นำ NFT มาเสริมทัพให้แบรนด์ปังกว่าเดิม

หากสามารถทำความเข้าใจและนำ NFT มาประยุกต์ใช้ได้อย่างถูกต้องมันจะช่วยเพิ่มความได้เปรียบในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลเช่นนี้ให้กับแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว และในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จัก NFT พร้อมกับประโยชน์ที่แบรนด์ต่าง สามารถนำมาใช้กับธุรกิจตัวเอง พร้อมดูตัวที่น่าสนใจด้วยกันครับ

NFT คืออะไร?

NFT ย่อมาจาก Non-Fungible Token หมายถึง “โทเคนที่มีลักษณะเฉพาะตัว” ไม่สามารถใช้ทดแทนกันได้ NFT เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่งที่สร้างขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อกเชน เหมือนกับ Bitcoin หรือ Ether(Ethereum) แต่มีความแตกต่างคือ Bitcoin เป็นสินทรัพย์แบบ Fungible ที่ไม่มีลักษณะเฉพาะตัว Bitcoin แต่ละเหรียญจึงมีมูลค่าเท่ากัน สามารถใช้แทนกันได้

ในขณะที่ NFT จะถูกใช้แทนสิ่งที่มีลักษณะเฉพาะตัว เช่น รูปภาพ วีดีโอ ดนตรี อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงของสะสม การนำ NFT มาใช้จึงสามารถทำให้เกิดความมีจำนวนจำกัด (Scarcity) กับสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีลักษณะเฉพาะ เหมือนกับที่ Bitcoin และบล็อกเชนเกิดขึ้นมาเพื่อสร้างความ Scarcity ให้กับเงินดิจิทัลนั่นเอง

ประโยชน์ของ NFT กับการตลาด

อย่างที่กล่าวไปในช่วงต้นบทความ เทคโนโลยี NFT สามารถเข้ามาช่วยพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดของแบรนด์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีหากนำมาใช้อย่างเหมาะสมเรามาดูประโยชน์ของ NFT ในเชิงการตลาด โดยสามารถแบ่งเป็นข้อ ๆ พร้อมกับตัวอย่างได้ดังนี้

1.เป็นของสะสม

เนื่องจากผู้สร้าง NFT สามารถกำหนดจำนวนหรือความหายากของ NFT ได้ การสร้าง NFT ที่มีความพิเศษออกมาเพื่อให้ลูกค้าหรือเหล่าแฟน ๆ สามารถเก็บสะสมผ่านการทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น ร่วมงาน Meet & Greet แบบออฟไลน์และให้สแกน QR Codeหรือการแจกให้กับลูกค้าที่อุดหนุนผลิตภันฑ์ถึงยอดที่กำหนด ไปจนถึงการเสี่ยงโชค เมื่อลูกค้าได้รับ NFT

นอกจากสามารถเก็บสะสมได้ แล้วพวกเขายังสามารถนำไปขายต่อให้กับกลุ่มคนที่ชื่นชอบเหมือนกันได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ยกตัวอย่าง Pepsi แบรนด์เครื่องดื่มระดับโลกที่สร้างคอลเลกชัน NFT ของตัวเองในชื่อ The Mic Drop ที่เป็นการดึงจุดเด่นของแบรนด์ในฐานะผู้นำด้านดนตรีและ Pop Culture จึงเกิดเป็นคอลเลกชัน NFT งานศิลปะรูปไมโครโฟนที่ผสานรสชาติต่าง ๆ ของเครื่องดื่มเข้าด้วยกัน เพื่อให้เหล่าแฟน ๆ สามารถสะสมได้

2.เสริมภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูทันสมัย

ต่อให้เป็นแบรนด์ที่ผลิตสินค้าทั่วไปอย่าง อาหาร ยา หรือข้าวของเครื่องใช้ที่ดูจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับระบบดิจิทัลเลย แต่แบรนด์เหล่านี้ก็สามารถสร้างภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัยขึ้นได้เพียงแค่ออกคอลเลกชัน NFT ให้ลูกค้าสะสม และอาจพ่วงสิทธิพิเศษเข้าไปกับ NFT นั้นได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด การสะสมคะแนน ฯลฯ

วิธีนี้จะสามารถดึงดูดลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว ยกตัวอย่าง Taco Bell แฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดเม็กซิกันที่เป็นบริษัทแรก ๆ ที่เข้ามาในวงการ NFT โดย Taco Bell ได้ออกคอลเลกชัน Taco NFTs ในเดือนมีนาคม ปี 2021 ซึ่งก็มีกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม NFT ถูกซื้อไปหมดภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง และมีบางชิ้นที่ถูกขายต่อที่ราคาสูงถึง $180,000 เลยทีเดียว

3.เก็บเป็นความทรงจำ

เคยไหมไปร่วมงานคอนเสิร์ตของศิลปินที่เราชื่นชอบหรือการแข่งขันกีฬาแมตช์สำคัญแล้วเราต้องเก็บตั๋วกระดาษเอา

ไว้เป็นความทรงจำดี ๆ เผื่อย้อนกลับมาดูในอนาคต แต่ตอนนี้ถ้าเป็น NFT นอกจากจะเก็บสะสมในรูปแบบดิจิทัลไว้ใน Wallet ได้แล้ว ต่อให้คนออกตั๋วปิดกิจการไป NFT ก็จะไม่หายไปไหน เพราะมันถูกเก็บอยู่บนบล็อกเชนนั่นเอง

ยกตัวอย่าง ลีกอเมริกันฟุตบอลอย่าง NFL ที่จับมือกับ Ticketmaster เพื่อออกตั๋วเป็น NFT ที่จะแจกให้เฉพาะแฟนกีฬาที่รับชมการแข่งขันในฤดูกาลของปี 2022 มากกว่า 100 แมตช์ขึ้นไปเท่านั้น