การลงทุนช่วงที่เหลือของปี 2567 SET Index พร้อมรึยัง?
ตลาดหุ้นไทยในตอนนี้ถือได้ว่ามีความพร้อมมากพอสมควรที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ จากปัจจัยสนับสนุนทางเศรษฐกิจ ปัจจัยสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์ ปัจจัยจากมาตรการส่งเสริมการลงทุนในตลาดทุนไทย เชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวทั้งหมดพร้อมแล้วที่จะดึง SET Index กลับขึ้นมายืนและวิ่งไปข้างหน้าต่อได้
ภาวะตลาดหุ้นไทยในปีนี้ถือว่าตามหลังตลาดหุ้นหลาย ๆ แห่งในโลกอยู่ค่อนข้างมาก โดย SET Index ในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม 2567 ปิดที่ระดับ 1,289.84 จุด ลดลง 2.35% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า โดยปรับลดลงมาทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบเกือบ 4 ปี จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอย หลังตัวเลขว่างงานแย่กว่าคาด รวมถึงแรงกดดันจากแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศมีโอกาสชะงักจากสถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 : 4 ให้นายเศรษฐา สิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรี และให้คณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะด้วย ส่งผลให้ตลาดหุ้นมีความผันผวน โดยนักลงทุนกังวลตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศเติบโตน้อยกว่าคาดจากภาวะสุญญากาศทางการเมือง
โดยส่วนตัวมองว่าสถานการณ์การเมืองในบ้านเรายังมีความไม่แน่นอนอยู่ แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่านักลงทุนจะเริ่มคลายความกังวลลงบ้างแล้ว โดยตลาดหุ้นได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลังจากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และจะเริ่มจัดตั้งคณะรัฐมนตรีในลำดับถัดไป ส่วนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเดิมที่ได้มีการพูดถึงเป็นอย่างมาก คือ เรื่อง Digital Wallet ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามว่าจะยังสามารถดำเนินการตามแผนงามเดิม หรือจะรื้อทำใหม่ พวกเราคงต้องรอให้มีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เสร็จสิ้นก่อน เพราะจะมีผลโดยตรงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าพอสมควร โดยเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้มีความชัดเจนมากขึ้นเท่าใด เศรษฐกิจไทยและอนาคตตลาดหุ้นจะมีความชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น
ถ้าให้พูดถึงภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้คงต้องบอกว่า วันนี้ตลาดหุ้นไทยอยู่ในสภาวะที่เปรียบเสมือนมีหลายคน หลายฝ่ายกำลังเตรียมฉุดดึงกลับขึ้นมา ให้สามารถกลับมายืนด้วยขาตัวเองได้อีกครั้ง หลังจากหกล้มคลุกคลานมาสักระยะ ทั้งจากมาตรการกำกับการซื้อขายในตลาดหุ้น Uptick Rule โดยอ้างอิงจากเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ มาตรการนี้ช่วยป้องกันการขายชอร์ตที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจทำให้ราคาหุ้นลดลงอย่างผิดปกติและสร้างความเสียหายแก่นักลงทุน ลดปริมาณ Short Selling อย่างเห็นได้ชัด การกลับมาของกองทุนวายุภักษ์ที่คาดว่าจะระดมเงินทุนเข้าตลาดหุ้นได้หลัก 1-1.5 แสนล้านบาท ที่เปรียบเหมือนแรงผลักในระยะสั้น
ประกอบกับการปรับเปลี่ยนเกณฑ์การลงทุนหุ้นในกองทุน ThaiESG ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น การกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจากมาตรการ Digital Wallet และการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ที่จะช่วยให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯ มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสัญญานเชิงบวกที่ตลาดหุ้นกำลังจะได้รับในช่วงที่เหลือของปีนี้
แม้ว่า SET Index จะปรับตัวลงมาทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบเกือบ 4 ปี ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจากสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนั้น เป็นการเปิดความเสี่ยงในทิศทางขาลงให้กับตลาดหุ้นไทย ผู้เขียนมองว่าด้วยสถานการณ์การเมืองในประเทศมีพัฒนาการที่ดีขึ้น นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลจากปัจจัยดังกล่าว ตลาดหุ้นไทยในตอนนี้ถือได้ว่ามีความพร้อมมากพอสมควรที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ จากปัจจัยสนับสนุนทางเศรษฐกิจ ปัจจัยสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์ ปัจจัยจากมาตรการส่งเสริมการลงทุนในตลาดทุนไทย เชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวทั้งหมดพร้อมแล้วที่จะดึง SET Index กลับขึ้นมายืนและวิ่งไปข้างหน้าต่อได้