ตันเจริญรุ่น 3 “มดดำ” รับไม้ต่อ “สุชาติ” ปิดฉากบ้านริมน้ำ
ปิดฉากบ้านริมน้ำยุคเก่า “มดดำ คชาภา” รับไม้ต่อจาก สุชาติ ตันเจริญ อุ้มน้องชาย-มดเล็ก เข้าสู่ชายคาชินวัตร
การเมืองเปลี่ยน สนามแปดริ้ว ตู่-ป้อมขายยาก อุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทยมาแรง สุชาติ ตันเจริญ จึงเกาะหลัง “มดดำ คชาภา” รีเทิร์นบ้านจันทร์ส่องหล้า
วันที่พรรคเพื่อไทย เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบน สื่อทุกสำนักโฟกัสไปที่ มดดำ-คชาภา ตันเจริญ ที่มาให้กำลังใจน้องชาย-มดเล็ก-ศักดิ์ชาย ตันเจริญ ที่แสดงเจตจำนงจะลงสมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา
จะว่าไปแล้ว มดคชาภา ไม่ใช่คนแปลกหน้าของแกนนำพรรคเพื่อไทย เนื่องจากการเลือกตั้งสมัยที่แล้ว มดดำก็สมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักชาติ และรับบทกองเชียร์พรรค ทษช.
อีกด้านหนึ่ง มดดำกับโอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร ก็เป็นเพื่อนรักกันมานาน และยังเป็นลูกรักของมาดามแจ๋น-พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสาน งาน ด้านการเมืองพื้นที่ กทม. พรรคเพื่อไทย
แม้มดดำจะบอกกับนักข่าวว่า วันนี้มา “ส่งน้อง” และอนาคตเส้นทางการเมือง ยังเป็นศูนย์ แต่ความจริง มดดำกำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทางการเมืองของตระกูล “ตันเจริญ”
วันนั้นที่พรรคเพื่อไทย นักข่าวถามเรื่องพ่อสุชาติ มดดำตอบทันทีว่า “เดี๋ยวมาส่งเองฮะ” สำทับด้วยมดเล็ก-ศักดิ์ชาย ที่บอกว่า “เดี๋ยวเขาก็มาพร้อมมดดำ”
สรุปว่า สุชาติ ตันเจริญ ได้ตัดสินใจเลือกเส้นทางการเมืองใหม่ ด้วยการหวนคืนสู่ร่มเงาบ้านจันทร์ส่องหล้า และอำลาบ้านป่ารอยต่อฯเป็นที่เรียบร้อย
ดิ้นเฮือกสุดท้าย
สำหรับคนที่รู้จักครอบครัวตันเจริญ จะทราบดีว่า สายใยรักและความผูกพันของสุชาติ-มดดำ พ่อลูกคู่นี้ลึกซึ้งกว่าที่หลายคนคิดและมองเห็นจากภาพภายนอก
สุชาติ ตันเจริญ อาจมีภาพลักษณ์นักการเมืองโบราณ แต่การที่ลูกชายคนโต อย่างมดดำ เป็นพิธีกรรายการวิทยุและทีวีชื่อดัง ได้เสริมส่งพ่อสุชาติ ให้เป็นที่รู้จักของคนรุ่นหลัง ในสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่อออนไลน์ มักจะพาดหัวว่า “พ่อมดดำ” แทนคำว่า “ตี๋กร่าง” ที่เป็นภาพลบ
การเลือกตั้ง ส.ส.ฉะเชิงเทรา ปี 2562 สุชาติ ตันเจริญ หวนกลับมาลงสมัคร ส.ส.เขต 3 (อ.ท่าตะเกียบ อ.สนามชัยเขต และอ.พนมสารคาม) อีกครั้ง เพราะวาดหวังจะเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อศักดิ์ศรีของวงศ์ตระกูล
การสวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐ กลายเป็นจุดอ่อนของสุชาติอยู่ที่ อ.สนามชัยเขต และ อ.ท่าตะเกียบ เพราะมีคนอีสานพลัดถิ่นอาศัยอยู่เยอะ จึงเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย
ฉะนั้น ในวันปราศรัยใหญ่ที่ อ.สนามชัยเขต สุชาติ จึงขอให้มดดำไปขึ้นเวทีพลังประชารัฐ อ้อนคนเสื้อแดงให้เลือกสุชาติ และก่อนวันเลือกตั้ง 22 มี.ค.2562 สุชาติได้ไปออกทีวีร่วมกับลูกชาย-มดดำ เป็นครั้งแรกในรายการวาไรตี้ทางช่องวัน
