อยากกินข้าวไทยที่ผงาดทวงคืนแชมป์โลก!
ข้าวหอมมะลิไทย 105 ชนะเลิศรางวัล 'ข้าวดีที่สุดในโลก' World's Best Rice Award 2020 แต่จะมีคนไทยสักกี่คนที่ได้ลิ้มรสชาติข้าวแชมป์โลกนี้
ไทยกลับมาทวงแชมป์ได้อีกครั้ง !
ข้าวหอมมะลิไทย 105 ชนะเลิศรางวัล"ข้าวดีที่สุดในโลก หรือ World's Best Rice Award 2020 "ในการประกวดข้าวที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้นทุกปีในงานประชุมข้าวโลก ( World Rice Conference ) โดย The Rice Trader สหรัฐฯ ระหว่าง 1-3 ธ.ค. 2563 นับเป็นแชมป์ครั้งที่ 6 จากที่จัดมาทั้งหมด 12 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2552 เวียดนามและกัมพูชาที่เคยล้ม "แชมป์ไทย"ได้ในปี 2561 และ 2562 ครั้งนี้อยู่อันดับ 2 และอันดับ 3
แน่นอนว่าได้แชมป์ย่อมดีกว่าไม่ได้ แต่ก็เหมือนการประกวดอื่น ๆ เช่นหนังสือ เครื่องประดับ ฯลฯ รางวัลชนะเลิศอาจเพิ่มชื่อเสียงยี่ห้อและยอดขายบ้าง หรือว่าอาจไม่เพิ่มยอดขายแม้กระทั่งในการส่งออกนักเพราะข้าวดีขายแพง เจอเศรษฐกิจไม่ดี คนซื้อน้อยลง หรือไม่บางทีผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงรสนิยม ( taste shift ) ไม่รู้สึกรู้สาใดนักที่จะกินข้าวถูกกว่าคุณภาพด้อยลง มีเงินก็ไม่(รู้จัก)ซื้อของดีกิน แบบเดียวกับหนังสือดีไม่มีคนซื้ออ่าน ผู้ผลิตผู้ค้าย่ามใจไม่ได้
การสร้างตลาดเพิ่มให้ข้าวดีข้าวแพงจึงเป็นทางออกโดยเฉพาะการบริโภคในประเทศ จะไม่จัดให้ข้าวแชมป์โลก เป็นของขวัญปีใหม่"คนละครึ่ง" สักครั้งหรือ กระทรวงพาณิชย์ที่แถลงหน้าบานข้าวไทยทวงคืนแชมป์โลก เหมือนการท่องเที่ยวนั่นแหละ อย่าคิดและค้นคว้าวิจัยแต่เรื่องเงินมาจากนอกประเทศ คนในประเทศก็อยากเที่ยวและอยากเข้าถึงข้าวดี
โดยทั่วไปคนไทยยังเข้าไม่ถึงข้าวดี ไม่รู้จะซื้อหาจากช่องทางใดแม้ว่าจะมีเงินซื้อและอยากลอง คนพะเยาเองเคยลำบากหาซื้อข้าวสารหอมมะลิพะเยาที่ได้รางวัลชนะเลิศ ก็จึงไม่แปลกที่ในฐานะนักท่องเที่ยวไปถึงพะเยาก็เจอปัญหาเดียวกันหาซื้อไม่ได้
เรื่องนี้น่าคิด ผู้ว่าฯพะเยาหลังๆ มานี้ทำนโยบายให้ร้านอาหารเสิฟข้าวสวยหอมมะลิพะเยา ได้รับความร่วมมือ แต่ก็ได้ยินผู้บริโภคบ่นว่าแพงจัง บางร้านจึงมีข้าวสวยราคาถูกกว่าให้เลือก
ทั้งหาซื้อไม่ได้และราคาที่ว่า "แพง" เป็นโจทย์ที่ต้องตีให้แตก โดยทั่วไปแชมป์มวยนางงามดาราคืนถิ่นเป็นข่าวครึกโครมกว่าข้าวของท้องถิ่นชนะเลิศรางวัลอะไรมาเสียอีก ส่วนหนึ่งที่บ่นว่าแพง อาจเพราะเราคนไทยไม่ค่อยสนใจไม่(สามารถ)พิถีพิถันนักกับข้าวสารข้าวสวยที่กิน ไม่ว่าที่บ้านและร้านอาหารทั่วไป แม้แต่ในร้านอาหารดีและแพง เราจะบ่นหนักอาหารไม่อร่อย แต่ไม่ว่ากันนักเรื่องคุณภาพข้าว
