จัดพอร์ตรับปี 2568 (ต่อ)

จัดพอร์ตรับปี 2568 (ต่อ)

ดยรวม ปีหน้าหุ้นทุน โดยเฉพาะหุ้นต่างประเทศและหุ้นเทคโนโลยี ยังมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนดีต่อไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน ผู้ลงทุนต้องระมัดระวังความผันผวนของราคาหุ้น และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเป็นพิเศษ

ในคราวที่แล้ว เนื่องจากมีข้อจำกัดของพื้นที่ จึงไม่สามารถแสดงตารางรายละเอียดของน้ำหนักการจัดพอร์ตที่แนะนำสำหรับปีหน้าได้ ซึ่งอาจเป็นข้อดี เพราะในสัปดาห์นี้ จะขอนำรายละเอียดของการจัดพอร์ตสำหรับปี 2568 มาเสนอพร้อมกับขอปรับปรุงน้ำหนักการลงทุนเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า

จัดพอร์ตรับปี 2568 (ต่อ)

การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อาจส่งผลต่อการลงทุนและตลาดเงินในหลายด้าน เช่น นโยบายภาษี การกีดกันทางการค้า และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่งผู้ลงทุนต้องติดตามข่าวสารและวิเคราะห์ผลกระทบเป็นระยะๆ เพื่อปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปค่ะ

การเปลี่ยนแปลงหลักๆที่กระทบคำแนะนำในการลงทุนที่ดิฉันนำเสนอไปก่อนการเลือกตั้งสหรัฐคือ ตลาดทุนจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้น เดิมคาดว่าตลาดเกิดใหม่จะกลับมาคึกคัก และดอลลาร์สหรัฐอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่า ในขณะที่ตลาดหุ้นของสหรัฐจะให้ผลตอบแทนในอัตราที่ลดลง ณ ขณะนี้คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐ โดยดัชนี S&P500 และ NASDAQ จะคงความคึกคักต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง ในขณะที่ตลาดเกิดใหม่อาจจะไม่มีเงินลงทุนไหลเข้ามากเท่าที่คาดการณ์ไว้แต่เดิม

นอกจากนี้ ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนก็จะผันผวนไปตามค่าเงินดอลลาร์ที่จะผันผวนตามนโยบายใหม่ๆ (และเก่าๆที่จะนำกลับมาใช้อีก) ของว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์

พอร์ตที่แนะนำและปรับปรุงแล้ว จะมีการย้ายสัดส่วนการลงทุนในหุ้นทุนไทย ไปยังหุ้นทุนต่างประเทศเล็กน้อย ปรับเพิ่มอัตราผลตอบแทนของหุ้นต่างประเทศจาก 10% เป็น 12% คงการคาดการณ์อัตราผลตอบแทนของหุ้นไทยเหมือนเดิมที่ 8% แต่ปรับเพิ่มค่าความผันผวนของหุ้นไทยจาก 13% เป็น 15%

พอร์ตอนุรักษนิยม (Conservative) แนะนำให้ลงทุนใน พันธบัตรและหุ้นกู้ 50% ลงทุนในตลาดเงินหรือฝากเงิน 21% หุ้นทุนต่างประเทศ 10% หุ้นไทย 8% อสังหาริมทรัพย์ (โลก) 8% และทองคำ 3% พอร์ตนี้มีผลตอบแทนที่คาดหวัง 4.5% และคาดการณ์ค่าความผันผวน 6.61%

พอร์ตเสี่ยงปานกลาง (Moderate Risk) แนะนำให้ลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้ 40% ลงทุนในตลาดเงินหรือฝากเงิน 19% ลงทุนหุ้นต่างประเทศ 17% อสังหาริมทรัพย์ 10% หุ้นไทย 8% ทองคำ 4% และโภคภัณฑ์ 2% มีผลตอบแทนที่คาดหวัง 5.37% โดยคาดการณ์ค่าความผันผวน 7.89%

พอร์ตเสี่ยงได้เพิ่ม (Higher Risk) แนะนำให้ลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้ 30% ลงทุนในตลาดเงินหรือฝากเงิน 16% ลงทุนหุ้นต่างประเทศ 25% อสังหาริมทรัพย์ 12% หุ้นไทย 10% ทองคำ 4% และโภคภัณฑ์ 3% มีผลตอบแทนที่คาดหวัง 6.33% โดยคาดการณ์ค่าความผันผวน 9.3%

พอร์ตเสี่ยงได้สูง (Aggressive) แนะนำให้ลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้ 25% ลงทุนในตลาดเงินหรือฝากเงิน 10% ลงทุนหุ้นต่างประเทศ 30% อสังหาริมทรัพย์ 12% หุ้นไทย 15% ทองคำ 5% และโภคภัณฑ์ 3% มีผลตอบแทนที่คาดหวัง 7.19% โดยคาดการณ์ค่าความผันผวน 10.7%

พอร์ตเสี่ยงได้สูงมาก (Super Aggressive) แนะนำให้ลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้ 20% ลงทุนในตลาดเงินหรือฝากเงิน 10% ลงทุนหุ้นต่างประเทศ 35% อสังหาริมทรัพย์ 10% หุ้นไทย 15% ทองคำ 5% และโภคภัณฑ์ 5% มีผลตอบแทนที่คาดหวัง 7.67% โดยคาดการณ์ค่าความผันผวน 11.3%

สมมุติฐานผลตอบแทนและค่าความเสี่ยง:

· ตลาดเงินและเงินฝาก 1.6% ค่าความเสี่ยง 0%

· พันธบัตรและหุ้นกู้ 3.25% ค่าความเสี่ยง 5%

· อสังหาริมทรัพย์โลก 6% ค่าความเสี่ยง 12%

· หุ้นไทย 8% ค่าความเสี่ยง 15%

· หุ้นต่างประเทศ 12% ค่าความเสี่ยง 15%

· ทองคำ 10% ค่าความเสี่ยง 15%

· โภคภัณฑ์และอื่นๆ คาดการณ์ผลตอบแทน 8% ค่าความเสี่ยง 17%

สรุปโดยรวม ปีหน้าหุ้นทุน โดยเฉพาะหุ้นต่างประเทศและหุ้นเทคโนโลยี ยังมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนดีต่อไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน ผู้ลงทุนต้องระมัดระวังความผันผวนของราคาหุ้น และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเป็นพิเศษค่ะ