คืนนั้น สุชาติเปิดใจว่า “รู้สึกปลื้มใจ ไปไหนมาไหน คนเรียกพ่อมดดำ เพราะเราก็ห่างเหินการเมืองไปนานหลายปี คนก็ลืมๆไปบ้าง พอไปปราศรัย ชาวบ้านก็เรียก พ่อมดดำ แฉแต่เช้า”
หลังประกาศผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ มดดำโพสต์แสดงความยินดีกับพ่อสุชาติ ที่ชนะเลือกตั้ง “ถึงแม้จะมีอุดมการทางการเมืองที่แตกต่างกันออกไป แต่สายใยรักและความผูกพันของครอบครัวถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
ผ่านไป 4 ปี มดดำ-คชาภา โพสต์ภาพคู่พ่อสุชาติ ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมบอกว่า พ่อขอให้ลงสมัคร ส.ส.แทน แต่เจ้าตัวบอกขอพ่อใจเย็นๆ ขอคิดดูก่อน
อวสานบ้านริมน้ำ
คำว่า “ซุ้มบ้านริมน้ำ” ของสุชาติ ตันเจริญ เกิดขึ้นมาในยุคพรรคไทยรักไทย ที่มีซุ้ม ส.ส.ผุดขึ้นมาปานดอกเห็ด สุชาติ ก็ได้รวบรวม ส.ส.อีสานจำนวนหนึ่ง และนักการ เมืองท้องถิ่นแถวอีสานเหนือมาอยู่ในสังกัด
สมัยเลือกตั้งปี 2550 มี ส.ส.ซุ้มบ้านริมน้ำ ในสีเสื้อพรรคเพื่อแผ่นดิน มากกว่า 7 คน แต่เลือกตั้ง 2554 ซุ้มบ้านริมน้ำย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย พ่ายกระแสยิ่งลักษณ์ สอบตกหมด
การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว สุชาติ พาอดีต ส.ส. และนักการเมืองท้องถิ่นซุ้มบ้านริมน้ำ ไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ปรากฏว่า สุชาติ ได้เป็น ส.ส.คนเดียว ส่วนคนอื่นแพ้พรรคเพื่อไทยเรียบ
ปัจจุบัน สภาพซุ้มบ้านริมน้ำ ไม่เหลืออดีต ส.ส.อยู่ในสังกัด อย่าง พิกิฏ ศรีชนะ และเวียง วรเชษฐ์ ได้ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย ส่วนอดีตนายก อบจ.อีสานเหนือ 5 จังหวัดก็ไปอยู่พรรคสร้างอนาคตไทย และพรรคเพื่อไทย
เท่ากับว่า ซุ้มบ้านริมน้ำของสุชาติ ปิดฉากไปโดยปริยาย และเปิดทางให้สุชาติ หอบหิ้วลูกๆ ไปสังกัดพรรคเพื่อไทย ก่อนที่ตัวเองจะวางมือ
‘บ้านใหญ่พนมสารคาม’
60 ปีที่แล้ว ป่าพนมสารคาม มีอาณาเขตกว้างใหญ่ครอบคลุมหลายจังหวัด และได้ผ่านการทำไม้มาแล้ว โดยมีผู้รับสัมปทานทำไม้ คือ บริษัท เอื้อวิทยาพานิชย์ จำกัด จึงเกิดชุมชนคนทำไม้ที่บ้านโรงเลื่อยจักร ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
หลงจู๊วิเชียร หรือ วิเชียร ตันเจริญ คหบดีท้องถิ่นรับช่วงต่อการทำไม้จากเอื้อวิทยาฯ และทำโรงเลื่อย จึงเป็นที่รู้จักมักคุ้นของชาวบ้านทั้งใน อ.พนมสารคาม
ช่วงปี 2518-2526 ในเวทีการเมืองระดับชาติ หลงจู๊วิเชียรให้การสนับสนุน อนันต์ ฉายแสง นักการเมืองอาวุโส โดยตระกูลฉายแสง มีฐานเสียงสำคัญอยู่ในเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา ส่วนหลงจู๊วิเชียร มีเครือข่ายหัวคะแนนในพื้นที่ อ.พนมสารคาม และ อ.สนามชัยเขต
ปี 2529 สุชาติ ตันเจริญ เรียนจบจากเมืองนอกกลับมา หลงจู๊ใจบุญ ตัดสินใจส่งลูกชายลงสนามเลือกตั้งผู้แทนฯ ปี 2529 ในนามพรรคประชาธิปัตย์
ปีเดียวกัน ตระกูลฉายแสง ก็ส่ง จาตุรนต์ ฉายแสง ลงสมัคร ส.ส.สมัยแรกเช่นกัน ทั้งสุชาติ และจาตุรนต์ จึงเป็น ส.ส.ฉะเชิงเทรา พร้อมกันในสีเสื้อพรรค ปชป.
