จับชีพจร ‘นครปฐม’ บ้านใหญ่เผชิญพายุ ‘กำนันนก’
บ้านใหญ่หลบพายุ ‘สะสมทรัพย์’ เก็บตัวเงียบ คดี ‘กำนันนก’ สะ เทือนนครปฐม ในยุค ‘บ้านส้ม’ สดใหม่ รุกไล่การเมืองเก่า
ผลเลือกตั้ง สส.นครปฐม 2566 ตระกูล ‘สะสมทรัพย์’ สั่นไหวด้วยพลานุภาพ ‘บ้านส้ม’ บ่งชี้อนาคตบ้านใหญ่ต้องปรับตัวอย่างแรง
คดีกำนันนก นครปฐม หรือประวีณ จันทร์คล้าย อวดศักดาบารมีจนทำให้เกิดเหตุอุกฉกรรจ์สังหารโหดนายตำรวจในบ้านพัก สะท้อนภาพโรคเรื้อรังระบบอุปถัมภ์ สายสัมพันธ์อันแนบแน่นของผู้มีอิทธิพลกับเจ้าหน้าที่รัฐ
บังเอิญโซเชียลมีการขุดคลิปเก่า งานวันเกิดกำนันนก เมื่อปี 2565 ที่มีเพื่อนกำนัน นายก อบต. รวมถึงนายตำรวจใหญ่ในพื้นที่ มาร่วมอวยพรวันเกิดกำนันคนดัง ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม
ในคลิปนั้น มีภาพและเสียงของ จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายก อบจ.นครปฐม ได้ขึ้นกล่าวคำอวยพร และบอกเล่าความสัมพันธ์ของพ่อไชยา กับผู้ใหญ่โยชน์ แห่ง ต.ตาก้อง ที่เป็นพ่อของกำนันนก
หลังเกิดเหตุมีการยิงตำรวจตายที่บ้านกำนันนก เจ้าหน้าที่ อบจ.นครปฐม ได้แจ้งกับนักข่าวว่า จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายก อบจ.นคร ปฐม มีอาการป่วย จึงไม่ได้มาทำงาน และยังไม่พร้อมชี้แจงต่อประเด็นหรือข้อสงสัยต่างๆ
เมื่อส่องนครปฐมในมิติทางการเมือง พ.ศ.นี้ บ้านใหญ่ ‘สะสมทรัพย์’ อยู่ในช่วงขาลง และต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เนื่องจากสายลมการเปลี่ยนแปลงมาเยือนเมืองเจดีย์ใหญ่แล้ว
แม้ผลเลือกตั้ง สส.นครปฐม ปี 2566 บ้านใหญ่ในสีเสื้อพรรคชาติ ไทยพัฒนา จะได้ สส. 3 ที่นั่งจากทั้งหมด 6 ที่นั่ง แต่ส่องลึกรายเขตแล้ว มีพื้นที่ปลอดภัยอยู่เพียงเขตเดียวคือ เขต 3 อ.เมืองเมืองนครปฐม(บางตำบล รวมถึง ต.ตาก้อง) และ อ.กำแพงแสน (บางตำบล)
สส.นครปฐม เขต 3 คือ พาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ ลูกชายคนรองของเสี่ยอ้อน-ไชยา สะสมทรัพย์ ผู้ล่วงลับ ซึ่งมีคะแนนทิ้งห่างอันดับ 2 พรรคก้าวไกล เกือบ 2 หมื่นคะแนน
ขณะที่ผลคะแนน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ครองแชมป์นครปฐม โกยมา 273,736 คะแนน ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนา ได้เพียง 13,358 คะแนน
ปีนี้ สนามเมืองเจดีย์ใหญ่ พรรคก้าวไกล ได้ สส.เขต 2 ที่นั่ง และอีก 1 ที่นั่ง ตกเป็นของพรรครวมไทยสร้างชาติ
บ้านส้มล้มบ้านใหญ่
