จาริกปฏิบัติธรรม .. รับปีใหม่ !!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา .. อาตมาได้ออกจาริกสมาทานธุดงควัตรหลายข้อ
เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งมั่นคงในการประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย โดยถือฤกษ์ความพร้อมเมื่อเดินทางออกจากวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย อ.เมือง จ.ลำพูน เมื่อ ๙ มกราคม ๒๕๖๓ ซึ่งตรงกับวันพระใหญ่ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๒ (ตามจันทรคติ)
ยามรุ่งเช้า รถยนต์ได้นำมาถึงวัดพระศรีมหาธาตุฯ พิษณุโลก เพื่อกราบสักการะพระพุทธชินราช สวดมนต์ทำวัตรเช้า หลังจากไปเดินบิณฑบาตมาหนึ่งรอบใหญ่ และมารับบาตรคณะนายทหารและครอบครัวจากกองทัพภาคที่ ๓ ที่นำโดยพลตรีจิรเดช กมลเพ็ชร รองแม่ทัพฯ
เสร็จสิ้นการประกอบศาสนกิจ ได้ออกเดินทางสู่จังหวัดชัยนาท ตามคำนิมนต์ของ รณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อฉันภัตตาหารที่จวนผู้ว่าฯ ที่ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา
ด้วยเป็นวันพระใหญ่ จึงตัดสินใจไม่ออกไปจากเขตที่พักที่ท่านผู้ว่าฯ จัดถวาย โดยถือโอกาสสมาทานธุดงควัตร ๕ ข้อ ไม่นับที่ปฏิบัติเป็นปกติอยู่แล้ว คือ การบิณฑบาต ที่จะไม่ละเว้นหากไม่มีเหตุจำเป็นหรือสุดวิสัย โดยข้อสำคัญคือ ข้อที่ ๑๓ ชื่อ เนสัชชิกังคะ คือ องค์แห่งผู้ถือการนั่งเป็นวัตร (เว้นการนอน อยู่ในอิริยาบถ ๓)
จริง ๆ เรื่องการนั่งเป็นวัตร .. ไม่เอนกายนอน ก็ไม่ใช่ของแปลกสำหรับพระผู้ปฏิบัติอย่างจริงจัง มั่นคง สืบเนื่องมานาน ด้วยบางสมัยก็ได้อธิษฐานทั้งพรรษาเลยก็เคยทำ เพื่อประกอบความเพียรอันอุกฤษฏ์ .. แต่นั้นหมายถึง การพักอยู่ในที่ตั้ง ไม่ใช่ขณะที่กำลังเดินทางหรืออยู่ในระหว่างการจรจาริก ที่ร่างกายต้องควรได้รับการผ่อนคลาย จนกว่าจะพร้อมที่จะเพียรอุกฤษฏ์..
ในวันนั้นจึงยกเลิกไม่เข้าร่วมการเดินทางไปทัศนศึกษาเยี่ยมชมสถานที่ทางโบราณคดี หรือการไปถวายสักการะเจติยะทั้งหลายตามวัดวาอารามใน จ.ชัยนาท ซึ่งมีสถานที่สำคัญหลายแห่งที่ชาวพุทธเราควรเดินทางไปพิจารณาสักครั้งด้วยตนเอง
การภาวนาต่อเนื่องในภาคกลางวัน จึงเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงบ่าย ภายในเรือนไม้อายุร่วมร้อยปี ที่เป็นจวนผู้ว่าฯ มาตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงเวลาตอนค่ำ ที่จะต้องไปแสดงธรรมะให้คณะศรัทธาข้าราชการ จ.ชัยนาท นำโดยท่านผู้ว่าฯ รณภพ เหลืองไพโรจน์ พลโทสัณทัศน์ นันทิภาคย์หิรัญ รอง ผบ.นทพ. กองบัญชาการกองทัพไทย ที่เดินทางมาสมทบพร้อมคณะศรัทธาฯ
ในค่ำคืนนั้น จึงควรแก่การแสดงธรรมนำอบรมจิตภาวนาอย่างพอเหมาะ โดยเน้นเรื่องหลักธรรมเพื่อการศึกษาปฏิบัติตามพระธรรมวินัย เป็นการให้ความรู้ควบคู่การปฏิบัติตามวิธีการเจริญสติ โดยเน้นพระพุทธธรรมที่พุทธบริษัทควรเข้าใจ เพื่อการเข้าถึงวิธีการปฏิบัติให้ถูกต้องตามธรรมวิธีในพระพุทธศาสนา
มงคลธรรม .. จึงเกิดขึ้นในวันพระใหญ่ ซึ่งเป็นวันพระแรกของปีใหม่ และเป็นวันที่ ๙ มกราคม .. ซึ่งมีผู้หยิบมาพูดให้เป็นมงคลว่า นับเป็นเก้าแรกของปีที่ควรแก่การตั้งจิตอธิษฐาน เพื่อความเจริญก้าวหน้าของชีวิต... นับว่าน่าสนใจยิ่งต่อหลักการคิดเชิงบวกของคนเรา ซึ่งจริง ๆ แล้ว ชาวพุทธเราต้องเข้าใจในธรรมนิยาม .. กรรมนิยาม .. จิตนิยาม โดยเห็นถึงความเป็นจริงว่า “ธรรมเหล่าใดมีเหตุเป็นแดนเกิด พระพุทธเจ้าได้ตรัสถึงเหตุของธรรมเหล่านั้น และตรัสความดับของธรรมเหล่านั้น..”
