ทัศนศึกษาปลอดภัยต้องมาก่อน

เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2567  รถบัสทัศนศึกษาครั้งนี้มาด้วยกันทั้งหมด 3 คัน คันที่เกิดเหตุลักษณะเป็นรถ 2 ชั้น ด้านล่างเป็นห้องโถง ด้านบนเป็นส่วนโดยสารหลัก สาเหตุที่ไฟไหม้ จากคลิปหรือวิดีโอที่เผยแพร่ เบื้องต้นสันนิษฐานว่ายางล้อหน้าระเบิด ทำให้เสียหลักไปชนเข้ากับแบริเออร์จนเกิดไฟลุกไหม้ประกอบกับด้านล่างมีแก๊ส CNG เป็นเชื้อเพลิง ทำให้เพลิงลุกลามจนนำมาซึ่งความสูญเสียดังกล่าว

โซเชียลมีเดียต่างแสดงความเสียใจติดแฮชแท็ก #ไฟไหม้รถบัส ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์(X) อันดับ 1 นักวิชาการในภาคส่วนต่างๆ “เรียกร้องมีให้ยกเลิกการพาเด็กอนุบาลไปทัศนศึกษา มูลนิธิเป็นหนึ่ง จะยื่นหนังสือถึงกระทรวงศึกษาธิการขอให้ยกเลิกการนำนักเรียนไปทัศนศึกษานอกสถานศึกษา ซึ่งตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 กำหนดทัศนศึกษาทั้ง 3 ประเภท คือ 1) การพาไปนอกสถานศึกษาไม่พักแรม 2) การพาไปนอกสถานศึกษาพักแรม และ 3) การพาไปนอกราชอาณาจักร จะต้องเป็นไปตามความสมัครใจของนักเรียนและนักศึกษา โดยความยินยอมของผู้ปกครอง

ที่สำคัญการไปนอกสถานศึกษาทุกประเภทต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในการเดินทางและการพักแรมเป็นอันดับแรก เส้นทางที่จะเดินทาง ยานพาหนะที่จะใช้ในการเดินทาง ต้องอยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง พนักงานขับรถหรือผู้ควบคุมยานพาหนะที่มีความรู้ความชำนาญด้วย ใช้รถโดยสารไม่ต่ำกว่า 40 ที่นั่ง จำนวน 3 คันขึ้นไป มีรถนำขบวน  จัดให้มีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นประจำรถ และดูแล นักเรียนและนักศึกษาที่มีโรคประจำตัวเป็นพิเศษ แม้ว่าจะมีระเบียบกำหนดชัดเจนทว่าเหตุการณ์ข้างบนก็เกิดขึ้นอยู่เนืองๆ

ผู้ประกอบการเจ้าของบริษัทรถทัวร์นำเที่ยวยืนยันว่า รถคันเกิดเหตุผ่านการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย 2 ครั้งต่อปีทุกครั้งก่อนต่อภาษีกับกรมการขนส่งทางบก ถังเชื้อเพลิงแก๊ส NGV ในตัวถังรถมีมาตรฐานความปลอดภัยและมีระบบเซฟตี้ฉุกเฉินเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ติดตั้ง GPS ควบคุมความเร็วรถ ประกอบกิจการมากว่า 40 ปีไม่เคยเกิดเหตุ คำถามคือแล้วเหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร มีการเข้มงวดมาตรฐานพนักงานขับรถ วัสดุลามไฟ อุปกรณ์ป้องกันภายในรถมากน้อยแค่ไหน  ผู้โดยสารจะรอดชีวิตจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในรถบัสได้หรือไม่ หากเป็นเด็กเล็กจะช่วยเหลือตัวเองได้อย่างไร

ไม่อยากให้เกิดภาพ “นายกรัฐมนตรี-แพทองธาร ชินวัตร” เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจที่โรงพยาบาลพร้อมแสดงแสดงความเสียใจและเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต ตลอดจนการออกเรียกร้องให้ยกเลิกการนำนักเรียนไปทัศนศึกษานอกสถานศึกษา หรือ “กรมสุขภาพจิต” ขอความร่วมมือ “ร่วมเคารพสิทธิเด็ก งดการแชร์ภาพ คลิปผู้เสียชีวิต” เนื่องจากอาจก่อความกระทบกระเทือนทางจิตใจต่อญาติและผู้เกี่ยวข้อง ทำอย่างไรที่ถึงร่วมกันรับผิดชอบและตระหนักถึง “ชีวิตและความปลอดภัย” ของผู้ใช้บริการ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียซ้ำๆกันเกิดขึ้นอีก