กองทุน Passive Fund และกองทุนติดดาว ในตลาดหุ้นจีน-ฮ่องกง

ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีที่มาจดทะเบียน คล้ายกับตลาดหุ้น Nasdaq ของสหรัฐฯ โดยหุ้นทั้ง 2 ตลาดนี้มักเรียกว่า A-Share และเร็วๆ นี้ทางการจีนประกาศจัดตั้งตลาดหุ้นแห่งที่ 3 ที่ปักกิ่ง Beijing Stock Exchange เพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและเล็กโดยเฉพาะ

 ดัชนี FTSE China A50 จะนำหุ้นขนาดใหญ่ 50 ตัว ในตลาดเซียงไฮ้และเซินเจิ้น (A-shares) ไม่รวมหุ้น B-Shares (หุ้นที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินต่างประเทศ) มาคำนวณเป็นดัชนีหุ้น 10 ตัวแรกคือ Kweichow Moutai, China Merchants Bank, Ping An Insurance, Wuliangye Yibin, Contemporary Amperex Technology, Industrial Bank

CITIC Securities, Inner Mongolia Yili Industrial, China Tourism Group และ Jiangsu Hengrui Medicine Technology กองทุนหลักที่อ้างอิงดัชนี FTSE China A50 มีกองทุน CSOP FTSE China A50 ETF จะเป็นกองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นจีน (K-CHX) และกองทุน iShares FTSE A50 China Index ETF จะเป็นกองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index (TMBCHEQ)

  ดัชนี CSI 300 จะนำหุ้นขนาดใหญ่ 300 ตัว ในตลาดเซียงไฮ้และเซินเจิ้น มาคำนวณเป็นดัชนี หุ้น 10 ตัวแรกคือ Kweichow Moutai, Contemporary Amperex Technology, China Merchants Bank, Ping An Insurance, Wuliangye Yibin, Midea Group, Longi Green Energy Technology

 Industrial Bank, East Money Information และ China Yangtze Power กองทุนที่อ้างอิงดัชนี CSI 300 มีกองทุนหลัก ChinaAMC CSI 300 Index ETF จะเป็นกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นจีนเอแชร์ (SCBCHA) และ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า A-Shares อิควิตี้ (TISCOCHA)

 ดัชนีตลาดหุ้นฮ่องกง จะเป็นดัชนี HSI (Hang Seng Index) หุ้นที่จดทะเบียนในตลาดนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทของจีน แต่ก็จะมีบริษัทต่างชาติ และบริษัทในฮ่องกง ที่จดทะเบียนด้วยเช่นกัน อาทิ AIA, HSBC, Hang Seng Bank, Hong Kong and China Gas, WuXi Biologics, MTR Corporation ฯ กองทุนหลักที่อ้างอิงดัชนีคือ Hang Seng Index ETF จะเป็นกองทุนเปิดแอสเซทพลัสเอชเอสไอ (ASP-HSI)

 ส่วนอีกดัชนีที่นิยมกันคือ HSCEI (Hang Seng China Enterprises Index) เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า H-Shares คือหุ้นบริษัทในจีนที่ไปจดทะเบียนในตลาดฮ่องกง หุ้น 10 ตัวแรกคือ Tencent, Alibaba, ICBC, China Merchants Bank, Meituan, China Construction Bank, Agricultural Bank of China, Ping An Insurance, PetroChina และ Bank of China กองทุนที่อ้างอิงดัชนี HSCEI มีกองทุนหลัก Hang Seng China Enterprises Index ETF จะเป็นกองทุนเปิดกรุงศรีไชน่าอิควิตี้ (KF-CHINA), กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน (SCBCE), กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า H-Shares อิควิตี้ (TISCOCH) และ กองทุนเปิด วรรณ ไชน่า ออโต้ รีเด็มชั่น ฟันด์ (ONE-CHINA)

 ส่วนกองทุนติดตาวที่เป็น Active Fund ในตลาดหุ้นจีนที่น่าสนใจมีดังนี้

กองทุนเปิดกรุงศรีเกรทเทอร์ไชน่าอิควิตี้เฮดจ์ปันผล (KF-HCHINAD)* ลงทุนในกองทุนหลัก กองทุน FSSA Greater China Growth Fund เน้นลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพการเติบโตในระยะยาว ในตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง ไต้หวัน เป็นหลัก หุ้น 10 ตัวแรกคือ TSMC, Tencent, China Merchants Bank, Midea Group, Silergy, ENN Energy, Techtronic Industries, AIA, Realtek Semiconductor และ Advantech

กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท เกรธเธอร์ ไชน่า (UOBSGC)* ลงทุนในกองทุนหลัก United Greater China Fund Class A SGD เน้นกระจายการลงทุนในตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง ไต้หวัน หุ้น 10 ตัวแรกคือ Huadian Power, Guangdong Sirio Pharma, Parade Technology, Genscript Biotech, Cosco Shipping Ports, Citic Telecom, Yanzhou coal, Xpeng, Xtep International และ Cocso Shipping Development.

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ)* เป็นแบบ Fund of Funds และเลือกหุ้นลงเองบางส่วน โดยลงทุนในกองทุน Allianz China A-Shares 45% และ Allianz All China Equity 31%

นอกจากนี้ยังมีกองทุนหลัก UBS (Lux) Equity Fund - China Opportunity เน้นเลือกหุ้นที่น่าสนใจและหาจังหวะการลงทุนในบริษัทจีน แบบ High Conviction คือ ให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นที่มีความมั่นใจสูง หุ้น 10 ตัวแรกคือ Tencent, Alibaba, Kweichow, Netease, China Merchants Bank, Ping An, Hong Kong Exchange,CSPC Pharmaceutical

และ Meituan กองทุนไทยจะเป็นกองทุนเปิดทหารไทย China Opportunity (TMBCOF) และ กองทุนเปิด แอล เอช อิควิตี้ ไชน่า ออพพอร์ทูนิตี้ (LHCHINA-A) ส่วนกองทุนหลักที่คล้ายกันอีกกองจะเป็น UBS All China Equity จะเป็นกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ออล ไชน่า อิควิตี้ ฟันด์ (UCHINA) และ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Active All China Equity (SCBCHINA)

ส่วนกองทุน UBS (Lux) Investment SICAV - China A Opportunity จะเน้นลงทุนในหุ้น A-Shares หุ้น 10 ตัวแรกคือ Kweichow Moutai , Jiangsu Hengrui Medicine, Yuunan Baiyao, Wuliangye Yibin, Midea Group, China Merchants Bank, Ping An Bank, Ping An Insurance, Wanhua Chemical และ Luxshare Precision Industrial

จะมีกองทุนเปิดกรุงศรีไชน่าเอแชร์อิควิตี้ (KFACHINA-A), กองทุนเปิดทีเอ็มบี อีสท์สปริง China A Active (TMB-ES-CHINA-A), กองทุนเปิดพรินซิเพิล ไชน่า อิควิตี้ (PRINCIPAL CHEQ-A) ลงทุน 53% และกองทุนเปิดเค ไชน่า คอนโทรล โวลาติลิตี้ (K-CCTV) ลงทุน 51%

บางกองทุนอาจจะแบ่งเป็นหลาย Class เช่น แบบสะสมมูลค่า แบบจ่ายเงินปันผล แบบรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ และแบบเป็นกองทุน RMF หรือ SSF ซึ่งผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนก่อนตัดสินใจลงทุนครับ