หลังจากนั้น สุชาติ กับจาตุรนต์ ต่างก็แยกย้ายไปตามวิถีการเมือง มีบางยุคบางสมัยก็โคจรมาสังกัดพรรคเดียวกัน เช่นปี 2539 พรรคความหวังใหม่ และปี 2548 พรรคไทยรักไทย
การเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นในปี 2566 ตระกูลตันเจริญ และตระกูลฉายแสง ได้กลับมาสวมเสื้อพรรคสีเดียวกันอีกครั้ง
เบื้องต้น พรรคเพื่อไทยวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา ดังนี้เขต 1 ฐิติมา ฉายแสง และเขต 4 วุฒิพงศ์ ฉายแสง ส่วนเขต 3 มดเล็ก-ศักดิ์ชาย ตันเจริญ น่าจะลงสมัคร ส.ส.เขตแทนพ่อสุชาติ
ส่วนเขต 2 ยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากคนเก่าแก่ของเพื่อไทย สมชัย อัศวชัยโสภณ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา กำลังเจรจากับมาดามแจ๋น และสุชาติ ตันเจริญ ว่าควรส่งใครลงเขตนี้
อนาคตบ้านมดดำ
กรณีนักการเมืองอาวุโส สุชาติ ตันเจริญ มีเหตุขัดแย้งกับลูกน้องเก่า สจ.เปี๊ยก-วรรณา รอดพิทักษ์ รองนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา คือการฉายภาพบารมีของพ่อมดดำ ในพื้นที่ อ.พนมสารคาม , อ.สนามชัยเขต และ อ.ท่าตะเกียบ กำลังถูกท้าทายและถูกลดทอน โดยกลุ่มการเมืองท้องถิ่นที่ชื่อ “กลุ่มแปดริ้วโฉมใหม่”
กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ในฐานะหัวหน้ากลุ่มแปดริ้วโฉมใหม่ ได้ประกาศส่ง ธรรมชาติ พรมพิทักษ์ อดีตประธาน ส.อบจ.ฉะเชิงเทรา ลงสมัคร ส.ส.เขต 3 โดยมี สจ.เปี๊ยก เป็นพี่เลี้ยง
ไม่ว่า พรรคเพื่อไทยจะส่ง มดเล็ก-ศักดิ์ชาย ตันเจริญ ลงสนาม หรือตัวสุชาติจะลงเอง ทีมแปดริ้วโฉมใหม่ ไม่ยอมถอยให้แน่ๆ
ลึกๆแล้ว สุชาติ คงอยากวางมือ แต่ก็ต้องการประคองลูกชาย-มดเล็ก ให้มีที่อยู่ที่ยืนในยุทธจักรแปดริ้ว อย่างน้อยได้เป็น ส.ส.ฉะเชิงเทรา
สุชาติ พยายามปูทางให้มดเล็ก ก้าวเดินไปบนถนนการเมืองท้องถิ่น เริ่มจากเป็น ส.อบจ.ฉะเชิงเทรา 3 สมัย และเป็นประธานสภา อบจ. 1 สมัย
ส่วนการขยับขึ้นเป็น ส.ส.ในพื้นที่เขต 3 ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะฐานคะแนนของตระกูลตันเจริญ ก็แปรพักตร์ไปอยู่กับฝ่ายตรงข้ามจำนวนไม่น้อย และทางเดียวที่จะเอาชนะในเขตนี้ได้ ก็ต้องสวมเสื้อเพื่อไทยลงสนาม
มดดำ-คชาภา จึงกลายเป็นความหวังของหมู่บ้าน ในการจะนำพาพ่อสุชาติ และน้องชาย-มดเล็ก เข้าสู่พรรคเพื่อไทย ดังที่ทราบกัน มดดำเคยเป็นสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ และทำหน้าที่ช่วยหาเสียง
จะว่าไปแล้ว มดดำเป็นเนื้อเดียวกับพรรคการเมืองของตระกูลชินวัตรมานานแล้ว จากนี้ไป มรดกการเมืองของตระกูลตันเจริญ ก็จะตกอยู่ที่ลูกชายคนโต ไม่มีแล้วซุ้มบ้านริมน้ำ มีเพียงบ้านมดดำ บนถนนการเมืองสายคนรุ่นใหม่