คุณค่าความสำเร็จ

คุณค่าความสำเร็จ

การไม่กล้าลงมือทำทำให้คนเก่งจำนวนมากไปไม่ถึงเป้าหมาย

ความสลับซับซ้อนของสมองมนุษย์เป็นเรื่องท้าทายที่สุดในด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพราะเรายังศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับมันได้อีกมากมายมหาศาล แต่องค์ความรู้ของเราในวันนี้บอกให้รู้ว่าสติปัญญาของเราขึ้นอยู่กับการทำงานประสานกันของเซลล์ประสาทนับพันล้านเซลล์ในสมองเป็นหลัก

การตั้งใจเรียนรู้หรือลงมือทำอะไรบางอย่างเซลล์ประสาทจะทำงานอย่างหนักในการเชื่อมโยงแต่ละเซลล์เข้าด้วยกันเป็นเครือข่าย ดูเผินๆ อาจเหมือนวงจรไฟฟ้าที่แต่ละเซลล์กำลังพยายามเชื่อมต่อกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว นั่นคือความรู้ใหม่ๆ กำลังถูกสร้างขึ้นในสมองเรานั่นเอง

การคิดแต่เพียงอย่างเดียวจึงไม่อาจสร้างความรู้ได้มากเท่ากับการลงมือทำ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นจะกระตุ้นให้สมองของเราทำงานอย่างหนักเพื่อหาทางแก้ไขและเมื่อเจอปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันไปก็จะยิ่งทำให้เรายิ่งสร้างฐานความรู้ให้กับตัวเองได้เพิ่มขึ้นกว่าการคิดเพียงอย่างเดียวหลายเท่า

คนทั่วไปที่มีความรอบรู้ ติดตามข่าวสารใหม่ๆ อยู่เสมออาจรู้สึกเฉยๆ กับความสำเร็จของหลายๆ คนเพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดาเนื่องจากตัวเอง “รู้มาตั้งนานแล้ว” และอาจคิดเลยเถิดไปด้วยว่าหากตัวเองได้ลงมือทำจริงต้องทำได้ดีกว่าแน่นอน เพราะมีความรู้มากกว่า เรียนหนังสือเก่งกว่า หรือไม่ก็เก่งกลยุทธ์มากกว่า

แต่ก็ป่วยการ เพราะคนจำนวนมากชอบ “คิดมากกว่าทำ” และการที่ไม่ได้ลงมือทำนั้นขาดโอกาสในการสังเคราะห์ความรู้จนเทียบไม่ได้กับคนที่ลงมือทำจริงๆ ที่มักเจออุปสรรคต่างๆ มากกว่าที่คนทั่วไปอ่านเจอในบทสัมภาษณ์อย่างเทียบกันไม่ติด

การไม่กล้าลงมือทำจึงเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญที่ทำให้คนเก่งและคนที่มีศักยภาพจำนวนมากไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตัวเองต้องการในชีวิต อาจเป็นกับดักของคนเรียนเก่งที่ทำให้กังวลมากกว่าคนทั่วไปเมื่อต้องลงมือทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างจริงจัง

เพราะความเก่งที่มีทำให้หลงคิดว่าตัวเองจะต้องได้ผลงานที่ยอดเยี่ยมกว่าคนอื่นๆ หรืออาจมองทะลุว่าต้องใช้ความรู้ด้านอื่นเพิ่มเติมเพื่อให้งานของตัวเองสำเร็จได้อย่างโดดเด่น จึงได้แต่เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ไม่ได้ลงมือทำสักทีเพราะกลัวไม่สมบูรณ์แบบ

ในขณะที่คนทั่วไปอาจไม่ได้มองลึกซึ้งขนาดนั้น แต่กระโจนใส่สิ่งตัวเองอยากทำเลยโดยหวังไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในภายหลัง ซึ่งอุปสรรคที่เขาเจอและจัดการแก้ไขได้สำเร็จก็อาจเป็นการบุกเบิกและฝ่าฟันกฏกติกาจนเกิดการแก้ไข สร้างโอกาสให้กับคนที่ตามมาอีกได้ด้วย

เหมือนกับการลุยป่าเพื่อมุ่งสู่ปลายทางที่ตัวเองต้องการ แน่นอนว่าเต็มไปด้วยสิ่งกีดขวางจนเราต้องออกแรงถางป่า ตัดกิ่งไม้รายทาง เพื่อให้เดินต่อไปได้ 

แต่ยิ่งทำมากเข้าๆ นอกจากเราจะเดินเข้าออกได้สะดวกแล้ว เส้นทางนั้นก็ขยายตัวใหญ่ขึ้น เปิดโอกาสให้คนอื่นมาร่วมเดิน จนมันอาจกลายเป็นถนนลูกรัง หรือเติบโตเป็นถนนหลักให้คนรุ่นต่อไปในอนาคต

ความสำเร็จแม้เป็นเรื่องเล็กน้อยจึงมีคุณค่าทั้งต่อตัวผู้ลงมือทำเองรวมไปถึงสังคมที่อาจได้ประโยชน์ทางอ้อม เทียบไม่ได้กับการคิดแต่เพียงอย่างเดียวซึ่งอาจทำให้เราหยุดนิ่งอยู่กับที่มานานหลายปีโดยไม่รู้ตัว

และในโอกาสเทศกาลตรุษจีนนี้ ขออวยพรให้ผู้อ่านทุกท่าน ประสบแต่ความสุข ความเจริญ สุขภาพแข็งแรงตลอดปีเสือปีนี้ครับ...