รมต.สมัยที่ 3 'อาคม เติมพิทยาไพสิฐ' คนศรีสะเกษเก่งขยันรู้งาน

ไม่ธรรมดา! การที่ "อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" กลับมาเป็นรัฐมนตรีสมัยที่ 3 เปลี่ยนจากกระทรวงคมนาคมเป็นกระทรวงการคลัง

ที่บอกว่า ไม่ธรรมดา เพราะมานั่งเป็นเสนาบดีคลังด้วยความรู้ความสามารถ ไม่ใช่มาด้วยโควต้าพรรคการเมือง

"บิ๊กอาคม" ในวัย 64 ปี นามสกุลเดิม "แซ่จึง" เป็นชาวจังหวัดศรีสะเกษโดยกำเนิด จบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนรวมสินวิทยา จบมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย และจบมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนอำนวยศิลป์ กทม.

ระดับอุดมศึกษา จบปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2520 และระดับปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ จากวิทยาลัยวิลเลียม ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2526

ผ่านงานภาคเอกชนก่อนเข้ารับราชการในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ตำแหน่งผู้อำนวยการกองวิเคราะห์และประมาณการเศรษฐกิจ ในระหว่างปี 2539 ถึงปี 2542 เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายและแผน (วิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับ 9 ชช.) ปี 2542–2543

ต่อมา ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการ สศช. ปี 2543-2546 และเป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน ปี 2546-2547 กระทั่งในปี 2547 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในปี 2553

ราว 5 ปีในฐานะเลขาธิการ สศช. ด้วยความรู้และประสบการณ์ - ปี 2557 ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ต่อมาในเดือนสิงหาคมของปีเดียวกัน ลาออกเพื่อเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นการดำรงตำแหน่งควบคู่ทั้งตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ และตำแหน่งทางการเมือง และเดือนสิงหาคม 2558 ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

เส้นทางการทำงานของ "ท่านอาคม" ที่ผ่านมาในช่วงเป็นรัฐมนตรี เดินหน้าโครงการคมนาคมอย่างต่อเนื่อง ได้รับความไว้ใจจากนายกฯ ในเรื่องความซื่อตรงสุจริต

แม้ว่าเปลี่ยนจาก รัฐบาล คสช. มาเป็น รัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ ชื่อของ "อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" กลายเป็น อดีต รมต. ที่ถูกพูดถึงทุกครั้งที่มีการปรับ ครม.

ความสนิทสนมและไว้ใจของนายกรัฐมนตรี ที่มีต่อ "อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" ปรากฎชัดเมื่อครั้งลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ จนถูกตีความว่าจะกลับมาเป็นรัฐมนตรีตั้งแต่ครั้งนั้นแล้ว

แน่นอนว่า "อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" กลับมาเป็นรัฐมนตรีสมัยที่ 3 นั่งว่าการกระทรวงการคลัง ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายกว่าเดิม เพราะโจทย์หินต้องพลิกฟื้นเศรษฐกิจจากวิกฤติโควิด และนักการเมืองฝ่ายต่างๆ คอยจับจ้องและคอยหาประโยชน์ ย่อมต้องเจอแรงปะทะและแรงเสียดทาน มีตัวอย่างจากรัฐมนตรีว่าการฯคนก่อนหน้านี้ให้ได้เรียนรู้

ถึงกระนั้น จุดเด่นของ "อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" คือเก่งขยันรู้งาน และซื่อตรงมุ่งมั่น สไตล์คนบ้านนอกใจเข้ม ได้ตำแหน่ง "คนดีศรีสะเกษ" จากสมาคมชาวศรีสะเกษมาแล้ว

ดังนั้น การรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของ "อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" ครั้งนี้จึงไม่ใช่เรื่องมือใหม่ แต่เป็นมือเก๋ารู้งานรู้เกมการเมือง แก้ปัญหาเศรษฐกิจชาติน่าจะไม่สะดุดและรุดหน้าได้ทันที!!