ข้าวสารถุงที่ซื้อบริโภคกันทั่วไประบุน้อยมากหรือไม่ระบุเลยว่าเป็นข้าวพันธุ์ใดผลิตปีไหน ผู้ซื้อดูยี่ห้อผู้บรรจุถุงเป็นหลัก (ซึ่งก็อาจไม่ใช่ผู้ผลิตข้าวสาร) ต่างจากแต่เดิมที่ซื้อปลีกข้าวสารเป็นลิตรหรือกิโลกรัม(ซึ่งกลับมานิยมกันใหม่ในร้านขายข้าวไฮเอนด์ ) มักปักป้ายบอกว่าเป็น ข้าวอะไร พันธุ์อะไร ข้าวใหม่ ข้าวเก่า หรือข้าวเก่า ๒ ปี ถ้าแหล่งภูมิศาสตร์มีความสำคัญ ก็จะระบุเช่นว่า ข้าวเหนียวเขี้ยวงูเชียงราย (เยี่ยมมากนำมามูลกะทิ) ข้าวสังข์หยดพัทลุง ฯ
พอกล่าวได้ว่าทุกวันนี้คนไทยที่ไม่เกี่ยวข้องฤดูกาลปลูกข้าวแทบจะไม่แยกแยะอะไรเกี่ยวกับข้าวที่ซื้อที่กิน ไม่รู้ความแตกต่าง "ข้าวใหม่" "ข้าวเก่า" ไม่รู้จักทั้งชื่อและหน้าตาตลอดจนรสชาติของข้าวนานาพันธุ์ ศักยภาพการรู้จักข้าวและรสข้าวของเราเสื่อมถอยจนเราคนในประเทศที่ได้ชื่อว่าปลูกและส่งออกข้าวดีที่สุดในโลกกลับมีข้าวกินไปตามยถาตลาดบงการ ไร้การดูแลเอาใจใส่จากสถาบันเกี่ยวข้อง การวิจัยพัฒนาข้าวไทยมุ่งแต่ส่งออกเป็นหลักทั้งรสชาติ คุณภาพและการจำหน่ายเข้าถึง
การที่ผู้บริโภค(ในประเทศ)ไม่พิถีพิถัน สำนึกน้อย สืบสาวไปก็โยงถึงผู้ผลิต ตั้งแต่เกษตรกร โรงสี ผู้จำหน่าย ที่บกพร่องในการแยกแยะ คัดเลือก และการปลูกมาตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ จนส่งผลถึงผู้บริโภค ต้นน้ำถึงปลายน้ำเป็นวงจรมานาน
เราเพิ่งบริหารจัดการคุณภาพเมล็ดพันธุ์เมื่อ 20 กว่าปีนี้เอง อื่น ๆ เช่น ลดปลูกข้าวด้อยคุณภาพ ก็เพิ่งรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ ที่ต้องแก้ทุกข์ใหญ่จำนำข้าวทุกเมล็ดทิ้งมรดกไว้ คือเร่งผลิตเอาเมล็ดมาก ๆเป็นหลัก นาบางแห่งปลูกข้าว 7 ครั้งในสามปี เป็นข้าวนาปรังคุณภาพต่ำทั้งนั้น
สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเตือนพักใหญ่แล้วว่าส่งออกข้าวปีนี้ในช่วงเดียวกัน มกราคม-พฤษภาคม ลดลงจากปีที่แล้วและมีแนวโน้มจะลดลงทั้งปริมาณและมูลค่า คู่แข่งจะมากขึ้น โดยเฉพาะจีนที่จะเริ่มส่งออกข้าวไปขายในแอฟริกา จีนเป็นดาวรุ่งดวงใหม่เรื่องข้าว เดินตามหลายประเทศในการวิจัยพัฒนาพืชเกษตรทุกด้านเมื่อตั้งใจผลิต เช่นญี่ปุ่นซึ่งเคยเขียนถึงมาแล้ว
ขนมปังที่คนฝรั่งเศสกินเป็นอาหารแป้งหลักนั้นรัฐบาลเฝ้ารักษามาตรฐานเสนอสนองผู้บริโภค เพราะหมายถึงชื่อเสียงยี่ห้อและเพื่อควบคุมการผลิตทั้งวงจร กว่าสองทศวรรษแล้วที่เริ่มเงินอุดหนุนผู้ผลิตขนมปังดี ๆให้อยู่ได้ในภาวะแข่งขันและให้โรงเรียนจัดขนมปังดีให้เด็กได้ลิ้มรสช่วงอาหารกลางวัน ด้วยเกรงลิ้นคนในชาติจะกลายเป็นลิ้นจระเข้โดยเฉพาะเด็ก ๆหากได้กินแต่ขนมปังซุปเปอร์มาร์เก็ตเก็บได้เป็นอาทิตย์ ซึ่งห่างไกลลิบคุณภาพขนมปังแบบดั้งเดิมที่ร้านขนมปังอบขนมปังท่อนยาวกรอบนอกนุ่มในที่เรียกว่าบาแกต ( baquette ) วันละสองรอบ คือ ตีสี่และบ่ายสองบ่ายสาม กินสุกใหม่วันต่อวัน
พูดแล้วท้องร้องจ๊อก ๆ อยากกิน ข้าวแชมป์โลก !