สัญญาณการเปลี่ยนแปลงในการเมืองระดับชาติ ที่ จ.นครปฐม ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อการเลือกตั้ง สส.ปี 2562 ตอนนั้น พรรคอนาคตใหม่สร้างปรากฏการณ์ล้มช้าง ได้ สส. 2 ที่นั่งจากทั้งหมด 5 ที่นั่ง
ตระกูลสะสมทรัพย์ มีเพียง เสี่ยโหน่ง-พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ สอบได้คนเดียว ส่วนเครือญาติ ทั้งเผดิมชัย และอนุชา สอบตกหมดเลย
ตระกูลแก้วพิจิตร หรือที่เรียกกันว่า บ้านรอง ก็ได้มาคนเดียวคือ เสธ.แก้ว-พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร
พรรคอนาคตใหม่ ได้ 2 ที่นั่งคือ สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ที่เขต อ.บางเลน และ จุมพิตา จันทรขจร ที่เขต อ.สามพราน ส่วนที่เหลืออีก 1 ที่นั่ง ได้แก่ ปฐมพงษ์ สูญจันทร์ พรรคพลังประชารัฐ
โชคดีของบ้านใหญ่สะสมทรัพย์ เมื่อจุมพิตา ป่วยหนักขอลาออกจาก สส. จึงมีเลือกตั้งซ่อม เขต 5 เผดิมชัย จึงคว้าชัยชนะได้เข้าสภาฯอีกสมัย
สำหรับการเลือกตั้ง สส.นครปฐม ปี 2566 บ้านใหญ่สะสมทรัพย์ มีการปรับกลยุทธ์หาเสียง และทำการบ้านอย่างหนัก เพราะมีคู่แข่งที่น่ากลัวทั้งก้าวไกล และเพื่อไทย
สุดท้ายพรรคชาติไทยพัฒนา ก็คว้าเก้าอี้ สส.มาได้ 3 ที่นั่งคือ เขต 1 ศุภโชค ศรีสุขจร ,เขต 3 พาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ และเขต 5 อนุชา สะสมทรัพย์
ส่วนพี่ใหญ่ตระกูลสะสมทรัพย์ เผดิมชัย พ่ายผู้สมัคร สส.หน้าใหม่ พรรคก้าวไกล ที่เขต อ.สามพราน ซึ่งเขตนี้ ประเมินว่าอิทธิพลบ้านส้มน่าจะเข้ามาแทนที่บ้านใหญ่ เนื่องจากประชากรในสามพราน ส่วนใหญ่เป็นคนใช้แรงงาน และมีหมู่บ้านจัดสรรใหม่ๆเกิดขึ้นราวดอกเห็ด
กลุ่มชาวบ้าน
30 กว่าปีที่แล้ว เสี่ยอ้อน-ไชยา สะสมทรัพย์ เล่นการเมืองท้องถิ่น ได้ตั้งองค์กรการเมืองชื่อ “กลุ่มชาวบ้าน” ประกาศให้รู้ว่า คนบ้านบ้านจะรวมตัวกันทำงานการเมืองพัฒนา จ.นครปฐม
ไชยาในฐานะหัวหน้ากลุ่มชาวบ้าน คนนครปฐมเรียกกันติดปากว่า หัวหน้าอ้อน ซึ่งสมัยโน้น กลุ่มชาวบ้าน ส่งคนลงสมัคร สจ. จนยึดสภา อบจ.นครปฐม และมีตัวแทนเป็นนายก อบจ.นครปฐม 4 สมัย คือ พะเยาว์ เนียะแก้ว
หลังความปราชัยในสนามเลือกตั้ง สส.ปี 2562 เสี่ยอ้อน ไชยาประมุขบ้านใหญ่มาลัยแมน ได้มอบตำแหน่งประธานกลุ่มชาวบ้าน ให้ลูกชายคนโต จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ เพื่อเตรียมตัวลงสมัครนายก อบจ.นครปฐม
การตัดสินใจเลือกเสี่ยหนึ่ง-จิรวัฒน์ ลูกชายคนโตที่ประสบความ สำเร็จในธุรกิจกำจัดขยะ ด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ เพราะเสี่ยอ้อน ตระหนักดีว่า การเมืองนครปฐม กำลังเข้าจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ
ช่วงเลือกตั้งนายก อบจ.นครปฐม ปลายปี 2563 เสี่ยหนึ่ง-จิรวัฒน์ตัวแทนกลุ่มชาวบ้าน ต้องแข่งกับคณะก้าวหน้า และ พเยาว์ เนียะแก้ว อดีตนายก อบจ.นครปฐม ที่แยกตัวออกมาจากบ้านใหญ่มาลัยแมน
ผลการเลือกตั้งท้องถิ่นเมืองเจดีย์ใหญ่ เสี่ยหนึ่ง ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.นครปฐม มีคะแนนทิ้งห่างผู้สมัครในทีมก้าวหน้าหลายช่วงตัว
ส่วนสภา อบจ. ปรากฏว่า กลุ่มชาวบ้าน ได้ สจ. 27 เขต จากทั้งหมด 30 เขต และในการเลือกตั้งเทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และนายก อบต. กลุ่มชาวบ้านยังยึดครองพื้นที่ไว้ได้เป็นส่วนใหญ่
สะสมทรัพย์รุ่น 3
ตระกูล “สะสมทรัพย์” ก่อร่างสร้างอาณาจักรธุรกิจ โดยประเสริฐ-สุนีย์ สะสมทรัพย์ ในนามบริษัทกลุ่ม 79 เริ่มก่อตั้งด้วยการวิ่งรถสิบล้อ และเปลี่ยนมาทำธุรกิจรถทัวร์สาย 79 จนมาถึงสะสมทรัพย์ รุ่นที่ 2 มองเห็นโอกาสของการรับงานกำจัดขยะ จึงได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2539
ปี 2526 ไชยยศ น้องรองเป็นคนแรกของตระกูล ที่ลงสนามการ เมืองระดับชาติ ตามมาด้วยพี่ใหญ่ เผดิมชัย จวบจนยุคหลังๆ จึงเป็นคิวของน้องสองคนคือ ไชยา และอนุชา
ในทางการเมือง ไชยยศเหมือนเป็นผู้นำของสะสมทรัพย์ เพราะเรียนจบนอก และเป็นลูกเขยของ อุเทน เตชะไพบูลย์ การจะก้าวเดินไปทางไหน ย่อมขึ้นอยู่กับไชยยศตัดสินใจ
ปี 2544 ตระกูลสะสมทรัพย์ ทิ้งพรรคเอกภาพ แล้วบ้านใหญ่นคร ปฐม ก็เลือกพรรคไทยรักไทย ตามคำเชิญชวนของคุณหญิงพจมาน
ว่ากันตามจริง ตระกูลสะสมทรัพย์ ไม่เคยผูกขาด สส.นครปฐม มีสอบได้ สอบตก อย่างเลือกตั้ง 2535/2 สอบตกทั้งตระกูล
จุดแข็งของตระกูลสะสมทรัพย์คือ การเมืองท้องถิ่น ในนามกลุ่มชาวบ้าน ที่มี ไชยา สะสมทรัพย์ เป็นแม่ทัพใหญ่ คุมผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และนักการเมืองถิ่นทุกระดับ
หลังสิ้นหัวหน้าอ้อน ไชยา มรดกการเมืองก็ส่งมาถึงเสี่ยหนึ่ง-จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายก อบจ.นครปฐม และเสี่ยโหน่ง-พาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ สส.นครปฐม เขต 3
ชั่วโมงนี้ เสี่ยหนึ่ง และเสี่ยโหน่ง ผู้นำสะสมทรัพย์ รุ่นที่ 3 กำลังเผชิญพายุกำนันนก พัดถล่มบ้านใหญ่ และส่งผลต่อภาพลักษณ์กลุ่มชาวบ้าน และบ้านใหญ่มาลัยแมน
ทางเลือกในโมงยามวิกฤตศรัทธา บ้านใหญ่สะสมทรัพย์ คงจะหลบอยู่ในที่ตั้งสักพัก เฝ้ารอเวลาให้พายุพัดผ่านไปโดยเร็ว