มฤตยูในยุคที่ 9
“...คราสที่ 2 คือจันทรคราส (เต็มดวง) 21 มกราคม เวลา 12:17 น. ที่ 6:44 องศากรกฎ กรกฎคือเรือนจันทร์ จันทร์คือประชาชน
จันทรคราสเกิดในราศีตัวเองและ 90 มฤตยูเมษ ภาคประชาชนตื่นตัวทางการเมือง คราสยังทับจันทร์และ 90 อาทิตย์ในดวงเมืองไทย ประชาชนตื่นตัวกับการเลือกตั้ง...” นี่คือคำทำนายของผู้เขียนใน “คราส 2562” เมื่อ 4/1/2562 ที่ http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/646269
เกิดอะไรขึ้น ? การเลือกตั้งล่วงหน้า 17 มีนาคม มีผู้มาใช้สิทธิ์มากมาย ทั้งประเทศเกินกว่า 80 % กรุงเทพสูงถึง 87 % สร้างความตื่นตะลึงอย่างมาก ทุกฝ่ายสัมผัสได้ถึง “สัญญาณ” บางอย่าง ต้องรอดูวันมะรืนนี้ จะมีประชาชนออกมาเลือกตั้งถล่มทลายหรือไม่ มันอาจกลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองไทย
คนไม่เคยเรียนชอบกล่าวหาว่าโหราศาสตร์เหลวไหลงมงาย ผู้เข้าถึงแก่นแท้กลับคิดตรงข้าม โหราศาสตร์ลึกซึ้ง น่าทึ่ง และได้ผลเสมอ ขณะเขียนคำทำนายเรื่องคราส ยังไม่มีการเลื่อนเลือกตั้ง เมื่อรู้วันแน่นอนและผูกดวง ได้ลัคนาเมษที่ 7:47 องศา กุมมฤตยูและ 90 คราสพอดี ผลออกมาตรงกัน สวรรค์กำหนดไว้แล้ว มนุษย์แม้บิดพลิ้วอย่างไร ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
ในวันเลือกตั้ง มฤตยูอยู่ที่ 6:44 องศา ไม่เพียงกุมลัคน์และ 90 จันทรคราสพอดีเป๊ะ ยังทับอาทิตย์ 90 จันทร์ 60 มฤตยู 120 พฤหัสเสาร์ และ 45 อังคารในดวงเมือง มฤตยูจึงเป็นกุญแจดอกสำคัญ
คุณสมบัติเด่นของมฤตยูคือความแปลก วิปริต ผิดปกติ เบี่ยงเบนจากบรรทัดฐาน (Eccentricity) โหรไทยจึงทายมฤตยูว่า “อาเพศ” อันที่จริง ความแปลกประหลาดไม่ใช่เรื่องร้ายเสมอไป มฤตยูที่กุมลัคน์บิล เกตส์ทำให้เขาเป็นอัจฉริยะด้านไอทีและมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก มฤตยูกุมลัคน์มาดามคูรี เธอได้โนเบลถึง 2 ครั้ง 2 สาขา อย่างไรก็ตาม ความผิดปกติหรืออาการที่ผิดไปจากธรรมดาสามัญ ทำให้อิทธิพลมฤตยูนั้นคาดเดาไม่ได้ (The Unexpected) ผลเลือกตั้งครั้งนี้ก็เช่นกัน ทำนายผลลัพธ์สุดท้ายได้ยากมาก
การรับมือมฤตยูจึงไม่ควรยึดติดกับผล แต่ต้องโฟกัสที่วิธีการ มฤตยูเปลี่ยนของเก่าเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ อะไรที่ไม่เปลี่ยนแปลงหรือปรับตัว ถ้าไม่ถูกทำลาย ก็จะถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง แต่ถ้าปรับเปลี่ยนได้ถูกต้องและทันกาล ย่อมเอาตัวรอดและเติบโตใหม่ได้อีกครั้ง มฤตยูหมายถึง Disruption มันบังคับให้วงการธนาคารต้องเปลี่ยนแปลง วงการสื่อที่ไม่มีทุนหนาพอก็ต้องล้มหายตายจากไป บัดนี้ถึงเวลาของวงการเมืองแล้ว
มฤตยูเข้าเมษ 27 มิถุนายน 2559 จรแค่ 2 เดือนเศษแล้วถอยกลับมีน ก่อนยกเข้าจริง 8 เมษายน 2560 มฤตยูเป็นดาววงนอก ถ้าไม่ทำมุมกับดาวใหญ่หรือไม่กระทบจุดสำคัญในพื้นดวง จะไม่เห็นอิทธิพลชัดเจน จนเมื่อพฤหัสยกเข้าตุลย์ 12 กันยายน ทั้งคู่เล็งราศีกันถึง 11 ตุลาคม 2561 พฤหัสคือการเติบโต มฤตยูคือการเปลี่ยนแปลง กระแสเรียกร้องเลือกตั้งเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กฎหมายก็ทยอยประกาศใช้ มฤตยูเดินหน้าไปเรื่อย ๆ เมื่อร่วมคราสและทับอาทิตย์เดิม การเลือกตั้งก็เกิดขึ้น
