ภาษีทรัมป์ ไทยจะช้ำกี่เปอร์เซ็นต์: ถอดบทเรียนที่สหรัฐฯใช้กับประเทศอื่นๆ

ภาษีทรัมป์ ไทยจะช้ำกี่เปอร์เซ็นต์: ถอดบทเรียนที่สหรัฐฯใช้กับประเทศอื่นๆ

ภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯจะเก็บจากไทยนั้นคงจะเลี่ยงไม่ได้ แต่ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันโดยด่วน ก่อนที่จะสายเกินไป

โจทย์ใหญ่ของรัฐบาลไทยในช่วงนี้ คือ จะทำอย่างไรกับสินค้าส่งออกไปสหรัฐอเมริกา

ทรัมป์เตือนล่วงหน้าว่า ประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าต่อสหรัฐอเมริกา ซึ่งหมายถึงไทยด้วย จะถูกใช้มาตรการนี้แน่นอน ส่วนจะเป็นอัตราใดนั้นก็ยังรอลุ้นกันอยู่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่กำลังเปราะบางอยู่ระหว่างสหรัฐฯกับไทยนั้น

อาจส่งผลกระทบให้อัตรานี้ขยับเปลี่ยนขึ้นได้ หากการเจรจาทั้งในรอบและนอกรอบไม่ได้ผล 

วันพุธที่ 2 เมษายน ค.ศ. 2025 คือ วันที่หลายประเทศกำลังระทึกใจรอลุ้นว่า ทรัมป์ 2.0 จะขึ้นบัญชีเก็บภาษีภาษีศุลกากรหรือไม่ ในอัตราเท่าใด

หากพิจารณาดูมาตรการภาษีฯซึ่งกระทบต่อแต่ละประเทศ อาจช่วยทำความเข้าใจว่าไทยจะเผชิญกับอะไร และควรจะแก้ปัญหาอย่างไร

มาตรการต่อจีน :

ทรัมป์ออกคำสั่งกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีน 10%

จีนตอบโต้ด้วยภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว 15% และน้ำมันและเครื่องจักรทางการเกษตร 10% นอกจากนี้ จีนยังได้เพิ่ม PVH Corp. และ Illumina ลงในรายชื่อนิติบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจ เปิดการสอบสวนการผูกขาดทางการค้ากับ Google และควบคุมการส่งออกโลหะบางชนิดรวมถึงทังสเตน

ขณะที่สหรัฐฯเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่าประมาณ 450,000 ล้านดอลลาร์ จีนกำหนดเป้าหมายเฉพาะสินค้าสหรัฐฯเพียงมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

ซึ่งชัดเจนว่าจีนตอบโต้โดยจำกัด “เพื่อพยายามหลีกเลี่ยงสงครามการค้าแบบเต็มตัว”

ต่อมาต้นเดือนมีนาคมทรัมป์ตอบโต้โดยขึ้นภาษีฯจากจีนอีกครั้งจาก 10% เป็น 20%

จีนประกาศในวันเดียวกันว่าจะเรียกเก็บภาษี 15% ต่อ ไก่ ข้าวสาลี ข้าวโพด และฝ้ายของสหรัฐฯ รวมถึงภาษี 10% สำหรับข้าวฟ่าง ถั่วเหลือง เนื้อหมู เนื้อวัว ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ผลไม้ ผัก และผลิตภัณฑ์นม จีนยังได้เปิดการสอบสวนการหลบเลี่ยงภาษี ต่อผลิตภัณฑ์ใยแก้วนำแสงที่นำเข้าจากสหรัฐฯ ระงับการนำเข้าไม้แปรรูป และเพิกถอนใบอนุญาตนำเข้าถั่วเหลือง

ต่อมาปลายเดือนมีนาคม ทรัมป์ได้แย้มว่า อาจลดภาษีศุลกากรกับจีน ภายใต้เงื่อนไขว่าเจ้าของTikTok ชาวจีนจะยอมขายให้เจ้าของใหม่ซึ่งเป็นบริษัทอเมริกัน

มาตรการต่อแคนาดาและเม็กซิโก :

ทรัมป์ประกาศภาษีนำเข้า 25% จากแคนาดาและเม็กซิโกทั้งหมด เว้นแต่ว่าทั้งสองประเทศจะดำเนินการต่อต้านการอพยพที่ผิดกฎหมายและการค้ายาเสพติดโดยเฉพาะเฟนทานิล

ผู้นำของสองประเทศพยายามลดความตึงเครียดลง โดยการชี้แจงหลักฐานเรื่องยาเสพติดและคนเข้าเมืองว่าได้ดำเนินการอย่างจริงจังแล้ว และขณะเดียวกันขู่ตอบโต้สหรัฐฯเช่นกัน

ซึ่งนำมาสู่การเจรจาเลื่อนภาษีศุลกากรออกไปอีกหนึ่งเดือน

ต่อมาทรัมป์อ้างว่า ยาเสพติดยังคงไหลเข้ามาจากเม็กซิโกและแคนาดา และยืนยันภาษีศุลกากรที่วางแผนไว้ แคนาดาตอบโต้ด้วยภาษี 25% สำหรับสินค้าของสหรัฐฯ มูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์ โดยมีแผนที่จะขยายเป็น 85,000 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่เม็กซิโกเตรียมการตอบโต้เช่นกันเมื่อตลาดหุ้นตกต่ำและมีเสียงวิจารณ์จากกลุ่มผู้ค้าปลีกและผู้ผลิตยานยนต์จึงทำให้ทรัมป์ยอมเลื่อนออกไป 30 วัน

