เวียดนาม : อุปสรรค โอกาสของ SME ไทย (ต่อ)
ประชากรของเวียดนามจำนวน 93.7 ล้านคน 70% อยู่ในวัยแรงงานเป็นกำลังซื้อที่สำคัญทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึง 7.08% ในปี 2561
สูงสุดในรอบ 11 ปี มีชนชั้นกลางและชนชั้นมั่งคั่ง มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 714 ดอลลาร์ต่อเดือน เพิ่มมากขึ้นมีบทบาทในการกระตุ้นการบริโภค ประชากรกลุ่มนี้มีสูงถึง 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ กระจายตัวอยู่ในเมืองเศรษฐกิจหลักและในเมืองรอง
สินค้าไทยได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเวียดนาม โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นไป สินค้าไทยมีคุณภาพที่สามารถแข่งขันกับสินค้าท้องถิ่นและสินค้าจากจีน ผู้ประกอบการ SME ที่ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาเหมาะสมจึงมีโอกาส ทางการตลาดสูงมาก
ตลาดเวียดนามเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ มีความแตกต่างในการบริโภคอย่างชัดเจนในตลาดภาคเหนือและภาคใต้ของประเทศ ผู้ประกอบการจึงควรศึกษาความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ มีแผนการตลาดที่เหมาะสม ในภาพรวมแล้วรายได้ของชาวเวียดนามยังไม่สูงมากนัก แต่ก็ให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้าโดยเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าไทยมากกว่าสินค้าจากประเทศจีน การกำหนดราคาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญในแต่ละพื้นที่ซึ่งมีค่านิยมเฉพาะถิ่น ประชาชนในฮานอยที่เป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจมีการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง มีวินัยในการออมสูง แต่ก็เต็มใจที่จะจ่ายในราคาที่สูงหากสินค้ามีคุณภาพ ในขณะที่ประชาชนทางตอนใต้อย่างโฮจิมินห์มีความชื่นชอบโน้มเอียงไปทางโลกตะวันตกที่พร้อมเปิดรับสิ่งแปลกใหม่ชอบใช้จ่าย แต่เน้นสินค้าราคาประหยัดเลือกซื้อสินค้าด้วยความชื่นชอบของตนเอง
อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เป็นธุรกิจที่น่าสนใจมาก ตลาดเครื่องดื่มของเวียดนามมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ในปี 2560 ผู้บริโภคเวียดนามมีความต้องการบริโภคเครื่องดื่มประมาณ 8 หมื่นล้านลิตร มีแนวโน้มที่จะเพิ่มเป็น 1 แสนล้านลิตร ในปี 2563 มีการคาดการณ์ว่าระหว่างปี 2560-2565 อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มจะเติบโตเฉลี่ย 16% ต่อปี ธุรกิจร้านสะดวกซื้อและอี-คอมเมิร์ซ เป็นอีกธุรกิจที่เติบโต
A.T.Kearney เปิดเผยว่าในปี 2559 ธุรกิจค้าปลีกมีมูลค่าการตลาดสูงถึง 1.18 แสนล้านดอลาร์ มีการเติบโต 10% คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องในอีก 4 ปีข้างหน้า ในปี 2563 จะมีมูลค่าการตลาดสูงถึง 1.8 แสนล้านดอลลาร์ การเติบโตของร้านค้าปลีกและสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้าขนาดย่อม ระหว่างปี 2556-2559 สูงขึ้น 200% ในปี 2560 เวียดนามถูกจัดเป็นตลาดทีมีศักยภาพในตลาดค้าปลีกลำดับที่ 6 ของโลก
ธุรกิจที่ผมนำเสนอทั้งอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจค้าปลีก เป็นธุรกิจที่ผู้ประกอบการไทยมีความชำนาญสูงมาก เป็นโอกาสที่ท่านผู้ประกอบการไม่ควรพลาดเป็นอันขาด
นอกจากนี้ยังมีธุรกิจด้านยาและเวชภัณฑ์ในเวียดนามที่เติบโตอย่างรวดเร็ว อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมอีเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เติบโตสูงมาก ขอนำเสนอตอนต่อไปครับ...