จีนปรับกลยุทธ์ ฟื้นเศรษฐกิจผ่านพลังการบริโภคครั้งใหญ่

จีนปรับกลยุทธ์ ฟื้นเศรษฐกิจผ่านพลังการบริโภคครั้งใหญ่

ตลาดหุ้นจีนปี 2025 นี้เริ่มมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่องจากภาพเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น มาตรการจากภาครัฐที่มุ่งมั่นพลิกฟื้นเศรษฐกิจอย่างชัดเจน และมูลค่าหุ้นที่ไม่แพง โดยปัจจุบันหุ้นจีน (MSCI China) ซื้อขายบนระดับ Forward P/E เพียง 11.2 เท่า ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำกว่ากลุ่มตลาดเกิดใหม่

จีนอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหลังรัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เน้นพลังการบริโภคภายในประเทศอย่างครอบคลุม ควบคู่กับการสนับสนุนภาคธุรกิจที่สำคัญเพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนให้สามารถต้านทานภาวะสงครามการค้าที่คุกรุ่นได้ 

จีนปรับกลยุทธ์ ฟื้นเศรษฐกิจผ่านพลังการบริโภคครั้งใหญ่

ในการประชุมสองสภา (Two Sessions Meeting) ของจีนเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนตั้งเป้าหมาย GDP ของจีนปีนี้ที่ 5% เท่ากับปี 2024 แต่ที่น่าสนใจคือการประกาศใช้งบประมาณขาดดุลเพิ่มขึ้นจากอัตราปกติที่มักตั้งไว้ไม่เกิน 3% เป็นอัตรา 4% ของ GDP คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5.7 ล้านล้านหยวน ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี บ่งชี้ถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลจีนที่จะอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจีนให้ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย นอกจากนี้ ยังได้ประกาศแผนกระตุ้นการบริโภคครั้งใหญ่ผ่าน 30 นโยบาย ครอบคลุมตั้งแต่การเพิ่มขีดความสามารถในการบริโภคของประชาชนจีนผ่านการปรับขึ้นอัตราการค่าจ้าง การช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน การปรับเพิ่มรายการสินค้าสำหรับโครงการสินค้าเก่าแลกใหม่ (Trade-In Program) ไปจนถึงการสนับสนุนกลุ่มธุรกิจไฮเทค เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และกลุ่มสินค้าออนไลน์ (E-Commerce)

การประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนในรอบนี้ที่มุ่งเน้นภาคการบริโภคอันเป็นสัดส่วนหลักกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP จีนเป็นสิ่งที่สะท้อนเป้าหมายของรัฐบาลจีนในการลดการพึ่งพิงรายได้จากนอกประเทศอย่างชัดเจน และคาดว่าจะเป็นนโยบายที่จะช่วยให้เศรษฐกิจจีนยังขยายตัวได้ท่ามกลางการตั้งกำแพงภาษีการค้าจากสหรัฐฯที่ยังคงร้อนแรง และหากพิจารณาที่ผลกระทบจากประเด็นการตั้งกำแพงภาษีทางการค้าจากสหรัฐฯ จะพบว่าแม้จีนจะเป็นเป้าหมายการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯมาโดยตลอด แต่ปัจจุบันจีนพึ่งพิงการส่งออกไปยังสหรัฐฯในอัตราที่ค่อนข้างต่ำ คิดเป็นเพียง 2% ของ GDP จีนเท่านั้น การเน้นพลังการบริโภคลดการพึ่งพิงรายได้จากต่างประเทศจึงนับเป็นนโยบายที่เรียกว่ามาถูกทางสำหรับจีน

นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทางการจีนปรับใช้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมาสะท้อนผ่านตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่อยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น โดยล่าสุดตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือนมี.ค. ออกมาขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งภาคการผลิตและภาคการบริการ โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตขยายตัวที่ระดับ 50.5 ถือเป็นการขยายตัวที่ดีที่สุดในรอบ 1 ปี ในขณะเดียวกันปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนเริ่มมีทิศทางที่บรรเทาลงเช่นกันสะท้อนจากราคาขายบ้านใหม่ใน 70 เมืองใหญ่ของจีนแม้จะยังปรับตัวลงแต่เป็นไปในอัตราที่ชะลอลง โดยเดือนก.พ.ปรับตัวลง -4.8% จาก -5% ในเดือน ม.ค. และถือเป็นการปรับตัวลงที่น้อยที่สุดตั้งแต่เดือน มิ.ย.ปี 2024

ในด้านตลาดหุ้นจีนปี 2025 นี้เริ่มมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่องจากภาพเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น มาตรการจากภาครัฐที่มุ่งมั่นพลิกฟื้นเศรษฐกิจอย่างชัดเจน และมูลค่าหุ้นที่ไม่แพง โดยปัจจุบันหุ้นจีน (MSCI China) ซื้อขายบนระดับ Forward P/E เพียง 11.2 เท่า ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำกว่ากลุ่มตลาดเกิดใหม่ (MSCI Emerging Market) ที่ซื้อขายด้วยระดับ Forward P/E 12 เท่า ทำให้หุ้นจีนยังคงมี Upside และคาดว่าจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องในระยะถัดไป

ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นพลังการบริโภคของจีนและการสนันสนุนภาคธุรกิจโดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจากรัฐบาลจีน ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญและคาดว่าจะส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนเป็นตลาดหุ้นที่แข็งแกร่งและยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ท่ามกลางภาวะสงครามการค้าที่เข้มข้นในปีนี้