จัดการค่าเงินบาท พร้อมสร้างโอกาสทำกำไร ด้วย Currency Futures

ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนมากขึ้น เนื่องมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ย นโยบายการเงิน และเหตุการณ์ระหว่างประเทศ จึงส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจระหว่างประเทศในด้านต้นทุนและกำไร เช่นเดียวกับผู้ที่มีการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศก็จะได้รับผลกระทบต่อผลตอบแทนสุทธิที่จะได้รับ โดยหากลองพิจารณาอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB ในช่วงที่ผ่านมาเป็นตัวอย่าง จะเห็นได้ว่าค่าเงินบาทเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นถึง 13% ภายในระยะเวลาแค่ 6 เดือน จาก 36.36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 1 เมษายน 2567 มาเป็น 32.29 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 30 กันยายน 2567

การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ ส่งผลต่อผลกำไรขาดทุนของผู้ที่มีรายได้หรือต้นทุนเป็นเงินตราต่างประเทศเป็นอย่างมาก เช่น หากเป็นธุรกิจส่งออก ถึงแม้จะมียอดขายที่เป็นเงินดอลลาร์ฯ เท่าเดิม แต่เมื่อแลกกลับมาเป็นเงินบาทก็จะมีมูลค่าลดลงถึง 13% ส่งผลให้กำไรลดลงตาม หรือหากเป็นผู้ที่มีการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงเวลาเดียวกัน ผู้ลงทุนควรจะได้รับกำไร 11% (อ้างอิงจากดัชนี Nasdaq) แต่เมื่อรวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเข้าไปด้วยแล้ว กลายเป็นว่าผู้ลงทุนจะขาดทุน 2% ดังนั้น การจัดการค่าเงินจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะมีผลต่อกำไรขาดทุนสำหรับผู้ประกอบการและมีผลต่อผลตอบแทนสุทธิจากการลงทุนของผู้ลงทุนอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ค่าเงินมีความผันผวนสูง

โดยปกติแล้วการจัดการความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน สามารถทำได้ด้วยการล็อกอัตราแลกเปลี่ยนไว้ล่วงหน้าด้วยการทำธุรกรรมฟอร์เวิร์ดกับธนาคาร ซึ่งเป็นการทำสัญญาที่ตกลงว่าจะแลกเงินกันในอนาคตด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่ปัจจุบัน ซึ่งวิธีนี้มีข้อจำกัดคือผู้ทำธุรกรรมจะต้องมีวงเงินกับธนาคารและสัญญาที่ทำจะต้องมีขนาดใหญ่พอสมควร อย่างไรก็ตาม มีอีกทางเลือกที่หลายท่านอาจจะยังไม่ค่อยรู้จัก คือ การใช้ Currency Futures ใน TFEX ซึ่งทุกคนสามารถซื้อขายได้โดยไม่ต้องมีวงเงินกับธนาคาร

นอกจากนี้ Currency Futures ยังเป็นสัญญามาตรฐานที่กำหนดขนาดสัญญาและวันหมดอายุชัดเจน และสัญญายังมีขนาดเล็ก เช่น USD/THB Futures มีขนาดเพียง 1,000 USD จึงนับว่าเป็นทางเลือกในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เข้าถึงได้ง่าย

นอกจากนี้ ผู้ลงทุนยังสามารถใช้ Currency Futures เพื่อสร้างผลกำไรจากความผันผวนของค่าเงินได้ โดยการซื้อขาย Currency Futures ใน TFEX มีความน่าเชื่อถือเพราะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. และ พ.ร.บ. สัญญาซื้อขายล่วงหน้า และยังได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย อีกทั้งยังลงทุนได้โดยใช้เงินบาท ไม่ต้องแลกเป็นเงินตราต่างประเทศ นอกจากนี้ หากเทียบกับการแลกเงินจากธนาคารหรือร้านรับซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมาเก็บไว้เพื่อเก็งกำไร Currency Futures ก็มีข้อได้เปรียบตรงที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มตามมูลค่าสัญญาในการซื้อขาย แต่ใช้การวางหลักประกันในอัตราที่กำหนด เช่น USD/THB Futures ซึ่งมีขนาดสัญญาประมาณ 33,000 บาท แต่ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นสำหรับวางหลักประกันขั้นต้นประมาณ 1,000 บาทเท่านั้น ผู้ลงทุนจึงสามารถใช้ USD/THB Futures เพิ่มความสามารถในการลงทุนให้เพิ่มขึ้นจากเงินลงทุนที่มี

นอกจาก Currency Futures ใน TFEX จะมีคู่สกุลเงิน USD/THB แล้ว ยังมี EUR/USD และ USD/JPY และในเดือนพฤศจิกายน 2567 นี้ จะเพิ่มคู่สกุลเงิน EUR/THB และ JPY/THB เข้ามาอีกด้วย ซึ่งจะทำให้มี Currency Futures ทั้งหมด 5 คู่สกุลเงิน ครอบคลุมสกุลเงินหลักจากทั้งภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ช่วยเพิ่มความหลากหลายของเครื่องมือให้ผู้ประกอบการและผู้ลงทุน ในการบริหารความเสี่ยงและสร้างโอกาสลงทุนได้กว้างขวางยิ่งขึ้น ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Currency Futures ได้ที่ www.tfex.co.th