ต่อมาแคนาดากดดันสหรัฐโดยจำกัดการส่งออกปุ๋ย และขู่จะหยุดการขายไฟฟ้าให้รัฐต่างๆของสหรัฐเป็นการชั่วคราว สหรัฐฯตอบโต้โดยขู่จะเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียม

แต่ในที่สุดยอมเลื่อนออกไปจนถึงวันที่ 2 เมษายน

มาตรการต่อสหภาพยุโรป :

ทรัมป์ขู่บังคับให้ยุโรปเพิ่มการนำเข้ารถยนต์ ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร น้ำมันและก๊าซจากสหรัฐฯ แต่ยุโรปชี้ให้เห็นว่าสหรัฐนั้นได้เปรียบดุลการค้าประเภทบริการ

ผู้นำสหภาพยุโรปบางคนขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีตอบโต้ ในขณะที่บางคนกลัวเงินเฟ้ออีกครั้งและเตือนให้เจรจากับทรัมป์

สหภาพยุโรปยอมลดภาษีรถยนต์ที่ผลิตจากสหรัฐจาก 10% เหลือ 2.5% และ ยังเสนอเพิ่มการซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว และอุปกรณ์ทางทหารจากสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีฝรั่งเศสพบกับทรัมป์เพื่อขอให้ละเว้นสงครามการค้ากับยุโรปและให้มุ่งเน้นไปที่จีนแทน

สหภาพยุโรปตอบโต้เรื่องภาษีเหล็กและอลูมิเนียม

และเตรียมเก็บภาษีเพิ่มเติมที่สินค้าอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมของสหรัฐฯ รวมถึงเหล็ก อลูมิเนียม เครื่องใช้ในบ้าน ผลิตภัณฑ์ไม้ สัตว์ปีก เนื้อวัว และอาหารนำเข้าอื่นๆ ทรัมป์ประณามแผนการจัดเก็บภาษีวิสกี้สหรัฐฯ 50% ของสหภาพยุโรป และขู่ว่าจะจัดเก็บภาษีแอลกอฮอล์ของยุโรป 200% เพื่อตอบโต้

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยอมเลื่อนไปอีกจนถึงกลางเดือนเมษายน

มาตรการต่อสหราชอาณาจักร :

สหราชอาณาจักรใช้วิธีนุ่มนวลไม่ตอบโต้ โดยรีบลดภาษีบริการดิจิทัลเพื่อป้องกันข้อพิพาททางการค้าเพิ่มเติมกับสหรัฐอเมริกา

มาตรการต่ออินเดีย :

นายกฯโมดี เยือนทำเนียบขาวเพื่อเจรจาภาษีและผลักดันข้อตกลงเพิ่มการค้าเป็นสองเท่า

อินเดียเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯประมาณ 12% ขณะที่สหรัฐฯเก็บจากอินเดียเพียง 2.2%

อินเดียประมาณว่าสหรัฐฯจะเก็บ 6% ถึง 10% สำหรับสินค้า เช่น ไข่มุก เชื้อเพลิง แร่ และเครื่องจักร และการส่งออกยาและยานยนต์

อินเดียได้ลดภาษีสำหรับรถจักรยานยนต์และวิสกี้จากสหรัฐและให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการนำเข้าอุปกรณ์พลังงานและการป้องกันประเทศของสหรัฐ

มาตรการต่อประเทศอื่น ๆ :

เกิดข้อพิพาทระหว่างโคลอมเบียและสหรัฐอเมริกาหลังจากโคลอมเบียปฏิเสธที่จะให้เครื่องบินทหารสหรัฐ 2 ลำที่บรรทุกพลเมืองโคลอมเบียที่ถูกเนรเทศลงจอด โดยกล่าวหาว่าสหรัฐฯไม่ให้เกียรติและควรส่งโดยเครื่องบินพาณิชย์ตามปกติ ทรัมป์สั่งการตอบโต้โคลอมเบียและเจ้าหน้าที่ รวมถึงภาษีศุลกากร 25 % ที่จะเพิ่มเป็น 50 % โคลอมเบียตอบโต้โดยภาษี 25% ซึ่งจะเพิ่มเป็น 50 % เช่นกัน แต่

ต่อมาโคลอมเบียเปลี่ยนใจยอมรับผู้ถูกเนรเทศโดยไม่มีข้อจำกัด

ทรัมป์เตือนประเทศ BRICS ว่าจะเก็บภาษี 100% หากพวกเขาพยายามที่จะแทนที่ดอลลาร์สหรัฐฯ ในฐานะสกุลเงินสำรอง ทรัมป์ขู่ว่าจะกำหนดภาษีศุลกากร 25% สำหรับการนำเข้าจากประเทศที่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากเวเนซุเอลา

บทสรุป :

ภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯจะเก็บจากไทยนั้นคงจะเลี่ยงไม่ได้ แต่ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันโดยด่วน ก่อนที่จะสายเกินไป 

เมษายนมาพร้อมกับอากาศร้อนแต่โชคดีที่อุณหภูมิการเมืองของไทยได้ลดลงบ้างแล้ว

หลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ผ่านพ้นไป ฝ่ายค้านซึ่งตรวจสอบผู้บริหารได้ทำหน้าที่สุดความสามารถ เช่นเดียวกับฝ่ายรัฐบาลที่อธิบายชี้แจงตอบโต้ไปเต็มที่เช่นกัน ทั้งสองฝ่ายได้ทุนคะแนนนิยมเตรียมไว้เพื่อการเลือกตั้งครั้งต่อไปแล้ว

อยากเห็นการทำงานร่วมมือกันโดยทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งการเมืองทั้งสองขั้ว ประสานงานกันฝ่าฟันวิกฤตสงครามการค้าที่กำลังมาในช่วงสงกรานต์ครับ