จับโป๊ะฮ่องกง “ทักษิณ” ศูนย์กลางจักรวาล พท.

กระแสอุ๊งอิ๊งมาแรงข้ามปี “ทักษิณ” ฟุ้งตั้งรัฐบาลใหม่ แต่ภายในพรรคยังเขม่นกันไม่เลิก “นักรบห้องแอร์” ปะทะนักการเมืองอาวุโส 

จะไม่ให้ ทักษิณ ชินวัตร ยินดีปรีดาส่งท้ายปี 2565 ได้อย่างไร เพราะเดือนสุดท้ายของปี มีแต่ข่าวดี ไล่มาตั้งแต่เรื่องหลุดบ่วงคดีจำนำข้าวภาค 2 พร้อมกับน้องสาว 2 คน และคะแนนนิยมของลูกสาวคนเล็กดีวันดีคืน

ล่าสุด วันที่ 25 ธ.ค.2565 นิด้าโพล เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 4/2565 (สำรวจ 17-22 ธ.ค.2565) ปรากฏว่า บุคคลที่ประชาชนสนับสนุนให้เป็นนายกฯ อันดับ 1 ร้อยละ 34.00 แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย, อันดับ 2 ร้อยละ 14.05 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ และอันดับ 3 ร้อยละ 13.25 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล

ดังนั้น อย่าได้แปลกใจว่า เที่ยวบินกรุงเทพฯ-ฮ่องกง ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะอัดแน่นไปด้วยคนเพื่อไทย ที่เดินทางไปฉลองชัยกับคนแดนไกลเป็นการล่วงหน้า

อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้โพสต์ ภาพถ่ายรูปคู่กับทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สองอดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างดินเนอร์กับครอบครัวที่ฮ่องกง ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @ingshin21 เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2565

ถัดมา ไม่กี่ชั่วโมงก็มีแหล่งข่าวจากเพื่อไทย ผลิตข่าวชิ้นหนึ่งว่า การเดินทางมาฮ่องกง ของทักษิณ เพื่อเคลียร์ปัญหาความไม่ลงตัวในการจัดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย

อันเนื่องจากแกนนำพรรคในกลุ่มนักรบห้องแอร์ และอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ต้องการให้คนรุ่นใหม่ อายุน้อยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต ส่วน ส.ส.อาวุโส หรืออดีต ส.ส. อายุมาก จะถูกจัดให้ ลงส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยที่ไม่แจ้งว่าจะให้อยู่ในอันดับใด

จากข่าวคนแดนไกลมาเคลียร์ปัญหาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทำให้ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ต้องออกมาชี้แจงว่า การเดินทางมาฮ่องกงของอดีตนายกฯทักษิณ เป็นการพักผ่อนกับครอบครัวในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาส และใกล้ถึงวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งเป็นกิจกรรมปกติในครอบครัวชินวัตร
ส่วนจะมีใครเดินทางไปสวัสดีและอวยพรปีใหม่ ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา และหากมีการพูดคุยถามไถ่เรื่องบ้านเมืองในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นห่วงบ้านเมืองก็ย่อมทำได้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมืองใด

นักรบห้องแอร์

มีข้อสังเกตว่า การปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย(พท.) เมื่อต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนใหม่เข้ามาเสริมและแทนตำแหน่งที่ว่าง อาทิ เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรค, ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค, กิตติ ลิ่มสกุล รองหัวหน้าพรรค, จิตติพจน์ วิริยะโรจน์ รองหัวหน้าพรรค และ ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ รองเลขาธิการพรรค

การเข้ามาของบุคคลเหล่านี้ จึงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการเปิดทางให้ทีมงาน “นักรบห้องแอร์” และคนใกล้ชิด “บ้านจันทร์ส่องหล้า” เข้ามายึดพรรค และมีบทบาทมากขึ้นกว่าเดิม

เหนืออื่นใด มาดามแจ๋น-พวงเพ็ชร ชุนละเอียด มีบทบาทเพิ่มขึ้น นอกจากเธอจะเป็นมือขวาเฮียเพ้ง-พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล มาดามแจ๋นก็เป็นผู้ที่ใกล้ชิดอุ๊งอิ๊ง เหมือนเงาตามตัว เรียกว่า อุ๊งอิ๊งไปที่ไหนก็จะมีมาดามตามไปด้วยทุกที่

จริงๆ แล้ว ประเด็นความขัดแย้งระหว่างอุ๊งอิ๊ง-นักรบห้องแอร์ กับนักการเมืองอาวุโสกลุ่มใหญ่ นับวันจะเผชิญหน้ากันมากขึ้น ไม่เฉพาะการจัดตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต หากยังรวมถึงการจัดอันดับรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ จะจัดวางกันแบบไหน ล้วนเป็นระเบิดเวลาภายในพรรคเพื่อไทย

รอยร้าวที่เมืองกาญจน์

การปรากฏตัวของ เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในการจัดตั้งสาขาพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 6 จ.กาญจนบุรี ก็ให้คำตอบชัดว่า ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เข้ามาสังกัดพรรคเพื่อไทยได้อย่างไร

วันนั้น เสริมศักดิ์ ได้แนะนำตัว ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 4 ซึ่งเสียงทักท้วงจาก จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. ก็ไร้ความหมาย

ดังที่รู้กัน ส.ส.จิรายุ กับศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ มีเรื่องบาดหมางกัน เมื่อฝ่ายหนึ่งเดินหน้าตรวจสอบ อีกฝ่ายหนึ่งไม่พอใจ ถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลกันมาแล้ว รวมถึงคู่กรณีของศักดิ์ดาอีกคนหนึ่งคือ อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร จะมองหน้ามองตากันอย่างไรในพรรคเพื่อไทย 

คนเก่าแก่ของเพื่อไทย จึงไม่แปลกใจที่เห็นชื่อ เสริมศักดิ์ ขยับเข้ามาเป็นรองหัวหน้าพรรค พร้อมกับแกนนำนักรบห้องแอร์

เลือดใหม่ไล่เลือดเก่า

กรณีเขต 3 และเขต 4 นครพนม ก็มีคนในพรรคเพื่อไทยพูดถึงกันเยอะ เมื่อ ส.ส.หญิงคนหนึ่งพยายามล็อบบี้ เปลี่ยนตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต โดยให้ ส.ส.อาวุโสขยับขึ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อเปิดทางให้คนหน้าใหม่ลงสมัครแทน

ว่ากันว่า ไพจิต ศรีวรขาน เขต 3 และชวลิต วิชยสุทธิ์ เขต 4 กำลังเจอคลื่นใต้น้ำ กดดันให้ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อไทย ด้วยเหตุผลที่ว่า อายุเยอะแล้ว หมดแพชชั่น ควรเปิดทางให้คนรุ่นใหม่ลง ส.ส.เขต

เวลานี้ สมนาม เหล่าเกียรติ อดีต ส.ว.นครพนม ได้เสนอตัวลงสมัคร ส.ส.เขต 3 แข่งกับ ไพจิต ศรีวรขาน ส.ส. 8 สมัย ซึ่งแกนนำพรรค ก็ยังไม่ได้เคาะว่าจะเลือกใคร

ส่วน ชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม เขต 4 ได้แจ้งผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊คว่า ได้ออกจากไลน์กลุ่ม ส.ส.เพื่อไทยแล้ว และเห็นชอบในการคัดสรรผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ส่วนตัวเขาเองยังไม่บอกว่า จะไปสังกัดพรรคใด

ผู้ที่เสนอตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย แทน ส.ส.ชวลิต ก็มีทั้ง สมชอบ นิติพจน์ อดีตนายก อบจ.นครพนม และชาญชัย คำจำปา นักการเมืองท้องถิ่นแถว อ.นาแก 

สำหรับผู้อยู่เบื้องหลังเกมเปลี่ยนตัวผู้เล่น จาก ส.ส.อาวุโสเป็นคนหนุ่มทั้ง 2 เขต ก็เป็น ส.ส.หญิงที่ใกล้ชิดแกนนำ

ศึกในอกเมืองขอนแก่น

อดิศร เพียงเกษ นักการเมืองอาวุโส พรรคเพื่อไทย ต้องลุ้นเหนื่อยในสนามขอนแก่น เขต 2 เพราะเขาต้องการสนับสนุน พัฒนา นุศรีอัน อดีตเกษตรและสหกรณ์จังหวัดขอนแก่น สวมเสื้อเพื่อไทยลงสนาม

บังเอิญว่า พงศกร อรรณนพพร อดีต ส.ส.ขอนแก่นหลายสมัย ได้เสนอ เอม-รัมภามาศ ทีฆธนานนท์ กรรมการผู้จัดการตลาดศรีเมืองทอง ลงสมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 ให้ทางพรรคได้พิจารณา

เดิมที พงศกร สมัยที่เป็นแม่ทัพพรรคไทยสร้างไทย วางตัวเอม-รัมภามาศ ลงสมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 พอย้ายกลับพรรคเพื่อไทย ก็พาลูกสาวเสี่ยอุ้ย เจริญศรี หรือ โกเมศ ทีฆธนานนท์ นายกเทศมนตรีตำบลเมืองเก่า มาเสนอตัวลงเขต 2 

จนถึงวันนี้ แกนนำเพื่อไทยก็ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ลงสมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 ระหว่างลูกสาวเสี่ยอุ้ย เจริญศรี กับคนสนิทของอดิศร เพียงเกษ

มีรายงานข่าวว่า เอม-รัมภามาศ มีโอกาสลุ้นมากกว่า ทนายขาว-พัฒนา นุศรีอัน เพราะฝ่ายหญิงมีทรัพยากรในการต่อสู้พร้อมพรัก และมีแพชชั่นแบบคนรุ่นใหม่ ตรงสเปคหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

ทำนองเดียวกัน ที่ร้อยเอ็ด เขต 1 ก็เป็นการต่อสู้ระหว่างคนรุ่นใหม่ กับอดีต ส.ส.ที่ถูกมองว่า หมดแพชชั่น ในสายตานักรบห้องแอร์

นั่นคือ สถาพร ว่องสัธนพงษ์ อดีตผู้สมัครนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ที่คว้า 9 หมื่นแต้ม ได้ลาออกจากคณะก้าวหน้า มาสังกัดพรรคเพื่อไทย เสนอตัวลงสมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 1 แข่งวราวงษ์ พันธุ์ศิลา อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด เพื่อไทย

พูดถึงวราวงษ์ พันธุ์ศิลา จะเสียเปรียบตรงที่สมัยที่แล้ว เขาพ่ายอนุรักษ์ จุรีมาศ พรรคชาติไทยพัฒนา แบบขาดลอย จึงถูกวิจารณ์ว่า หมดแพชชั่น และน่าจะสู้สถาพรไม่ได้ 

ดังนั้น คนแดนไกลจึงกลายเป็นศูนย์กลางจักรวาล สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในทุกเรื่อง และไม่แปลกที่ถนนทุกสาย จะมุ่งไปที่ฮ่องกงในเวลานี้