'นายห้าง' ทุบหม้อข้าว ฉากอวสาน 14 ปี 'เสื้อแดง'

ผ่านมาแล้ว 14 ปี จากคนรักทักษิณ สู่องค์กร นปก.-นปช. ที่สวม ‘เสื้อแดง’ ก่อนจะล่มสลายไปตามการเปลี่ยนแปลงของภูมิรัฐศาสตร์การเมืองไทย 

ชั่วโมงนี้ มีความชัดเจนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ที่รวบรวมเสียงได้แล้ว 278 เสียง รอการตัดสินใจของพรรครวมไทยสร้างชาติอีก 36 เสียง 

ทักษิณ ชินวัตร ผู้มีบารมีนอกประเทศ คงไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการขอกลับบ้านในช่วงบั้นปลายชีวิต ดังนั้น พรรคเพื่อไทยที่รับไม้ต่อมาจัดตั้งรัฐบาล จึงกลับเข้าสู่การเมืองโหมดปกติ รวบรวมเสียง สส.ให้ได้มากที่สุด 

ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น หลังเพื่อไทยเปิดทางดึงพรรคลุงคือ พลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ เข้ามาร่วมงานคือ มีกิจกรรมเผาสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับคนเสื้อแดง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

ขณะเดียวกัน ธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธาน นปช. ได้วิ่งรอกออกทีวีช่องโน้นช่องนี้ เพื่ออธิบายเรื่องคนเสื้อแดง กับการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ที่มีพรรค 2 ลุงร่วมด้วย

ป้าธิดา สรุปสั้นๆว่า “เห็นใจ แต่ไม่เห็นด้วย” คือเห็นใจเพื่อไทยที่ไม่มีทางเลือกมากนัก แต่ไม่เห็นด้วยที่จะดึงพรรคลุงมาร่วมด้วย

ประเด็นเสื้อแดง ที่ป้าธิดาอรรถาธิบายนั้น ดูจะสวนทางกับความเป็นมาของขบวนการ นปช.

“ความหมายของเสื้อแดงจริงๆ แล้วคือการต่อสู้และต่อต้านการรัฐประ หาร และเผด็จการตั้งแต่ปี 2549 ขอย้ำว่า สีแดงไม่ใช่สีของพรรคเพื่อไทย”

ป้าธิดาพูดถูก ในอีกด้านหนึ่งก็ต้องรับรู้ว่า รากของคนเสื้อแดงมาจากกลุ่มคนรักทักษิณ และมวลชนที่เข้าร่วมการชุมนุมใหญ่แต่ละครั้ง หัว คะแนนเพื่อไทย เป็นคนบริหารจัดการ 

จะมีคนเสื้อแดงที่เรียกว่า ‘แดงอุดมการณ์’ (ไม่เกี่ยวกับทักษิณ-เพื่อไทย) ก็แค่ร้อยละ 5 ของสมาชิก นปช.แดงทั้งแผ่นดินในยุคเฟื่องฟู

ความเป็นจริงวันนี้ แกนนำ นปช.ระดับดาวเด่นดาวดัง แตกกระสานซ่านเซ็น จตุพร พรหมพันธุ์ กลายเป็นนักวิเคราะห์ข่าวหน้าจอทีวี จองกฐินนายใหญ่ทุกวี่วัน

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก พูดมากไม่ได้เพราะยังเป็น ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย จึงใช้ปักหลักขายอาหารอยู่ที่ร้านเยี่ยมใต้ ปากเกร็ด

คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายไปคนละทิศคนละทาง อาจกล่าวได้แกนนำ นปช. นี่แหละเป็นคนกลุ่มแรกที่เปิดปฏิบัติการสลายขั้วสี มาตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562

ปฐมบทแดงทักษิณ

จุดเริ่มต้นของคนเสื้อแดง มาจากการรวมตัวกันของวีระกานต์ มุสิกพงศ์, จตุพร พรหมพันธุ์, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และจักรภพ เพ็ญแข ตั้งบริษัทพีทีวี ทำช่องทีวีดาวเทียม และพัฒนาไปสู่ม็อบพีทีวี สู้เพื่อทักษิณ โดยมีขาใหญ่แถวบุรีรัมย์ เป็นสปอนเซอร์

ปี 2551 ม็อบพีทีวี ได้ยกระดับเป็น “แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ” (นปก.) และตอนเปิดยุทธการบุกบ้านป๋าเปรม ก็ยังไม่ได้สวมเสื้อแดง และใช้ผ้าโพกหัวสีเหลืองด้วยซ้ำไป 

ปี 2552 ยุบ นปก. และจัดตั้งองค์กรใหม่ “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” (นปช.) ภายใต้การสนับสนุนของทักษิณ เหมือนเดิม

เมื่อยุทธการโค่นอำมาตย์ กลางปี 2552 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น นปช.แดงทั้งแผ่นดิน เรียกว่าเป็นยุคทองของคนเสื้อแดง ที่มี ตู่-จตุพร พรหมพันธุ์ และ เต้น-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นตัวละครหลัก 

หลังการสลายชุมนุมที่ราชประสงค์ในปี 2553 ภายในขบวนการ นปช. เกิดความขัดแย้งทางความคิด หลายกลุ่มเริ่มไม่ยอมรับการนำของแกนนำบางคน

ปี 2556 “แรมโบ้อีสาน” เสกสกล อัตถาวงศ์ แยกตัวออกจาก นปช.ไปตั้งกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.) 

