นายพลฟุลเจนซิโอ แบ๊ปติสตาได้ในปี 1959
“เช” เริ่มต้นชีวิตด้วยการฝึกเป็นแพทย์ แต่ผันตัวเองเป็นนักรบในป่า เมื่อเจอกับฟิเดล ขณะที่ฟิเดลหนีการไล่ล่าจากคิวบามาปักหลักที่เม็กซิโก
“เช” เขียนในบันทึกส่วนตัวที่พบหลังเขาเสียชีวิตว่า เขาจับมือกับฟิเดลและน้องชายราอูล (ซึ่งวันนี้คือประธานาธิบดีคิวบาต่อจากฟิเดลตั้งแต่ปี 2008) ระดมนักรบร่วมอุดมการณ์ได้ 82 คนที่แอบขึ้นฝั่งคิวบาเพื่อปฏิบัติการโค่นรัฐบาลของแบ๊ปติสตา
นักรบกองโจรกลุ่มนี้ขึ้นฝั่งคิวบาด้วยเรือยอห์ทชื่อ Granma วันที่ 2 ธันวาคม 1956 และประกาศชัยชนะหลังจากสู้รบอย่างเข้มข้นถึง 3 ปีเมื่อวันที่ 1 มกราคม 1959
“เช” (ชื่อเต็ม Ernesto Guevara) เกิดที่อาร์เจนตินา เป็นสมาชิกของกองโจรคนแรกที่ได้รับเลื่อนขั้นโดยฟิเดลเป็นถึงชั้น “ผู้บัญชาการ” และต่อมาได้เป็นรัฐมนตรีอุตสาหกรรม และประธานธนาคารกลางของคิวบา
แต่วิญญาณนักรบของ “เช” ทำให้เขาอยู่นิ่งไม่ได้ ,มีภารกิจต้องสู้รบต่อไปอีก
ในปี 1965 เขาทิ้งคิวบาพร้อมกับนักรบอีก 100 คนเพื่อไปก่อการปฏิวัติ ที่ประเทศเบลเยี่ยมคองโก แต่ก็ล้มเหลว หนีกลับมาคิวบาเพื่อเตรียมการปฏิว้ติอีกครั้ง คราวนี้เป้าหมายคือโบลิเวีย
ที่โบลิเวียนี่เองที่ “เช” ประสบภัยถึงแก่ชีวิต ทหารโบลิเวียจับเขาได้ระหว่างสู้รบ และถูกประหารชีวิตเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 1967
วันที่เขาถูกประหารนั้น “เช” มีอายุเพียง 39
ก่อนหน้านี้ ในวัย 23 “เช”เขียนบันทึกเกี่ยวกับการเดินทางทั่วลาตินอเมริกาด้วยมอเตอร์ไซค์เพื่อแสวงหาเป้าหมายแห่งชีวิต
หนังสือเล่มนั้นชื่อ “The Motorcycle Diaries” ซึ่งแพร่หลายอย่างกว้างขวางทั่วโลก ต่อมาทำเป็นหนังซึ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในปี 2004
กว่าที่ซากศพของเขาจะถูกค้นเจอหลังเขาถูกทหารโบลิเวียประหารชีวิตแบบลับ ๆ ก็เป็นปี 1997 คณะนิติเวชร่วมของคิวบาและอาร์เจนตินาสอบสวนอยู่นานจึงยืนยันว่าเป็นศพของ “เช” ซึ่งถูกส่งไปฝังที่สุสานรำลึกนักรบสงครามที่เมืองซานตา คลาร่า ห่างจากฮาวานา (เมืองหลวงคิวบา) ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 220 กิโลเมตร
“เช” ทิ้งเพื่อน “ฟิเดล” ไปก่อนตั้ง 49 ปี
ฟิเดลสิ้นลมหายใจเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นนักปฏิวัติคนสุดท้ายของยุคสงครามเย็น เพื่อนร่วมรุ่นเขาชิงลาจากไปก่อนคนแล้วคนเล่า
ฟิเดลมอบหน้าที่ปกครองคิวบาให้กับน้องชายราอูล คาสโทรตั้งแต่ปี 2008
ก่อนหน้าเขาที่เป็นสหายร่วมอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ ไม่ว่าจะเป็นเหมาเจ๋อตุงแห่งจีน, โฮจิมินห์แห่งเวียดนาม หรือคิมอิลซุงของเกาหลีเหนือก็ล้วนจากลาไปก่อน ทิ้งให้ฟิเดลเป็นผู้ยืนหยัดความเป็น “ซ้ายเก่า” ต่อต้านแกนหลักของทุนนิยมอย่างสหรัฐฯมายาวนาน
จนโอบามายอมยื่นมือคืนความสัมพันธ์ทางการทูตกับคิวบาเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง
ฟิเดลประกาศให้คิวบาเป็นรัฐคอมมิวนิสต์รัฐแรกของโลกตะวันตก สร้างความประหวั่นพรั่นพรึงให้กับผู้นำสหรัฐฯทุกยุคทุกสมัย เพราะคิวบาตั้งอยู่ “หลังบ้าน” ของสหรัฐฯ และเกือบจะเป็นสาเหตุแห่งสงครามระดับโลก หากการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯกับสหภาพโซเวียต (เคนเนดี้กับครุสชอฟ) ในกรณี Bay of Pigs เมื่อปี 1962 ไม่ลงเอยด้วยการยอมถอยของมอสโควเสียก่อน
คนชื่นชมเขาถือว่าเขาคือนักสู้ผู้ยืนหยัดในหลักการตลอดชีวิต คนไม่นิยมบอกว่าเขาเป็นเผด็จการโหดเหี้ยม แต่คิวบาวันนี้คือผลของการต่อสู้ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอดของเขาก่อนจะระดมผู้ต่อต้าน ทำสงครามกองโจรคว่ำประธานาธิบดีฟุลเคนเซียว บาติสตาที่ได้รับแรงหนุนจากสหรัฐฯ และสถาปนาคิวบาเป็นรัฐคอมมิวนิสต์ในปี 1959
ฟิเดลดำรงตำแหน่งนายกฯ ระหว่าง 1959-1976 และยกระดับเป็นประธานาธิบดีระหว่าง 1976-2008 ก่อนจะก้าวลงจากอำนาจ เปิดทางให้น้องชายคือราอูล คาสโทรขึ้นมาแทน ปีนี้อายุ 85
ซีไอเอได้พยายามลอบสังหารฟิเดลมากมายหลายครั้ง แต่เขาก็รอดมาได้ทุกครั้ง เป็นแมว 9 ชีวิตที่ยืนตระหง่านอยู่ในรัฐพรรคสังคมนิยมที่มีที่เขาตั้งขึ้นเพียงพรรคเดียวมาถึงวันนี้
เขารอดปากเหยี่ยวปากกาของประธานาธิบดี 10 คนที่กดดันให้เขาปรับเปลี่ยน แต่ฟิเดลยืนหยัดว่า “ฉันเป็นของฉันอย่างนี้”
ประวัติศาสตร์โลกต้องจารึกฟิเดล คาสโทรเป็นหนึ่งในนักต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ ที่ฟันฝ่าการทดสอบอย่างดุเดือดร้อนแรงอีกคนหนึ่ง
วันนี้ “เช” กับ “ฟิเดล” คงได้เจอกัน ณ ที่ใดที่หนึ่งอีกครั้ง... สหายทั้งสองจะวางแผนปฏิวัติในแดนใดอีกหรือไม่ พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้!