รอดพ้นจากความหวาดกลัว สับสน มองลบ
สมัยหนึ่งคนขายของนิยมใช้วิธีสร้างความกลัวให้เกิดขึ้นกับลูกค้าว่า ถ้าไม่รีบซื้อตอนนี้วันหน้าจะเป็นอย่างไรไม่รู้ จะมีของให้ทันใช้งานหรือเปล่า
เทคนิคการขายดังกล่าวก็เพื่อให้ลูกค้าสับสนว่าอนาคตฉันจะเป็นอย่างไรแน่ แล้วมองลบว่าถ้าไม่มีของมาส่งให้ทันเวลาแล้วฉันจะแย่แค่ไหน เล่ากันว่าวิธีนี้ใช้มาตั้งแต่มีการขายเครื่องคอมพิวเตอร์เมนเฟรมราคาแสนแพงในสมัยก่อน ยักษ์ใหญ่ในวงการให้เซลล์ไปบอกลูกค้าว่าใครที่ซื้อเมนเฟรมของเขาไม่เคยตกงาน แต่ถ้าซื้อยี่ห้ออื่นตกงานกันเป็นแถว ซื้อยี่ห้ออื่นไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันหน้าแต่ยี่ห้อฉันอยู่ยั่งยืนแน่ ๆ ลูกค้าที่สับสนกับอนาคตและเดาไปในทางลบกับอนาคตก็เลยกลายเป็นลูกค้าของยักษ์ใหญ่ในวงการ ไปจนกระทั่งคู่แข่งล้มหายตายจากไปจากวงการไปหมด คนที่เคยเป็นคู่แข่งของยักษ์ใหญ่เลยตั้งชื่ออาการนี้ว่า Fear Uncertain Doubt หรือเรียกกันสั้น ๆว่า FUD
FUD เริ่มต้นด้วยการพยายามให้คนโฟกัสไปที่ผลลัพธ์ในทางลบที่จะเกิดขึ้น แทนที่จะมองภาพรวมของเรื่องนั้น ซึ่งคนส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะมองไปในทางลบกันอยู่แล้ว ถ้ายังมีสติพอจะมองภาพรวมให้เห็นความจริงได้ ก็จะตามมาด้วยการลดทอนความมั่นใจในความรู้และประสบการณ์ที่คนนั้นมีอยู่ ด้วยการระดมข้อมูลที่เข้าใจได้ยากมาส่งให้อย่างต่อเนื่อง ส่งเรื่องทางเทคนิคที่ซับซ้อน มาลดมั่นใจในความรู้ความสามารถลงไปมากขึ้น
จากนั้นจะปิดล้อมทางเลือกอื่นด้วยการโจมตีจุดเล็กจุดน้อย แต่พยายามทำให้ดูเป็นเรื่องใหญ่โต เอากรณีพิเศษมาทำให้เป็นเหมือนค่าเฉลี่ย ใครถูกชักนำมาถึงจุดนี้ก็หมดหนทางที่จะไปทางอื่น นอกจากทางเลือกที่คนสร้างFUDให้ไว้ เราจึงพบเห็นการตัดสินใจที่ดูไม่เข้าท่าเข้าทางจากเหยื่อของFUDอยู่เป็นประจำ คนอื่นมองไม่ว่าไม่เข้าท่า แต่คนที่ตกอยู่ภายใต้ความกลัว ความสับสน และคาดเดาไปในทางลบกลับเห็นว่าเป็นหนทาเดียวที่จะรอดได้
คนมีเหตุผลน้อยลงเมื่อตกอยู่ในความกลัวที่จะล้มเหลวในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ยิ่งเป็นความกลัวต่อความล้มเหลวที่ปรากฏต่อสาธารณะด้วยแล้ว ความกลัวจะจำกัดทางเลือกให้เหลือแค่ทางเลือกที่เป็นการป้องกันตัวที่รับรู้อยู่ในขณะนั้น การใช้เหตุผลจึงลดทอนลงมากไปอีก ยิ่งหลงตัวเองมาก ยิ่งกลัวมาก เพียงแต่จะแสดงออกให้เห็นมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง ดังนั้นหนทางหนึ่งที่จะช่วยได้คือคืออย่ากังวลว่าจะถูกเล่นงานหากพลาดพลั่งมากเกินไป พลาดท่าแต่อธิบายได้อย่างมีเหตุผลมีคนรับฟังอยู่เสมอ ลดความกลัวความล้มเหลวลงไป เพื่อให้คิดหาทางเลือกได้ดีขึ้น ไม่ปิดล้อมตนเองด้วยทางเลือกเดียวที่ถูกเป่าหูมาเท่านั้น
ความสับสนทำให้เราหันไปยึดมั่นกับหนทางที่เคยทำ เคยพบความสำเร็จที่ผ่านมา การแก้ปัญหาจึงไม่รอบคอบจากการที่มองเรื่องใหม่ในสายตาเก่า เราเห็นคนใช้วิธีเดิม ๆกับเรื่องใหม่ทั้ง ๆที่ดูแล้วไม่เห็นว่าจะคล้ายกันตรงไหน เพราะเขากำลังสับสนจากความกลัวความล้มเหลวที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยใครสักคน ถ้าพบกับความสับสนจากสารพัดสาระที่เข้าใจได้ยาก จนไม่รู้ว่าตัวเองเก่งพอที่จะเข้าใจสาระนั้นเพียงพอต่อการตัดสินใจหรือไม่ ให้ทำใจยอมรับว่าอนาคตมีได้หลายแบบ ลองนึกดูว่าแต่ละแบบนั้นเป็นอย่างไร แล้วลองประเมินดูว่าอะไรบ้างจะถูกกระทบในอนาคตแต่ละแบบที่เรานึกขึ้นมาได้ จะพบว่ามีบางอย่างที่ถูกกระทบในทุกแบบของอนาคต ความสับสนจะลดลงเพราะรู้แล้วว่าอะไรคือเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ ไม่งั้นจะมีร้อยแปดเรื่องวนไปวนมา ยิ่งคิดเลยยิ่งสับสน ยิ่งสับสนยิ่งวกกลับไปหาของเก่า ซึ่งเมื่อหลายสิบปีก่อนอาจจะใช้ได้ผล แต่ไร้ประโยชน์ในปัจจุบัน
อย่าคาดเดาทุกอย่างไปในทางลบ ลองมองแง่บวกดูบ้าง แม้จะดูแปลก ๆที่มาเดาทางบวกในขณะที่เผชิญสถานการณ์ที่ย่ำแย่ แต่มีกลางคืนก็มีกลางวัน มีมืดก็มีสว่าง การมองสองทางทำให้เราเสาะหาข้อมูลที่บ่งบอกความจริงได้ดีกว่าเมื่อมองแต่แง่ลบ หูตาจะได้สว่างจากความกลัว ความสับสน และการคาดเดาในทางลบ.