หลังรัฐประหาร 2557 แกนนำ นปช. ต่างทยอยขึ้นศาลในคดีค้างเก่าสมัยยุทธการโค่นอำมาตย์ และบางส่วนต้องเข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำ

“นี่คือสิ่งที่เรียกว่ารางวัลของนักต่อสู้ มีคุกตะราง มีชีวิต และท้ายที่สุดก็ล้มละลาย สำคัญสุดคือว่าเมื่อคดีถึงที่สุดก็ต้องน้อมรับคำตัดสิน” จตุพร รำพันผ่านรายการลมหายใจของพีซทีวี เมื่อปี 2562

พรรคเพื่อชาติ

ช่วงเลือกตั้งปี 2562 จตุพร พรหมพันธุ์ ร่วมกับ ยงยุทธ ติยะไพรัช และ สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ตั้งพรรคเพื่อชาติ ตามแผนแตกแบงก์พันของนายใหญ่

ตอนนั้น จตุพร ยังปักหลักที่ชั้น 5 อิมพีเรียล ลาดพร้าว โดยมีสำนักข่าวพีซทีวี เป็นกระบอกเสียง ผลิตคอนเทนท์การเมือง ผ่านช่องยูทูบและทีวีดาวเทียม

หลังเลือกตั้ง จตุพร แยกทางจากยงยุทธ และสงคราม เพราะมีความขัดแย้งในพรรคเพื่อชาติ และหันไปทำสำนักข่าวพีซทีวี ที่ซอยนวลจันทร์ 

ปี 2565 จตุพร พรหมพันธุ์ สลัดทิ้ง นปช. และคนเสื้อแดง หันไปจับมือทนายนกเขา-นิติธร ล้ำเหลือ จัดตั้งคณะหลอมรวมประชาชน จัดการชุมนุมใหญ่ขับไล่ประยุทธ์

ปัจจุบัน ตู่ จตุพร รับบทวิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน นั่งวิเคราะห์การเมืองรายวัน ผ่านสื่อออนไลน์ช่องพีซทีวี

พรรคเส้นทางใหม่

4 ปีที่แล้ว เต้น ณัฐวุฒิ แยกตัวออกมาจากตู่ จตุพร พาแกนนำ นปช. อย่างธิดา-เหวง มาตั้งศูนย์ข่าวยูดีดีนิวส์ อยู่แถวเมืองนนทบุรี โดยจัดรายการทีวีออนไลน์ แพร่ภาพหลายช่องยูทูบ UDD news Thailand

กลางปี 2564 ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ จาตุรนต์ ฉายแสง ได้เตรียม การเปิดตัวพรรคเส้นทางใหม่ โดยมีการก่อสร้างสำนักงานพรรคในเนื้อที่ 2 ไร่ อยู่แถวปากเกร็ด

เสี่ยเต้นและเสี่ยอ๋อย ฝันอยากปั้นพรรคการเมืองเป็นทางเลือกใหม่ ที่มีอุดมการณ์และนโยบาย ไม่ต่างจากพรรคก้าวไกล 

หลังกติกาเลือกตั้งเปลี่ยน จากบัตรใบเดียวเป็นบัตรสองใบ อ๋อย จาตุรนต์ ถอดใจ จึงล้มแผนสร้างพรรคเส้นทางใหม่ และหวนกลับเพื่อไทย เช่นเดียวกับ เต้น ณัฐวุฒิ ที่กลับไปรับตำแหน่ง ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย 

คนสวมเสื้อแดง

ก่อนช่วงหาเสียงเลือกตั้งปี 2566 อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้แต่งตั้ง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. เป็น ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย บริหารเวทีปราศรัยใหญ่ของครอบครัวเพื่อไทย เดินหน้าคู่ขนานพรรคเพื่อไทย

แกนนำพรรคเพื่อไทย คงอยากให้เหมือนปี 2554 ยุทธศาสตร์ 2 ขาคือ เพื่อไทย เดินคู่ขนาน นปช. จุดกระแสยิ่งลักษณ์ฟีเวอร์

ผลการเลือกตั้ง สส.ปี 2566 ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ยุทธศาสตร์ 2 ขาของเพื่อไทยนั้น ตกยุคตกสมัย คนเสื้อแดงได้สลายตัวไปแล้ว จึงทำให้ผู้สมัคร สส.เพื่อไทยจำนวนมาก แพ้เลือกตั้งในสมรภูมิภาคเหนือ และภาคอีสาน

เฉพาะภาคอีสาน ที่มั่นใหญ่ของคนเสื้อแดง เพื่อไทยพ่ายภูมิใจไทย มากถึง 35 เขต และแพ้ก้าวไกลอยู่ 8 เขต

ทักษิณ ชินวัตร คงเห็นแล้วว่า เพื่อไทยน่าจะกลับสู่การเป็นพรรคการเมืองในสถานการณ์ปกติ ขายนโยบายที่จับต้องได้ เหมือนยุคไทยรักไทย หมดเวลาของการเมืองสีเสื้อ

คนแดนไกลจึงเลือกยุทธศาสตร์ทุบหม้อข้าว ทิ้งคนเสื้อแดงยุค นปช.ไว้เบื้องหลัง เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลพิเศษ ฝ่าวิกฤตรัฐธรรมนูญ ,วิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตความขัดแย้งแตกแยก