ดังนั้น มงคลในชีวิตหรืออัปมงคล .. จึงมิได้เกิดตามฤกษ์วันเวลาเลขผานาที แต่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย.. จึงเป็นที่มาของหลักการปฏิบัติว่า.. พึงทำเหตุให้ตรงผล .. หากประสงค์ผลเป็นอย่างไร ก็ให้ทำเหตุนั้นให้ตรง... จึงเรียกพุทธศาสนาของเราเป็นพุทธศาสนาว่าด้วยการปฏิบัติ .. ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างเกิดมาแต่เหตุทั้งนั้น ...ไม่ว่าบาปบุญ ดีชั่ว สุขทุกข์ นี่คือกฎธรรมชาติ ... หรือ ธรรม .. ในธรรมชาติ !!
แต่ก็ไม่แปลกอะไร หากเราจะพูดคุยพอรื่นเริงว่า.. วันนี้เป็นมงคลยิ่งด้วยเพราะเช่นนั้น.. เช่นนี้.. ซึ่งแท้จริงเราย่อมรู้ว่ามงคลหรือไม่ .. กาย วาจา ใจ เรานั่นแหละเป็นสิ่งที่ควรนำเข้าสู่การพัฒนา .. ด้วยถ้ากาย .. วาจา .. ใจ ตั้งอยู่ในความสุจริตแล้ว... มงคลหรือความประเสริฐย่อมเกิดปรากฏแน่นอน เพื่อสนองตอบผู้ที่เป็นเจ้าของการกระทำนั้น ๆ ...
การสรุปธรรมในค่ำคืนนั้น จึงได้รวมลงที่พระพุทธภาษิตที่ว่า .. จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมญฺเจว ตุมฺหากญฺจ แปลว่า เราและท่านต้องท่องเที่ยวเร่ร่อนไปสิ้นทางยาวไกล เพราะมิได้รู้แจ้งแทงตลอดอริยสัจ ๔ .... อริยสัจ ๔ จึงเป็นธงชัยของการศึกษาในพระพุทธศาสนา อันเป็นไปเพื่อการหวังผล คือ ความดับทุกข์ เป็นที่สุดแห่งที่สุด...
ในเช้าของวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๓ .. จึงได้รับบาตรด้านหน้าจวนผู้ว่าฯ ชัยนาท ก่อนร่ำลาเพื่อขอเดินทางจาริกต่อไปสู่สิงห์บุรีและนครชัยศรี .. ให้ทันการร่วมฟังสวดปาติโมกข์ศีล ๒๒๗ สิกขาบท ที่ สำนักปฏิบัติธรรมอารยวังโสนครชัยศรี .. ในเย็นของวันดังกล่าว
ทั้งนี้ ได้ถือโอกาสนำภัตตาหารที่รับบาตรมา ไปแวะฉันที่บ้านบางระจัน โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี (นายศิริชัย ศรีเหนี่ยง) ประเสริฐ ธรรมศิริกาชัย นายกเทศมนตรีตำบลโพสังโฆ และคณะ ถวายการต้อนรับจัดภัตตาหารสมทบถวาย โดยความเมตตาของเจ้าอาวาสวัดโพธิ์เก้าต้น ซึ่งเป็นเจ้าคณะอำเภอ .. ช่วยอำนวยความสะดวก .. ก่อนจะแผ่เมตตาอุทิศบุญให้กับบรรพชนชาวบ้านบางระจัน และออกเดินทางสู่นครชัยศรี ... เพื่อประกอบศาสนกิจตามพระวินัย....
เจริญพร