MAGURO สร้างcontent อย่างไรให้ได้ awareness
ร้าน MAGURO เริ่มต้นทำธุรกิจในปี 2559 โดยใช้เงินลงทุน 4 ล้านบาท โดยเป็นการร่วมลงทุนระหว่างเพื่อน 4 คน
คือ คุณชัชรัสย์ ศรีอรุณ (แบงค์) คุณเอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง (โชค) คุณจักรกฤติ สายสมบูรณ์ (ป้อ) และคุณรณกาจ ชินสำราญ (เอ๊ะ) เหตุผลที่เลือกทำร้านอาหารญี่ปุ่นเพราะความชื่นชอบรับประทานอาหารญี่ปุ่นของเจ้าของทั้ง4
ในการเริ่มก่อตั้งทางเจ้าของได้หาข้อมูลของร้านอาหารญี่ปุ่นในกรุงเทพมหานครทั้งหมดโดยหา Customer Pain ซึ่งได้ข้อมูลมาว่าสิ่งที่เป็นปัญหาของการรับประทานอาหารญี่ปุ่นของชาวกรุงเทพฯ คือ เรื่องราคาของวัตถุดิบที่แพงจนเกินไป ดังนั้นจึงตั้งใจที่จะทำร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีคุณภาพที่ดีในราคาที่เหมาะสม ตอบโจทย์ลูกค้าชนชั้นกลางมากขึ้น
โดยขณะที่สมัยก่อนเมื่อต้องการรับประทานอาหารญี่ปุ่นที่มีคุณภาพต้องใช้เงินประมาณ 2,000-3,000 บาท/คน ดังนั้นทำให้ร้านกลุ่มหนึ่งพยายามหาลูกค้าโดยเน้นเรื่องการลดราคาหรือจัดโปรโมชั่นของอาหารแต่ทางร้าน MAGURO เชื่อว่าจะไม่ลดราคาอาหารญี่ปุ่นเพราะเชื่อมั่นว่าอาหารญี่ปุ่นที่ทางร้านคัดสรรมีคุณภาพที่ดีและราคาที่ไม่สูงจนเกินไปทำให้ลูกค้าชนชั้นกลางจับต้องได้
เมื่อเริ่มทำการเปิดร้าน MAGURO ทางร้านต้องเจออุปสรรค คือ มีการทำรายได้ไม่ถึงตามเป้าหมายที่วางไว้ สิ่งที่ทางร้านเลือกที่จะหันมาทำการบ้านมากยิ่งขึ้นคือ การทำ Marketing Online โดยเน้นการสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจในเรื่องที่ลูกค้าไม่รู้ เช่น การทานวาซาบิที่ถูกต้อง เป็นต้น ไม่เน้นการขายเพียงอย่างเดียว
สำหรับการตลาดออนไลน์ MAGURO ให้ความสำคัญทั้ง Facebook IG Line Webpage หรือ Youtube โดยพบว่า การสร้าง Content ที่น่าสนใจจึงเป็นตัวแทนของการ Share มากขึ้นและทำให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายมีมูลค่าสูงขึ้นตามไปด้วย
การสื่อสารของร้าน MAGURO มีการทำ Content ให้เข้าใจผ่าน 3 ข้อหลักคือ
- ทำ Content ให้น่าสนใจและเป็นเรื่องจริง2. สอดแทรกเนื้อหาของวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่น3.สร้างความประหลาดใจให้ลูกค้าซึ่งทำให้คิดว่าเรื่องนี้เรายังไม่รู้ คนอื่นน่าจะไม่รู้ตามไปด้วย จึงเกิดการกด Like และ Share มากขึ้น เช่น การโพสใน Facebook เรื่อง “3 วิธีการกิน Sushi ให้อร่อยที่หลายๆคนไม่เคยรู้” อย่างแรกคือ มีการสร้าง Topic ที่น่าสนใจเพื่อให้ลูกค้าสนใจที่จะอ่านต่อไป ตามมาด้วยคำถามคือ “คุณรู้ไหม ? Sushi เป็นอาหารที่ได้รับการยกย่องว่า “อร่อย” และนิยมที่สุด ติด Top 3 ของโลก” และ “แล้วคุณรู้ไหม ? ว่าแค่ 3 วิธีง่ายๆต่อไปนี้ จะทำให้กิน Sushi อร่อยเพิ่มมากขึ้นไปอีก”
การสร้างคำถามไปเรื่อยๆก่อให้เกิดความน่าสนใจที่จะอ่านเนื้อหาต่อไปได้ จากนั้นมีการนำเสนอเนื้อหาที่อ่านง่าย น่าสนใจและทรอดแทรกวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นไปด้วย เช่น เนื้อหาของการโพสนี้ คือ 1. เครื่องเคียง การที่มีขิงดองและวาซาบิในการทานซูชิแต่ละมื้อทำให้การทานซูชิอร่อยมากขึ้น จากนั้นทรอดแทรกการทานวาซาบิที่ถูกวิธี คือการที่วางวาซาบิบนตัวเนื้อปลาก่อนจิ้มซอสโชยุ ซึ่งแตกต่างจากวิธีของคนไทยที่มีการผสมวาซาบิในซอสโชยุก่อนจากนั้นจึงนำเนื้อปลาจิ้มกับซอสโชยุ 2. ความเร็ว คือไม่ได้ให้รีบทานซูชิแต่ให้รีบทานในทันทีอย่ารอเวลาเพราะเมื่อผ่านระยะเวลานานจะทำให้ตัวเนื้อปลาและซอสแห้งความอร่อยจึงลดน้อยลง 3.ของอร่อยเก็บไว้ทานทีหลัง โดยคนญี่ปุ่นจะทานเนื้อปลาจากปลาเนื้ออ่อนไปจนถึงปลาที่มีรสชาติเข้มข้นที่สุด
เมื่อมีการ นำเสนอเนื้อหาแล้ว จึงบอกถึงชื่อร้านและบอกถึง Concept ของร้านตามด้วย Location ของสาขาที่ตั้งแต่ละสาขา จากนั้นทำการโพส รูปภาพที่เสมือนจริงและสวยงาม โดยด้านขวาล่างของรูปภาพมี Logo และ Slogan ของร้าน ซึ่งการเขียนโพสลักษณะที่น่าสนใจแบบนี้นำไปสู่การกด Like และ Share ที่เพิ่มมากขึ้น
นอกจากสื่อออนไลน์แล้ว ที่หน้าร้าน ยังจัด event อย่าง การแล่ปลาสดๆ ซึ่งสิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าสนใจและเป็นการบ่งบอกถึงความสดใหม่ของวัตถุดิบที่ทางร้านได้รับมาอย่างดีอีกด้วย
กรณีศึกษาของ MAGURO สะท้อนให้เห็นถึง การสร้างธุรกิจที่ดีต้องสื่อสารให้เป็นเรื่องเล่า กับการเล่าเรื่องนั้น เป็นสองส่วนประกอบกัน ดังนั้น การเล่าเรื่องที่ใช่ผ่านทางช่องทางที่ถูกต้อง จึงนำไปสู่ผลกำไรที่มากขึ้นตามไปด้วย
--------------------------
เครดิตกรณีศึกษาโดย จิรัชยา ปาลวัฒน์วิไชย นักศึกษาสาขาการจัดการธุรกิจ หลักสูตร ตรีควบโท (4+1) วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล