SAND : อนาคตของ NFT และ Metaverse?
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาคงจะมีน้อยคนที่ไม่รู้จักแซนด์ (SAND) โทเคนดิจิทัล (Digital Token) สำหรับการซื้อขายสินค้าและบริการซึ่งรวมไปถึงที่ดินในรูปแบบของ Non-Fungible Token (NFT) ภายใน Metaverse ที่เรียกว่า The Sandbox
โดยโลกของThe Sandbox มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับ Minecraft และ Roblox ที่เด็กเยาวชนและผู้ปกครองต่างก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว Concept ของ The Sandbox จึงเข้าใจได้ไม่ยากและสามารถสื่อสารกันแบบปากต่อปากได้อย่างรวดเร็วประจวบกับการโหนกระแสของ Metaverse จึงสามารถดึงดูดนักลงทุน (เก็งกำไร) รายใหม่เข้ามาได้เป็นจำนวนมากและก็มีไม่ใช้น้อยที่ก็ได้ติดดอยกันไปเรียบร้อยแล้ว
Marketcap ล่าสุดของ SAND อยู่ที่ราว 5,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่ใช่น้อยเลย
ทั้งหมดนี้ได้เกิดขึ้นก่อนการเปิดตัว BETA ของ The Sandbox ในวันที่ 29 พ.ย. โดยที่นักลงทุน (เก็งกำไร) เกือบทั้งหมดไม่เคยได้มีประสบการณ์จริงกับ Metaverse ที่เรียกว่า The Sandbox เลย
ทุกอย่างจึงอยู่บนสมมุติฐานที่ว่า The Sandbox จะประสบความสำเร็จและมี Demand กับสินค้าบริการและที่ดินที่มีอยู่ใน The Sandboxอย่างที่เหนือคณานับ
เราจะได้รู้ความจริงกันในอีกไม่กี่วันหรือสัปดาห์ข้างหน้านี้แล้วว่า The Sandbox นั้นสนุกและน่าเล่นจริงหรือไม่
เป็นสิ่งที่พึงต้องสังเกตุว่าบทสนทนาส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับ SAND หรือThe Sandboxในวันนี้จะเกี่ยวข้องกับการการลงทุน(เก็งกำไร)และการสร้างรายได้โดยเกือบจะไม่มีบทสนทนาที่เกี่ยวกับประสบการณ์ของการเป็นMetaverseเลยว่าThe Sandboxจะสร้างValue (ความบันเทิง)อะไรให้กับคนที่จะเข้ามาเล่นหรือจะมีกลไกอย่างอื่นอันแยบยลที่ทำให้ผู้คนต้องกลับเล่นครั้งแล้วครั้งเล่าและจะสร้างDemandให้กับสินค้าบริการและที่ดินที่มีอยู่ในThe Sandbox
อย่างไรก็ดี The Sandbox ก็ได้ประกาศการร่วมพันธมิตรกับแบรนด์ใหญ่เป็นจำนวนมากซึ่งต้องแสดงให้เห็นว่าแบรนด์เหล่านี้อาจได้รับรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับ The Sandbox ที่ยังไม่ถูกเปิดเผยกับสาธารณะ
แต่ในที่สุดนอกเหนือจาก The Sandbox ก็ยังมี Metaverse อื่นๆ ที่อาศัย NFT (และที่ไม่ได้อาศัยNFT) และเรื่องราวของ SAND เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงพัฒนาการของอุตสาหกรรมคริปโตที่ได้ผ่านการวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในเรื่องการรับรู้ของสังคม (แม้แต่ประเทศไทย) ที่ได้ก้าวข้ามความมั่นคงปลอดภัยและวัตถุประสงค์ของเงินสกุลดิจิทัล (Cryptocurrency) เช่น บิทคอยน์ (Bitcoin) หรือกระทั่งอีเธอเรียม (Ethereum ) เข้าสู่การพัฒนาเป็น Digital Token และกระทั่ง NFT ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในยุคปัจจุบันด้วยการอาศัยเทคโนโลยีของ Blockchain
และนี่คงเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นซึ่งในปีหน้าเราคงได้เห็นอะไรอีกมากในเรื่องราวของ NFT และ Metaverse ที่ยากจะคาดเดาถึงในวันนี้และการโหนกระแสต่างๆ ก็จะกลายเป็นเรื่องจริงที่สร้างความเปลี่ยนแปลง
สำหรับคนไทยเองก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจเพราะไม่เพียงแต่จะทำให้ก้าวทันเทคโนโลยีแต่ในโลกดิจิทัลที่ไร้พรมแดนที่ไร้พรมแดนก็สามารถมีส่วนร่วมกับแนวหน้าของเทคโนโลยีที่ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เฉพาะในประเทศไทย