บทเรียน 'ใหม่' ของ 'อนาคต'
จริงๆ ไม่อยากเขียนเรื่องยุบพรรคอนาคตใหม่ เพราะหาบทสรุปที่ยอมรับร่วมกันได้ยาก หลักการที่ถูกก็มีทั้งสองฝ่าย แต่ทำลายหลักการก็ทำกันทั้งสองฝ่าย
สุดท้ายก็เลยตัดสินใจขอชวนคุยประเด็นเบาๆ เก็บตกบทเรียนจากคดียุบพรรคก็แล้วกัน...
เรื่องการหาผู้มีประสบการณ์ทางการเมืองมาร่วมทำพรรค มาเป็นที่ปรึกษาพรรค ยังมีความจำเป็นมากในประเทศศรีธนญชัยอย่างบ้านเรา มันถึงมีคนได้ดีจากการเป็น “เนติบริกร” แต่เราไม่ต้องไปเชื่อหรือหาช่องลอดทางกฎหมายเหมือนพรรคอื่นทำ เพียงแต่ทุกจังหวะก้าวต้องรัดกุม อาศัยความใหม่ และจริงใจอย่างเดียวทำงานการเมืองประเทศนี้ไม่ได้ครับ
เรื่องแบบนี้ไม่ได้มีปัญหาเฉพาะแวดวงการเมืองเท่านั้น แม้แต่การต่อสู้คดีบนศาล ทั้งคดีอาญา คดีแพ่ง ก็ยังต้องอาศัยทนายเก่ง ๆ เพราะเรื่องทางเทคนิคกฎหมาย เทคนิคบนศาล บางทีสำคัญไม่น้อยกว่าข้อเท็จจริง การจะปฏิรูปมันไม่ใช่เกิดขึ้นได้ง่าย ๆ เหมือนปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไทย ทำกันมาหลายรอบ แต่ปัญหาก็ยังคงอยู่ พวกตีนโรงตีนศาลหากินกับการประกันตัวก็ยังมีให้เห็นกันเกร่อ
ฉะนั้นจบกฎหมายจากเมืองนอก ไม่ได้เป็นตัวการันตีว่า จะปิดจุดอ่อนทั้งหมดในทางกฎหมายได้ เพราะบางที “ทนายบ้าน ๆ” ก็จำเป็นไม่แพ้กัน
การต่อสู้ทางการเมืองใช้อุดมการณ์ล้วน ๆ ไม่ได้ จริง ๆ ก็เหมือนการดำเนินชีวิตด้านอื่น ๆ แม้แต่การเมืองในออฟฟิศ ในบริษัทก็มีเหมือนกัน ความเป็นธรรมบางทีมันก็ไม่ได้ตรงกับที่ใจเราคิดเสมอไป
คิดจะทำงานใหญ่ ต้องเตรียมพร้อมทุกด้าน ขงเบ้งตัดสินใจร่วมมือกับเล่าปี่รบโจโฉ ยังสั่งย้ายครอบครัวไปซ่อนตัวที่ตำบลซำกั๋ง เร้นลับพ้นมือศัตรู เพื่อไม่ให้ถูกใช้ครอบครัวเป็นเครื่องต่อรอง
ฉะนั้นก่อนเปิดเกมบุก ต้องเตรียมการให้รอบคอบ ไม่ใช่พอโอกาสมา จะสาวหมัดใส่เขา แต่ดันเปิดคางโล่ง โดนสวนเปรี้ยงเดียวคว่ำ เหมือนนายพลชูธงปฏิรูปกองทัพ แต่ยังนอนบ้านหลวง
สถานการณ์นับจากนี้ ปัญหาเศรษฐกิจจะยิ่งรุมเร้ารัฐบาล แต่การเลือกตั้งเร็วเกินไป บางทีอาจพาประเทศไทยไปถึงจุดอับ สิ่งที่ต้องไม่ลืม คือแก้รัฐธรรมนูญ ทำกติกาใหม่ให้เป็นประชาธิปไตยจริง ๆ ซึ่งคิดว่ากลไกสภาเพื่อแก้รัฐธรรมนูญยังพอไปได้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ก็เอาด้วย ถ้าสร้างกระแสธงเขียวได้เหมือนปี 40 ก็อาจเป็นแรงกดดันให้ ส.ว.จำเป็นต้องโหวตตามใจเสียงส่วนใหญ่
ปัญหาคือการขับเคลื่อนเพื่อไปสู่เป้าหมายใหญ่ ต้องมีมิตรร่วมรบบ้าง ไม่ใช่เคลื่อนไหวผลักทุกคนเป็นศัตรู ขงเบ้งจะรวมแผ่นดินจีนในยุคสามก๊ก ยังเดินยุทธศาสตร์ “เหนือรบโจ ใต้ร่วมกับซุน”
แนวทางของอนาคตใหม่ หลายเรื่องคนรุ่นเก่า รุ่นใหญ่ รุ่นกลางเก่ากลางใหม่ก็พร้อมจะเห็นด้วย เพียงแต่อย่าติเรือทั้งโกลน อย่าเคลื่อนไหวแบบทำลายล้าง อย่าเล่นการเมืองแบบเลือกข้าง แบ่งฝ่าย ทำลายความเชื่อ หรือไม่เข้าใจวัฒนธรรมแบบไทยๆ ควรมองข้ามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่าบ้าง
อย่าลืมว่าคิดจะเล่นใหญ่ ใจต้องนักเลงพอ!