74 ปี 'ทักษิณ' อัศวิน 'ขวาใหม่' ขวัญใจอีลิท
อัศวินรีเทิร์น "ทักษิณ" กลายเป็นพระเอกของชนชั้นนำ เมื่อกองทัพสีส้ม "ก้าวไกล" ยึดกุมมวลชน 14 ล้านเสียง ขณะที่ฟากอนุรักษนิยมอ่อนแรงทั้งแนวรบ
หัวแถวฝ่ายขวา ‘ประยุทธ์’ ได้เสียงหนุนแค่ 4 ล้านกว่าเสียง จึงต้องวางมือ เปิดทางให้มีผู้นำปีกอนุรักษนิยมคนใหม่ มาต่อกรกับพลพรรคก้าวไกล
รัฐประหาร 19 ก.ย.2549 ทักษิณ ชินวัตร มีอายุ 57 ปี และผ่านมาถึงปีนี้ เขาจะมีอายุครบ 74 ปี ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ และนั่นคือเหตุผลที่เขาอยากกลับบ้าน
“ถ้ากลับไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่าง ได้กลับไปอยู่กับครอบครัวแล้ว มันก็จบทุกอย่าง” ทักษิณให้สัมภาษณ์ไว้ในหนังสื่อชื่อ Thaksin Shinawatra : Theory and Thought
“ผมเป็นประเภท let bygones be bygones เราอยู่กับปัจจุบันและอนาคต สิ่งที่มันผ่าน ไปแล้วเอาคืนไม่ได้ เราไม่สามารถ reverse the clock”
ก่อนวันเลือกตั้ง 9 พ.ค.2566 ทักษิณ ชินวัตร จึงประกาศเดินทางกลับไทย ภายในเดือน ก.ค.นี้ โดยให้เหตุผลว่า เขาตัดสินใจเอง “...ด้วยความผูกพันกับครอบครัว แผ่นดินเกิด และเจ้านายของเรา”
ระหว่างที่รอการเปิดประชุมรัฐสภา โหวตนายกรัฐมนตรี รอบที่ 2 วันที่ 19 ก.ค.2566ปรากฏว่า สถานการณ์ความสัมพันธ์ของเพื่อไทย-ก้าวไกล ไม่เหมือนเดิม มีรอยแตกร้าว และอาจจบด้วยการแยกทางกันเดิน
ขณะที่สำนักข่าวข่าวเอเชียไทม์ส ได้นำเสนอรายงานเกี่ยวกับผลโหวตเลือกนายกฯ รอบแรกของไทย สรุปว่า ความพ่ายแพ้ของพิธาและพรรคก้าวไทย ผลจากจุดยืนแข็งกร้าวในนโย บายปฏิรูปสถาบัน กำลังกลายเป็นชัยชนะของทักษิณ ชินวัตร ท่ามกลางสัญญาณประนีประ นอมระหว่างพรรคเพื่อไทยกับฝ่ายอนุรักษนิยม
เอเชียไทม์ส วิเคราะห์ว่า อีลิท หรือ ชนชั้นนำ มองวาระปฏิรูปหรือนโยบายก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล ไล่ตั้งแต่ปฏิรูปกฎหมายหมิ่นสถาบัน ยกเลิกการเกณฑ์ทหารและทลายทุนผูกขาด คือภัยคุกคามการอยู่รอดใหญ่หลวงกว่าทักษิณ
ศูนย์รวมทุนไทย
หลังจบศึกฟุตบอลโลกที่ฝรั่งเศส ได้แค่ 2 วัน ทักษิณ ชินวัตร ได้เปิดตัวพรรคไทยรักไทย ที่โรงแรมสยามซิตี้ พร้อมกับผู้ร่วมก่อตั้งพรรค 25 คน เมื่อ 14 ก.ค.2541
พรรคไทยรักไทย เกิดขึ้นมาภายใต้บริบทเศรษฐกิจการเมืองไทยช่วงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 โดยทักษิณ เป็นผู้นำพรรค และเวลานั้น เขาเป็นผู้มั่งคั่งจากเงินใหม่คือ ธุรกิจโทรคม นาคม ทั้งโทรศัพท์มือถือ และดาวเทียม มีพันธมิตรธุรกิจคือ สิงคโปร์
หลังชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2544 ทักษิณ กลายเป็นศูนย์รวมกลุ่มทุนไทย เป็นแม่เหล็กขั้วใหม่ มีกลุ่มทุนโทรคมนาคม, ทุนน้ำเมา,ทุนก่อสร้าง , ทุนธนาคาร ,ทุนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ได้เข้ามาสวามิภักดิ์กับทักษิณ
นักวิชาการเศรษฐศาสตร์สรุปว่า พรรคไทยรักไทย เป็นพรรคการเมืองที่เน้นทั้งนโยบายและความนิยมส่วนตัวของทักษิณเอง
ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน หากเปรียบเทียบกัน พรรคไทยรักไทย ต่างจากพรรคก้าวไกล ทั้งอุดมการณ์และนโยบาย โดยก้าวไกลยึดถืออุดมการณ์เสรีนิยมก้าวหน้า มีนโยบายปฏิรูปกองทัพ, ทลายทุนผูกขาด, แก้ไข ม.112 ฯลฯ
ดังนั้น ไม่น่าแปลกใจที่แกนนำเพื่อไทยกับก้าวไกล ในวันนี้ จะมีจุดยืนและท่าทีเกี่ยวกับประเด็นแก้ไข ม.112 ต่างกันฟ้ากับเหว
จุดยืนชินวัตร
หลังพรรคเพื่อไทย ประสบความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง ตกเป็นพรรคอันดับ 2 ทักษิณ ชินวัตร ได้มาวิเคราะห์การเมืองไทยผ่านรายการแคร์ทอล์ค เมื่อ 16 พ.ค.2566
ตอนหนึ่งมีคนถามทักษิณว่า จะลบภาพที่ด้อมส้มมองว่า เพื่อไทย ‘สู้ไปกราบไป’ ได้อย่างไร ทักษิณตอบชัด คำว่ากราบไป คืออะไร เพราะมันคือการเคารพสถาบัน โดยจุดยืนของครอบครัวชินวัตร คือเคารพ รักสถาบัน
“ใครจะว่าอะไรช่วยไม่ได้ เพราะผมเองเป็นอย่างนี้ ไม่ได้สู้เพื่อจะไปทำอะไรที่ไม่ดีต่อสถาบัน แต่สู้เพื่อเอาชนะทางการเมืองเท่านั้นเอง”
เมื่อ 17 ปีที่แล้ว ทักษิณเจ็บปวดที่สุดในชีวิต เพราะฝ่ายตรงข้ามปั้นเรื่องปฎิญญาฟินแลนด์ สร้างภาพให้เขาเป็นคนล้มเจ้า และเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้นำไปสู่การประท้วงครั้งใหญ่ และจบด้วยการทำรัฐประหาร 2549
ดังนั้น ในวันที่ก้าวไกลชนะ ด้วยนโยบายก้าวหน้าที่สุ่มเสี่ยง ทักษิณจึงพูดตรงไปตรงมาว่า
“...เราไม่ใช่เป็นขวาจัดตกขอบ เราถือว่าเราเป็นคนไทยเคารพในสถาบันพระมหากษัตริย์แค่นั้นเอง ชัดเจนครับ ไม่มีบิดพลิ้ว”
นักวิชาการบางสำนัก จึงสรุปว่า ทักษิณ และเพื่อไทย เป็นขวาใหม่ ที่มีอุดมการณ์อนุรักษนิยม และเน้นการแก้ไขเศรษฐกิจตามแนวทางเสรีนิยม
ขอลบรอยแผลใจ
วันเกิดทักษิณ 26 ก.ค. 2566 อาจต้องฉลองในต่างแดน เพราะสถานการณ์การเมืองในเมือง ยังไม่นิ่ง ปีที่แล้ว ครอบครัวชินวัตร ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่มีการสัมภาษณ์ ทักษิณ เรื่องเส้นทางชีวิต และครอบครัว ผ่านทางเว็บไซต์ Thaksinofficial เนื่องในวันเกิดของเขา
ทักษิณ เคยเล่าหลายครั้งว่า สาเหตุที่เขาถูกยึดอำนาจ 19 ก.ย.2549 จนต้องมาใช้ชีวิตอยู่นอกประเทศ 17 ปี เพราะเขาเป็นคนซื่อบื้อ คนโง่ ไม่ได้เข้าไปหากลุ่มอีลิท
ในคลิปวันเกิดปีที่ผ่านมา ทักษิณยังตอกย้ำเรื่องเก่าว่า เป็นคนบ้านนอก ผ่านสังคมกรุงเทพฯ หรือสังคมของอีลิทน้อยไป
“เราจึงไม่อยู่ในสังคมอีลิท แม้ฐานะเราอยู่ในสังคมอีลิท แต่แทนที่จะเข้าไปคบสังคมอีลิท กลับไปเข้าการเมือง ก็เลยกลายเป็นคนซื่อบื้อคนหนึ่ง”
ทักษิณอธิบายว่า ในวันที่ตระกูลชินวัตร เป็นไทคูนสื่อสาร มีดาวเทียม ทีวี และมือถือทักษิณยกระดับเป็นชนชั้นอีลิทได้แล้ว แต่แทนที่จะโลดแล่นในสังคมเงาแสงเพชร เขากลับเลือกเล่นการเมือง จึงตกระกำลำบากไปใช้ชีวิตในต่างแดน
ครั้งหนึ่ง ทักษิณเคยเล่า เรื่องลึกๆ ทั้งก่อนและหลังรัฐประหาร 2549 ตอนหนึ่งพูดว่า “ผมเป็นนักเลงพอ จบเป็นจบ”
การเดินทางกลับไทยในเร็ววันนี้ ทักษิณ อาจจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ลึกๆแล้ว เขาน่าจะภูมิใจที่เป็นพระเอกขี่ม้าขาว มาช่วยอีลิทหรือชนชั้นนำ แก้วิกฤตการเมือง ที่ถูกพรรคก้าวไกล รุกหนักชนิดทะลวงทะลุเพดาน.
