เห็นเหมือนล้าหลัง เห็นต่างก้าวหน้า
ผู้บริหารหลายคนคิดว่า เห็นเหมือนกันเท่านั้นที่เป็นความร่วมมือร่วมใจในการทำงาน คิดว่าจะประสบความสำเร็จได้ต้องเห็นเหมือนกันไปหมดทุกเรื่อง
ถ้าเชื่อกันแบบนี้ จะไม่มีความว่องไวเพียงพอสำหรับรับมือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้ปรับตัวไม่ทัน สร้างความก้าวหน้าจากการเปลี่ยนแปลงนันไม่ได้ กลายเป็นความล้าหลังทั้ง ๆที่เคยนำหน้าในยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง
ในเวลาที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยี และด้านภัยคุกคามต่าง ๆ โควิดเมื่อปีที่แล้วกับโควิดวันนี้ต่างกันมาก การคิดเหมือนกัน เห็นเหมือนกันไปหมดทุกเรื่อง ทำให้เห็นภาพอนาคตได้เพียงภาพเดียว ซึ่งอาจจะผิดจะถูกได้เท่า ๆกัน ถ้าถูกก็โชคดี รับมือการเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าผิดก็ล้มเหลว ต้องเริ่มใหม่อย่างล้าหลังคนอื่น ยามนี้ความเห็นต่างจึงเป็นประโยชน์ ซึ่งเกณฑ์การบริหารสู่ความเป็นเลิศ บอกมาตั้งนานแล้วว่า ผู้นำระดับสูงต้องใช้ประโยชน์จากความคิดที่หลากหลายที่มาจากบุคลากรที่มีพื้นฐานแตกต่างกัน คือยอมรับว่าการเห็นต่างเป็นการสร้างสรรค์ ไม่ยอมให้มีวัฒนธรรมนิยมการเห็นเหมือน และทำลายล้างการเห็นต่าง เพราะความเห็นต่างเพิ่มมุมมองใหม่ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆให้กับผู้นำ ความเห็นต่างหากใช้อย่างเหมาะสม จะเปิดโอกาสให้เกิดความสำเร็จใหม่ ๆที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ความเห็นต่างจะไร้ประโยชน์ ถ้ายึดมั่นอยู่กับวัฒนธรรมเห็นเหมือน แต่เกลียดชังเห็นต่าง
ถ้าต้องการให้เกิดความเห็นต่างที่อาจนำไปสู่ความก้าวหน้า ต้องเริ่มจากตัวผู้นำ โดยต้องนำโดยไม่สร้างความเกลียดชังความเห็นที่แตกต่าง อย่าสร้างองค์รักษ์พิทักษ์ความเห็นเหมือน ที่คอยพิฆาตความเห็นต่าง เพราะจะทำให้ความเห็นต่างที่นำไปสู่ความก้าวหน้าหลายความเห็นสูญสลายไป
การแสดงความไม่พอใจด้วยวาจาหรือท่าทางเมื่อเผชิญกับความเห็นต่างเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ผู้บริหารจำนวนไม่น้อยที่ไม่ชอบให้ใครมาแสดงความเห็นต่างไปจากความเห็นของตน แต่มีผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในโลกนี้มากมายหลายคนที่สร้างความสำเร็จขึ้นจากความเห็นต่าง ผู้บริหารกลุ่มนี้ไม่พียงแต่มีอีคิวดีเพียงพอที่จะรับฟังความเห็นต่างด้วยความสงบ แต่ยังสามารถดัดแปลงความเห็นต่างนั้นไปใช้สร้างความก้าวหน้าให้เกิดขึ้น ภายใต้การนำของตนเอง
อย่ายึดการแพ้ชนะเป็นข้อสรุปในการจัดการกับความเห็นต่าง ถ้านิยามไปว่าเห็นต่างชนะคือฉันแพ้เมื่อใด เมื่อนั้นความเห็นต่างที่เป็นประโยชน์จะหายไปตั้งแต่แรกเริ่ม ความหลากหลายทางความคิดที่เคยเป็นความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ จะกลายไปเป็นอุปสรรคในการดำเนินกลยุทธ์ไปเลย ของดีกลายเป็นของไม่ดีจากการยึดมั่นแพ้ชนะมากกว่าจะดูประโยชน์ที่ตามมาจากความเห็นต่างนั้น ขอให้เปลี่ยนการมองหาแพ้ชนะมาเป็นการมองหาประโยชน์ในการสร้างความก้าวหน้าแห่งองค์กรจากความแตกต่างนั้นเป็นสำคัญ ซึ่งไม่ง่ายนักเพราะผู้บริหารจำนวนไม่น้อยที่ผูกพันความก้าวหน้าขององค์กรไว้กับอัตตาของตนเอง ก้าวหน้าต่างจากที่ฉันคิด คือไม่ก้าวหน้า
การยอมรับฟังความเห็นต่างอย่างไม่ยึดมั่นกับอัตตามากเกินไป ควบคู่ไปกับการหาทางใช้ประโยชน์จากความเห็นต่างนั้นในการสร้างความก้าวหน้าให้กับองค์กร จะนำไปสู่ความร่วมมือใหม่ๆ ถ้าความเห็นของใครก็ตามได้รับการยอมรับจากผู้บริหาร จะมากจะน้อยก็ตามแต่ ความผูกพันในการดำเนินการให้เกิดความก้าวหน้าย่อมเกิดขึ้นในหมู่คนเห็นต่าง ถ้าเสนอแล้ว ฟังแล้ว รับแล้ว แต่ไม่ยอมช่วยทำ คนเสนอความเห็นต่างก็จะเสียเครดิตไปเอง วันหน้าก็ไม่มีใครเชื่อถืออีกต่อไป การยอมรับความเห็นต่างไม่ว่ามากหรือน้อยแค่ไหน ย่อมได้ความร่วมมือตามมาเสมอ ซึ่งความก้าวหน้าหลายเรื่องกระทำให้เกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับความร่วมมืออย่างทั่วหน้า
ถ้าเริ่มต้นด้วยท่าทีการรับฟังอย่างจริงใจ โอกาสที่จะแสวงหาจุดร่วมของความเห็นต่างที่อาจจะมีอย่างหลากหลาย ร้อยกลุ่มร้อยความเห็น ถ้ามองหาประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อความก้าวหน้าขององค์กรเป็นสำคัญ แทนที่จะไล่จับผิดกันว่าความเห็นของใครผิดตรงไหน แล้วต่างคนต่างโต้ตอบกันไปมาว่าของฉันดีอย่างนั้น ของคนอื่นเลวอย่างนี้ ย่อมหาจุดร่วมที่เป็นประโยชน์ไม่ได้ อดทนต่อกันและกันมากขึ้นสักนิด ลดการมองชนะแพ้ของตนเองลงไปเยอะ ๆ มองความก้าวหน้าขององค์กรไว้มาก ๆ เห็นต่างจะสร้างความสำเร็จได้อย่างมหัศจรรย์.