ความหมายของมฤตยูในโหราศาสตร์ชะตาบ้านเมืองมีที่มาน่าสนใจมาก มันปรากฏตัวพร้อมกำเนิดของสหรัฐอเมริกา อเมริกาก่อตั้งประเทศด้วยการปลดแอกตัวเองจากอาณานิคมของอังกฤษ วิลเลียม เฮอร์เชลค้นพบมฤตยู 13 มีนาคม ค.ศ. 1781 เพียง 12 วันหลังจากอเมริกาบังคับใช้ Articles of Confederation ตุลาคมปีนั้นอเมริกาชนะสงคราม ราชบัณฑิตสมาคมของอังกฤษยอมรับมฤตยูในปีค.ศ. 1783 ซึ่งเป็นปีที่ลงนามสนธิสัญญาปารีส อเมริกาเป็นประเทศใหม่โดยสมบูรณ์ นักโหราศาสตร์จึงให้ความหมายมฤตยูว่า กบฏ ปลดแอกตัวเองจากการกดขี่ การต่อสู้กับอำนาจเก่า ปฏิวัติ อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ ความเสมอภาค ประชาธิปไตย ฯลฯ
ดวงเมืองอเมริกาถือกำเนิด 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1776 ซึ่งเป็นวันที่สภารับรองคำประกาศอิสรภาพ นักโหราศาสตร์ชั้นนำจำนวนมากวางมฤตยูไว้กุมลัคน์ มันใช้ได้ผลดีและได้รับความนิยมอย่างสูง (อ่าน “ดวงเมืองอเมริกา (4)” เมื่อ 14/9/2561 ที่ http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/645530) มฤตยูตำแหน่งนี้ถือกันว่า “แรงมาก” อเมริกาเมื่อเป็นอิสระ ก็สร้างระบบการปกครองของตัวเอง มฤตยูจึงหมายถึงทำลายเก่าเพื่อสร้างใหม่ ซึ่งมีนัยถึงการก้าวไปข้างหน้า มิใช่ถอยหลังกลับไปหาอดีต
เลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งแรกของยุคที่ 9 มฤตยูที่กุมลัคน์พอดี ชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ ระบบโครงสร้างการเมือง (และผู้เล่น) แบบเดิมที่ไม่เหมาะสมกับยุคสมัยและไม่ปรับตัว จะถูกกดดัน ละทิ้ง ก้าวข้าม หรือทำลาย มฤตยูจะกวาดทิ้งสิ่งเก่าเพื่อเปิดพื้นที่ใหม่ให้กับไม้อ่อนที่จะเติบใหญ่ต่อไปในอนาคต คนรุ่นใหม่และ Social Media คือช่องทางส่งผ่านพลังงานของมฤตยู ยุคใหม่เพิ่งเริ่มได้ไม่ถึงปี ยังมีเวลาเหลืออีกมาก คนรุ่นใหม่จะเติบโต คนรุ่นเก่าจะอ่อนแรง การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นต่อเนื่อง ช้าบ้างเร็วบ้างสะดุดบ้าง แต่ไม่มีทางย้อนกลับไปหาอดีตอย่างแน่นอน
โหราศาสตร์สุดแสนพิสดาร ไม่เพียงมฤตยูทับลัคน์อาทิตย์ดวงเมืองและมฤตยูวันเลือกตั้งกุมลัคน์และเบียนคราสสนิท ช่วงที่เสาร์เข้าวงรอบที่ 9 แท้จริงเมื่อ 25 ตุลาคม 2561 มันเกิดขึ้นพร้อมจันทร์เพ็ญและมฤตยูเพ็ญ ทั้งคู่บอกถึงการเปลี่ยนแปลงใหม่เพื่อความเจริญก้าวหน้า ทั้ง 3 ปรากฏการณ์สอดคล้องและยืนยันถึงยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนใหญ่ของการเมืองไทย
คนส่วนใหญ่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง มฤตยูจึงเปรียบเสมือนยาขม แต่ถ้าไม่มีมฤตยู เราอาจกลายเป็น “กบต้ม” ในหม้อน้ำที่ค่อย ๆ เดือด เพราะไม่สำนึกรู้และปรับตัวไปพร้อมกับโลก วิวัฒน์คือการปรับตัว เรียนรู้ และก้าวไปตามกระแสโลก วิบัติคือหลงตัวเอง ปิดกั้นการเรียนรู้ และปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง
ทุกคนรู้ดีว่าคุณภาพนักการเมืองมีปัญหา แต่ทางแก้ไม่ได้มีแค่รัฐราชการรวมศูนย์ที่ทหารเป็นหัวแถวเท่านั้น เวลา 5 ปีพิสูจน์อะไรหลายอย่าง เลข 9 หมายถึงภพที่ 9 (ศุภะ) อันเป็นภพแห่งปัญญาญาณ ยุคที่ 9 จึงเป็นยุคแห่งการตื่นรู้และตระหนักถึงพลังอำนาจ (ทางการเมือง) ของประชาชน ความเจริญรุ่งเรืองย่อมเกิดจากพลังสติปัญญาร่วมกันของประชาชน
เราทุกคนกำหนดอนาคตบ้านเมืองได้ ไม่ต้องรออัศวินม้าขาวที่ไม่มีอยู่จริง